"เจษ" ครั้งแรกกับโรแมนติกคอมเมดี้ ปลื้มบทออกแนวพระเอกเกาหลี
ก่อนหน้านี้มีแต่ข่าวคราวเรื่องความรักกับสาวๆ แต่หลังจากที่ “เจษ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” สร้างชื่อจากละครเรื่อง “พิษสวาท” ที่รับบท “เชษฐา” ก็ทำให้หลายคนรู้จักและรักเขาในด้านความสามารถ และกลายเป็นนักแสดงที่มีงานจากต้นสังกัดป้อนเข้ามาแบบถี่ยิบ ทั้งบทพระเอกในละครเรื่อง “ชีวิตเพื่อฆ่า หัวใจเพื่อเธอ” รวมทั้ง “สงครามนักปั้น” และ "กาหลมหรทึก"
ล่าสุดที่กำลังออกอากาศกับซีรีส์ “Bangkok รัก Stories” ตอน คนมีเสน่ห์ ทางช่องวัน ที่หนุ่ม “เจษ เจษฎ์พิพัฒ” เปลี่ยนมารับบทเป็นหนุ่มนุ่มนวลชวนฝัน ประกบคู่กับ "กิ๊บซี่ วนิดา" มาฟัง "เจษ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์" พูดถึงตัวเองในมุมมองของการแสดงหลังจากที่สร้างชื่อจนเป็นที่ยอมรับของแฟนๆ แล้ว
ที่ผ่านมาก็ถือว่าคนรู้จักมากขึ้นจากละครเรื่อง “พิษสวาท” คือต้องบอกว่าจริงๆ ผมว่าเป็นความโชคดีขององค์ประกอบรวม เพราะก่อนหน้านั้นเราไม่รู้หรอกว่าพี่นุ่น (นุ่น วรนุช) จะเล่นเป็นคุณอุบลยังไง พี่ป้อง (ป้อง ณวัฒน์) จะเป็นคุณพระยังไง เราจะเป็น เชษ ในลักษณะยังไง แต่พอองค์ประกอบรวมมันออกมาแล้ว แล้วคนดูชอบ แล้วสปอตไลท์มันดันฉายมาที่เรา เราเป็นโจทย์ของเรื่อง "พิษสวาท" คนก็เลยโฟกัสเราเยอะเท่านั้นเอง ก็ถือว่าทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นจากเรื่องนี้ แต่เชษเขาไม่ใช่ตัวละครที่คนจะรัก มีแต่คนจะเกลียด แล้วก็ด่า คือเป็นสีสันของเรื่องครับ แต่ผมว่าตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่ร้ายด้วยเหตุและผล เพราะส่วนใหญ่ตัวละครที่ร้ายจะร้ายด้วยอารมณ์
สำหรับซีรีส์ “Bangkok รัก Stories” ตอน คนมีเสน่ห์ ก็เป็นซีรีส์สนุกๆ คลายเครียด เป็นแนวตลกๆ ผ่อนคลาย แล้วก็มีโรแมนติกแทรกๆ บ้างนิดหน่อย น่าจะเข้ากับคนสมัยนี้ คนดูน่าจะเข้าถึงได้ ก็ฝากด้วยครับ คาแรคเตอร์ในเรื่องนี้ก็เล่นเป็นคนดีนะ เบาๆ อบอุ่น จริงๆ ไม่เคยเล่นนะบทแบบนี้ บทเป็นเหมือนพระเอกเกาหลีเลย
คือทุกครั้งที่เราเล่นละครเพิ่ม เราก็จะเจอเรื่องราวในนั้นเพิ่ม เป็นเรื่องราวที่เราไม่เคยเจอ ก็จะเข้าใจว่า อ๋อ การกระทำของคนแบบนี้ ทำเพราะแบบนั้น เราก็ได้มาอีกหนึ่งแบบละ ในทุกครั้งที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็จะเข้าใจคนอีกแบบหนึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะทำให้เราเข้าใจคนมากขึ้น แล้วก็ทำให้เราอ่อนไหวขึ้นมั้ง ผมว่าอย่างนั้นนะ
ถามว่าวางแผนในวงการอย่างไร ผมก็ไม่ได้วางแผนอะไร แต่ถ้าจะมีก็คืออยากไปให้ไกลที่สุด แต่เราก็ไม่รู้ว่าที่สุดมันคืออะไร เราไม่อยากจะไปขีดว่า เราต้องเป็นเบอร์ไหน มีเงินเท่าไหร่ อะไรอย่างนี้ คือบางทีที่ที่เราอยู่ หรือว่าอนาคตในใกล้ๆ ของเรา เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราแค่ได้อะไรมาเราก็ทำตรงนั้นให้เต็มที่ เต็มที่แบบหมายถึงเต็มที่จริงๆ แล้วถ้าเราเต็มที่จริงๆ ไปแล้วมันจะไปจบตรงไหนก็ไม่เป็นไร
