“เนย” คาดแต่งปีหน้า เผยพยายามปรับตัวเข้าหาบ้านฝ่ายชาย

“เนย” คาดแต่งปีหน้า เผยพยายามปรับตัวเข้าหาบ้านฝ่ายชาย

         สำหรับสาว “เนย วรัฐฐา อิมราพร” หรือ “เนย เนโกะจัมพ์” ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่าจะแต่งงานกับแฟนหนุ่ม “ฤทธิ์ กาไชย” หลังเจ้าตัวถูกขอแต่งงาน แต่ก็มีข่าวเมาท์ออกมาว่าที่บ้านของหนุ่ม "ฤทธิ์" ดันไม่ปลื้มสาว "เนย" ซะงั้น ก็เลยต้องขอเลื่อนกันออกไปก่อน แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ฝั่งนั้นเขาจะโอเคกับเจ้าตัวหรือยัง แล้วทั้งคู่มีแพลนแต่งเร็วๆ นี้หรือไม่ วันนี้ก็เลยให้สาว "เนย" มาอัพเดทกันสักหน่อย

         ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ก็ต้องรอสักปีหน้า คือเนยกับพี่ฤทธิ์เรายังไม่ได้คิดว่าจะมีข่าวดีเมื่อไหร่ แต่เราแค่ประมาณกันเฉยๆ เราก็คุยกันแค่สองคนว่าเราอาจจะแต่งช่วงประมาณปลายปีหน้าดีไหม เอาที่สะดวก จริงๆ แล้วการที่เราไปงานเพื่อนเจ้าสาวหลายครั้งถ้าคิดเป็นเงินก็คงจะได้หลายหมื่น เพราะเยอะมากเลย (หัวเราะ) ที่ยังไม่พร้อมตอนนี้คงติดเรื่องงาน เพราะว่าเพิ่งหมดสัญญาไป ตอนนี้ก็อิสระ เหมือนเป็นการเริ่มทำอะไรใหม่ๆ หลายๆ อย่าง งานใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา เช่น พิธีกร เนยก็อยากให้งานลงตัวมากกว่านี้ก่อน ยังไม่อยากรู้สึกว่าแต่งงานไปทั้งๆ ที่ชีวิตเรายังไม่ลงตัว และไม่อยากรู้สึกว่าแต่งงานไปสามีต้องหาเงินเลี้ยง อะไรแบบนั้นไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ เนยเลยบอกพี่ฤทธิ์ว่าขอเนยเคลียร์เรื่องงานก่อนแล้วเราค่อยว่ากันเรื่องแต่งงาน

        ส่วนเรื่องครอบครัวของเขาที่เคยมีประเด็นข่าวเรื่องที่แม่ไม่ปลื้ม เนยว่ามันก็ใช่จากข่าวตอนนั้นที่มีปัญหากันไป ก็ต้องรอเวลาด้วย อย่างที่เนยบอก ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา มันคงไม่ได้คุยกันง่ายอะไรแบบนั้น และอีกอย่างมันก็อยู่ในช่วงเวลาที่เราต้องปรับตัวในเรื่องงานของเราด้วย และก็เรื่องทางบ้านของพี่ฤทธิ์ด้วย เนยอยากให้ทุกอย่างมันโอเคก่อนแล้วค่อยแต่ง ไม่อยากแต่งทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรลงตัวสักอย่าง หลังจากที่ผ่านมามันก็ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ดีมากโดยทันที แต่มันก็ค่อยๆ ไปทีละนิด ส่วนตัวเนยรู้สึกว่าเราไม่ต้องรีบที่จะแต่งงานกันก็ได้ เพราะยังไงเราก็คบกันอยู่ดี เรื่องของการแต่งงานมันก็เหมือนเป็นพิธี จัดเป็นประเพณีเท่านั้นเอง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเราแต่งงานกันแล้ว เนยว่ามันสามารถที่จะรอกันได้ จริงๆ เรื่องการแต่งงานทางผู้ใหญ่เองก็รู้อยู่แล้ว เพราะตอนแรกทางพี่ฤทธิ์เขาก็รีบ อยากจะแต่งงาน ด้วยอายุของเขาและเพื่อนๆ ของเขาก็แต่งงานกันหมดแล้ว แต่เนยก็บอกไปว่าขอรอเวลาอีกนิดนึง ไหนจะเรื่องของทางบ้านพี่เขาด้วย เนยไม่อยากจะรีบ เนยเองก็อยากให้ทางบ้านของเขาโอเคด้วยเหมือนกัน เนยไม่อยากจะแต่งโดยที่ทางบ้านของเขายังไม่โอเค มันรู้สึกไม่สบายใจ

