"อเล็กซ์" ลั่นมีทุกอย่างยกเว้นแฟน ขอเดินหน้าทำงานเพื่อสังคมต่อ
เป็นนักแสดงมากความสามารถที่ช่วงหลังๆ หันมาทำโครงการเพื่อสังคมอย่างจริงจังสำหรับ "อเล็กซ์ เรนเดลล์" เรียกได้ว่าช่วงนี้ทำงานหนักสุดๆ ไม่รู้ว่าเรื่องหัวใจจะมีสาวมาคอยดูแลหัวใจบ้างแล้วหรือยัง งานนี้หนุ่ม "อเล็กซ์" เผยถึงเรื่องนี้ว่า
ช่วงนี้ก็เป็นช่วงรอยต่อของการปิดกล้องละครและรอเปิดกล้องอีกเรื่องนึง เดือนนี้ผมก็เดินทางเยอะ ทำงานเยอะนิดนึง อย่างที่ผ่านมาก็ไปถ่ายรายการที่ญี่ปุ่นเลยขออยู่พักต่ออีก 2 วัน แต่กลับมาก็เหนื่อยกว่าเดิมเพราะทำงานเยอะ ช่วงนี้ก็เหนื่อยนิดนึง มันเป็นช่วงท้ายๆปีด้วย งานบริษัทมันก็จะเป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดของปี การดูแลช้างเข้าป่าก็ยังทำอยู่เพิ่งไปดู เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ไปดูอีก โปรเจคใหม่ๆก็มีอยู่ตลอด เราไม่หยุดที่จะคิดไม่หยุดที่จะทำ พยายามที่จะต่อสู้ให้ได้มากที่สุด บางครั้งเราก็คิดนะว่าเราทำงานเยอะไปหรือเปล่า เพราะเราทำหน้าที่ 3 หน้าที่ เป็นครูสอนในค่าย เป็นผู้บริหารอยู่ในออฟฟิต และไหนจะละครเรื่องนึง ปีหน้าเปิดเป็นสองเรื่อง แต่คิดว่ามันเป็นช่วงแรกๆที่เราเริ่มทำ ปีหน้าคงจะดีขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าทุกอย่างเกิดขึ้นยังไง ตอนนี้ก็หาคนที่มีประสบการณ์มาช่วยแบ่งเบาภาระ ให้มันเดินเป็นระบบไปได้โดยที่ไม่มีเรา แต่ในช่วงแรกมันก็เหนื่อยแบบนี้แหละ เราไม่ได้ปล่อยให้คนอื่นเขาทำ ไม่งั้นเราไม่ทำดีกว่าถ้าเราไม่ทำเอง เรื่องเวลาพักมันก็มีปัญหาบ้าง แต่สำหรับผมได้นอนแค่วันเดียวก็พอแล้ว ถ้าเกิดพักสองวันจะเริ่มคิดแล้วว่าจะทำอะไรดี แต่มันก็ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น เพียงแต่ว่าเราต้องการพักก่อนที่จะไปเล่นละคร เราต้องพักหนึ่งวันเต็มๆก่อนที่จะไปถ่ายละคร ต้องทำการบ้าน ทำให้มันออกมาเต็มที่ แต่ถ้าไม่มีถ่ายละครก็พร้อมที่จะลุยตลอดเวลา
จริงๆกิจกรรมต่างๆที่เราทำก็ไม่ถึงขั้นฆ่าเวลาความเหงา อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่มีในตอนนี้ และผมก็ไม่ได้รีบด้วย พอทุกอย่างลงตัวอันนั้นอาจจะเป็นช่วงจังหวะของชีวิตที่มันพร้อมที่จะมีอย่างนู้นอย่างนี้เข้ามาได้ แต่ตอนนี้เราก็เหนื่อย แค่คุณแม่คุณพ่อขนาดอยู่บ้านหลังคาเดียวกันก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย ช่วงนี้ก็คิดถึงเพื่อนๆด้วย บางทีเราดูในกรุ๊ปพอวันศุกร์เห็นเพื่อนๆไปเที่ยวกันแต่เราอยู่ป่า แต่มันก็เป็นหน้าที่เรา เดี๋ยวเดือนธันวาคมก็น่าจะดีขึ้น จุดที่หนักที่สุดมันผ่านไปแล้ว อาจจะได้เจอพวกพี่บอย เดี๋ยวก็จะมีละครเล่นกับพี่เกรท ก็น่าจะได้เจอกันบ่อยขึ้น เพราะหลังๆมานี้ไม่ได้เจอเลย ส่วนใหญ่ผมจะใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง ถ้าไม่จำเป็นจะไม่เข้ามาในเมืองเลยครับ ผมมีความสุขของผม มีเพื่อน มีครอบครัว ผมมีคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ผมไม่ได้ต้องการที่จะรู้จักกับทุกคน แต่ผมก็ทำตัวน่ารักกับทุกคน ตราบใดที่เขาให้เกียรติเรา ผมก็จะให้เกียรติทุกคน แต่ว่าผมแอปปี้กับชีวิตผมมาก ผมมีบริษัทแล้ว ผมเห็นบริษัทผมโตขึ้น เราก็ได้แต่นั่งมองภูมิใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ แล้วอยากจะทำมันต่อ คือเราอายุเท่านี้ถ้ามัวแต่มาห่วงว่าต้องมีเพื่อนเยอะแยะมันอาจจะยังไม่ใช่เวลา หลังจากนี้เราอาจจะมองว่าเราอยากจะมีครอบครัว เราอยากจะเติบโต ไม่อยากอยู่กับที่ เราเที่ยวมาเยอะมาแล้ว เจอเพื่อนๆมาเยอะแล้ว ตอนนี้มันเป็นวัยของการทำงานของเราแล้ว ถ้าจะเรียกว่ามีทุกอย่างแล้วยกเว้นแฟน จะเรียกอย่างนั้นก็ได้