"ปู ไปรยา" ยังไม่พร้อมแต่ง ลั่น "แมทธิว" คือคนที่ใช่
ถูกจับตาเรื่องความรัก สำหรับสาว "ปู ไปรยา สวนดอกไม้" ที่ก่อนหน้านี้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าห่างกับแฟนหนุ่ม "แมทธิว อาร์ บราก" ชาวสวีเดน แต่ล่าสุดความรักของทั้งคู่ก็ดูจะกลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเจอสาว “ปู” เลยไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องนี้สักหน่อย
ถ้าถามว่าความรักครั้งนี้กลับมาสดใสไหม ปูว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกมากกว่าการที่คนสองคนได้มาเจอกัน แปลกที่ได้มาอยู่ด้วยกัน แล้วก็แปลกที่ได้มารักกัน แล้วมันไม่ใช่เพียงแค่เป็นรักข้ามประเทศแต่มันเป็นการที่รักข้ามทวีป คือกลางคืนของเขาคือกลางวันของเรา แล้วโดยส่วนตัวปูเองก็ไม่ใช่คนง่ายที่จะคบ ไม่ใช่คนที่อยู่ด้วยแล้วก็จะได้ แต่เขาเองก็เป็นคนที่จิตใจดี แล้วปูเองก็รู้สึกได้ว่าเรานั้นรักกันจริงๆ ก็พยายามที่จะช่วยกันทำให้มันเดินหน้า เขาอยู่กับปูในวันที่ปูไม่เหลือใคร บางครั้งในวันที่ช่วงจังหวะที่เราเลิกกันแล้วปูไม่เหลือใครจริงๆ เขาก็อยู่ข้างปู เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดี
ในปีหน้าทุกคนก็อาจจะได้เห็นเขามาที่เมืองไทยบ่อยขึ้น เขาก็คงคือคนที่ใช่ แล้วเดือนตุลาคมเขาก็บินมารอบหนึ่งแล้วเดี๋ยวปีหน้าเขาก็คงจะบินมาได้บ่อยขึ้น เขาก็คือจะมาใช้เวลาอยู่กับปูกับครอบครัวของปู เวลาที่ปูทำงานเขาก็จะมาหาเรา เวลาที่เราทำงานเขาก็จะมาให้กำลังใจ มาเป็นเพื่อน มันก็เหมือนเป็นการที่เรามองข้ามอุปสรรค เพราะมองว่าในเมื่อเรารักกันแล้วปัญหานั้นมันอาจจะมีอยู่ แต่ว่าเราโตแล้ว เรามีวุฒิภาวะแล้ว ถ้าเราไม่มีความอดทนเราคบกับใครมันก็ไปไม่รอด ก่อนหน้านี้ก็เครียดแต่คิดว่าไม่ใช่ทุกปัญหา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบใดที่เรายอมรับผิดของตัวเอง ก็เหมือนกับการที่ปูให้สัมภาษณ์เวลาปูผิดก็ยอมรับผิด ตัวปูเองจะเป็นคนแมนๆ เมื่อเราผิดเราก็นำข้อผิดพลาดตรงนั้นมาแก้ไข ก็สุดท้ายแล้วเงินทองชื่อเสียงมันไปด้วยไม่ได้ ที่ปูอยากสร้างชื่อเสียงก็เพื่อคืนกลับประเทศชาติ นั่นคือเหตุผลเดียวสิ่งที่ทำ ท้ายแล้วอีกอย่างที่ต้องทำ ก็คือสถาบันครอบครัวมั่นคง
ปูทำอะไรผิดพลาดมาเยอะยอมรับในอดีต แต่ตอนนี้อยู่ในวัยที่ถ้าวางตัวให้คนมองว่าปูอยู่ในโลกของความเป็นจริงคนเราจะสวยอยู่แบบนี้ตลอดเหรอ สุดท้ายแล้วตัวเราเองก็ต้องมีลูก มีครอบครัวแล้วก็ต้องเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีแก่สังคม ต้องสร้างสถาบันครอบครัวที่เหมาะสม โดยส่วนตัวมองเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ก็ถึงบอกว่า ถ้าถามว่าคิดไหม ก็ตอบได้เลยว่าคิด แต่ต้องรออีกสองสามปีซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน มองถึงในเรื่องของอนาคตทุกวันนี้ก็ทำอยู่แล้วก็ช่วยช่วยกันทำ ช่วยกันสร้างตัว เขาเองก็ให้คำปรึกษาได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นงานยูเอ็นที่ทำอยู่เขาเข้ามาช่วย บอกไว้ก่อนว่ายังไม่แต่งงาน จ้างกันไปก่อนเลยสองถึงสามปี คุยกันบ่อยไหม ก็คุยถ้าคบกันข้ามทวีปขนาดนี้ไม่คุยก็คงแปลกถ้าไม่คุย เพราะว่าถ้าลงทุนขนาดนี้บินไปบินมาอดทนขนาดนี้ ไหนจะตารางงานปูเองก็ไม่ได้อยู่แค่ที่อเมริกาไปยุโรปด้วยมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ปูเชื่อว่าเขานั้นอยากที่จะมาใช้เวลาที่เมืองไทยมากขึ้น เขาอยากที่จะมาเรียนวัฒนธรรมเข้าวัดอยากที่จะมาเรียนรู้ภาษาไทยให้มากขึ้นและปูก็รู้สึกดี
แม่ปูกับแม่ของเขาก็ได้เจอกันแล้ว ตอนนั้นที่แม่ปูได้ไปที่นิวยอร์กและพอเขามาที่เมืองไทยก็พาเขาไปเดินที่สวนลุมพินี เพราะเขาอยากไปเดินสวนก็เลยพาไป แล้วก็มีวัดโพธิ์ที่พาไป ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเขานะที่ได้มา เขาเคยมาตอนแรกเมื่ออายุ 12 ปี แต่ยังไม่เคยมาตอนโต ก็เป็นความรู้สึกที่ดี ส่วนตัวเขาเองนั้นก็ชอบประเทศไทย ปูว่าคนเราเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่เราโตแล้วเราก็ต้องหัดควบคุมอารมณ์ การปรับตัวเข้าหากันคือสิ่งที่สำคัญ ก็รอดูไปเรื่อยๆ ถามว่าทุกวันนี้มีความสุขไหม ก็มี เราก็อยู่กับปัจจุบัน คือตอนนี้ตัวปูเองทุ่มอยู่กับสามอย่างในชีวิตจริงๆ แล้วก็พี่ก็รู้ว่าปูเป็นคนที่ทำอะไรแล้วก็ทำแบบจริงจัง หนึ่งเรื่องงานร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีทางถอยอยู่แล้วบอกเลย ถ้าใครคิดว่าปูจะแต่งงานตอนนี้เราถอยไม่มีทาง
สองครอบครัวและคนที่ปูรักเขาเป็นส่วนหนึ่งและเป็นคนที่สำคัญสำหรับปู ก็จะให้เวลาเขาจริงๆ เพราะอยู่ในวัยที่โตแล้วปูแคร์ความรู้สึกของพ่อแม่และคนที่ปูรักมากกว่า และสามก็คือ ในส่วนของเรื่องงานสังคมชีวิตนี้ปูก็เอาแค่นี้แหละ