       ถ้าถามว่าได้เข้าไปหาทางบ้านพี่เขาไหม ตั้งแต่เกิดเรื่องมาเนยยังไม่ได้เข้าไปเจอที่บ้านเลย ก็จะเจอแต่ข้างนอกกันมากกว่า อย่างน้องชายเขา พี่พิชญ์เขาก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ส่วนคุณพ่อของพี่ฤทธิ์เองเนยก็เคยเจอ นานๆ ทีเจอบ้าง คุณพ่อพี่ฤทธิ์เขาก็โอเค คอยให้กำลังใจ ก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ส่วนคุณแม่เนยก็เข้าใจว่าคนเป็นแม่ยังไงเขาก็ต้องหวงลูกเป็นธรรมดา อย่างแม่เนยเองก็หวงเหมือนกัน เนยก็รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เนยเองก็เข้าใจ เนยว่าเขาก็มีเหตุผลของเขาที่ไม่ชอบเนยก็ได้ ไหนจะเรื่องข่าว เรื่องลุคของเรา และหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง มันก็เป็นไปได้ เราก็เลยต้องใช้เวลาในการเข้าถึงเยอะมากๆ กว่าที่เขาจะรู้สึกว่าเราโอเค เนยมองว่ามันก็เป็นแง่ดีที่ได้พิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเรามีความจริงใจ ว่าเรารักลูกของเขาจริงๆ และเราสองคนก็อยู่ในสายตาของเขา ไม่เคยทำอะไรข้ามหัวเลย ก็คิดว่านานๆ ไปมันก็คงจะดีขึ้น มันก็มีท้อบ้าง เพราะเวลาเราคบกับใครก็คงอยากให้ทุกอย่างราบรื่น ไม่อยากจะคบแบบมีอุปสรรค แต่ก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ มันเป็นความจริงที่เราต้องเจอ ในเมื่อมันมีปัญหาเราคงต้องสู้และอดทน และผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เนยเคยไปขอคำปรึกษาก็บอกว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์มันก็ต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา ต่อให้เริ่มต้นจะง่ายดาย แต่นานๆ ไปก็อาจมีปัญหาได้ ก็ให้คิดซะว่าอันนี้คือบททดสอบที่มันสร้างภูมิต้านทานให้เราตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า ผู้ใหญ่ทุกคนก็พูดถ้าเราเป็นคนดีจริงๆ และตั้งใจจริงๆ สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเห็น ก็ให้อดทนไปก่อน จริงๆ เรื่องนี้เนยก็มีคุยกับพี่ฤทธิ์เหมือนกัน เพราะเนยเองก็อยากเข้าไปพบท่านเหมือนกัน อยากลองปรับความเข้าใจ แต่พี่ฤทธิ์เขาก็อยากให้เชื่อเขาว่าเขาก็รู้จักที่บ้านของเขาดี เนยว่าเขาก็คงรู้จังหวะของที่บ้านเขาว่าจะเข้าไปได้ตอนไหน อะไรอย่างไร ปีใหม่ที่จะถึงก็อยากจะหาโอกาสเข้าไปเหมือนกัน แต่ก็คงต้องคุยกับพี่ฤทธิ์เขาก่อน

         ส่วนจะต้อง Fade ตัวออกมาจากวงการไปเลยหรือเปล่า เพื่อให้ภาพลักษณ์เราดูดีขึ้น ถึงทางที่บ้านพี่เขาจะยอมรับเนยว่ามันไม่ได้รู้สึกว่าแย่อะไรขนาดนั้นที่ทำให้เราต้องถึงขั้นเลิกทำงาน และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนั้น เนยคิดว่ามันเป็นเพียงมุมมองมากกว่า บางทีทางบ้านเขาก็ได้ยินคนเมาท์ข่าวมา บางทีการพาดหัวข่าวอะไรทำนองนั้น เนยรู้สึกว่าตัวเนื้องานจริงๆ มันไม่เกี่ยวกับวงการบันเทิง มันก็เหมือนการแสดง ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนๆ มันไม่ได้ตีความหมายว่าเราจะเป็นคนแบบนั้น หรือคนแย่ๆ งานมันก็คืองาน เนยอาจจะมีแบบโอเคอาจจะมีซอฟท์ลงบ้างในลุคที่เซ็กซี่ เนยก็เข้าใจว่าในตอนนั้นก็เคยถ่ายหนังสือเพลย์บอย มันก็คงดูแย่ในสายตาผู้ใหญ่ มันจึงเป็นสาเหตุที่เราไม่รับงานที่เซ็กซี่เปลี่ยนเป็นลุคที่ดีขึ้น โดยส่วนตัวเนยไม่ได้รู้สึกผิดอะไรต่อความเซ็กซี่ ยังไงก็ได้ แต่ว่าด้วยมุมมองของผู้ใหญ่แล้วก็ด้วยสังคมของเรา วัฒนธรรมหลายๆ อย่าง เนยก็ได้คุยกับพี่ฤทธิ์ว่าเนยจะพยายามปรับให้ ในเมื่อทางบ้านเขาไม่ชอบและมันก็ทำให้เราดูไม่ดีในสายของเขา ถ้าเราจะเป็นไม้แข็งอยู่แบบนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ เราก็คงต้องพยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ แต่ว่าก็คงไม่ถึงขนาดลาออกจากวงการอะไรขนาดนั้น ตอนนี้ก็ถือว่าเลือกงานมากขึ้น โดยการเลี่ยงงานที่จะมีปัญหา เพราะเราไม่อยากทำให้มีปัญหาอะไรมากไปจากเดิม และเวลาที่มีงานติดต่อมาเนยก็จะปรึกษาพี่ฤทธิ์ตลอดว่าได้ไหม บางทีมีงานติดต่อมาให้ถ่ายแบบเซ็กซี่เราก็ต้องปรึกษากับพี่ฤทธิ์โดยการส่ง Reference ให้พี่เขาดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าพี่เขาไม่โอเคก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าโอเคเราก็โอเค ถ้าถามว่าเนยกับแจมใครแต่งก่อนกัน ก็คงจะเป็นเนยก่อน เพราะว่าที่บ้านเขาก็โยนมาให้เนยหมดเลย ส่วนเรื่องฤกษ์ก็ยังไม่ได้ดูเลย เพราะหลายๆ อย่างยังไม่ลงตัว ถ้าทุกอย่างทุกคนโอเคเราค่อยไปดูฤกษ์กัน