รักลงล็อค “ออม บลูเบอร์รี่” แย้มข่าวดี อีก 2 ปี เตรียมจูงมือ “โยชิ” วิวาห์
วงการบันเทิงไทยมีนักร้อง นักแสดงหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ส่งผลไปถึงนักร้อง-นักแสดงรุ่นพี่ที่เคยแจ้งเกิดในวงการบันเทิง จนทำให้ต้องปลีกตัวออกมาทำอย่างอื่น อย่างนักร้องลูกทุ่งสาวเสียงดี “ออม บลูเบอร์รี่” ได้สลัดลุคนักร้องสุดแซ่บ หันมาเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงาม “MOCO-CHAN” โคลนโฟมมาส์กหน้า 2 in 1 นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่น เปลี่ยนหน้าพัง ให้กลายเป็นหน้าสวย "MOCO-CHAN" ทำให้คุณได้ แค่ล้างหน้าง่ายๆ วันละ 5 นาที สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ ที่ daradaily Shopping แหล่งรวมสินค้าดาราที่ใหญ่ที่สุด คลิกเลย! http://bit.ly/2AlVAxj
ปลูกต้นรักกับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นอย่าง “โยชิ โยชิโอะ นากาตะ” มาได้ 3 ปีแล้ว ทำเอาใครหลายคนลุ้นว่าจะมีข่าวดีเตรียมจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์กันหรือเปล่า สำหรับ “ออม เพลินศิลป์ เกตุแก้ว” หรือ “ออม บลูเบอร์รี่” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยให้ฟังถึงเรื่องนี้พร้อมทั้งอัพเดทถึงผลงานให้ฟังก่อนว่า
ตอนนี้ตนกับเพื่อนๆ คงหยุดการทำงานเพลงเพราะช่วงอายุที่โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นถ้าไม่รีบทำตอนนี้ก็คงจะไม่มีโอกาสทำงานด้านอื่น ซึ่ง ณ ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดถึงเวลาของคลื่นลูกใหม่อยากเปิดทางให้พวกเขา ซึ่งจริงๆ อยากร้องเพลงอยู่แต่พอมาทำธุรกิจแล้วไม่มีเวลามากพอที่จะทำก็ต้องรอดูกันอีกทีว่าจะมีหรือเปล่า ซึ่งกับแนวเพลงที่ดูเปลี่ยนไปในยุคสมัยนี้ก็เป็นไปตามกระแสถ้าจะทำก็ต้องดูว่า ณ ตอนนั้นคนชอบฟังเพลงแบบไหนหรือถ้าทำแล้วจะมีการแชร์กันมากน้อยแค่ไหนด้วย
ทั้งนี้ยังบอกว่ากับคนที่ปั้นอย่าง “พี่เณร ศุภชัย นิลวรรณ” ตอนนี้ก็มีการคุยกันอยู่ทั้งงานเพลงและเรื่องที่พี่เขาสามารถให้คำปรึกษาได้ ส่วนเรื่องสัญญากับทางต้นสังกัดก็คุยกันแล้วว่าไม่ต่อ เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นจะให้มาเต้นแบบเดิมคงไม่ไหว ตอนนี้หันมาทำธุรกิจด้วยยิ่งทำไม่ได้ เพราะเป็นผู้บริหารดูแลลูกน้องเยอะต้องทำให้เขาเคารพด้วย
สำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าก็โตเร็วมาก มีแพลนจะขยายไปประเทศเวียดนามต้นปีหน้า และไปประเทศเกาหลี, ญี่ปุ่น, จีน ต่อไป ขำๆ ถูกมองขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีนีก็แค่ธุรกิจไปได้ดีจริงๆ ตนเพิ่งทำมาแค่ 3 เดือนก็โตเร็วมาก และมองว่าเป็นโอกาสที่ดีมากกว่าแถมที่ทำก็ได้ทีมงานญี่ปุ่นที่มีประสิทธิภาพด้วย
ส่วนวันเกิดแฟนหนุ่มอย่าง “โยชิ โยชิโอะ นากาตะ” ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการเซอร์ไพรส์อะไรแบบเมื่อก่อน รู้สึกว่าโชคดีที่คบเขาก็เปลี่ยนความคิดตนด้วยจากที่ติดหรูหรือแบรนด์เนมก็ลดลง โดยเขาเองก็บอกไม่ต้องซื้ออะไรแค่ทานข้าวกันธรรมดาจริงๆ ปีนี้ตนจองที่ไปเที่ยวแล้วแต่ตนติดประชุมกับบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่เพื่อคุยธุรกิจกันเลยต้องยกเลิกเขาเองก็เข้าใจ กับข่าวดีเรื่องแต่งงานก็มีคุยไว้บ้าง ตอนแรกวางไว้เป็นปีหน้า แต่พอดีเป็นปีชงของฝ่ายชายเลยปรึกษาคุณแม่และพระอาจารย์ว่าฤกษ์ดีจะเป็นเมื่อไหร่ก็ขอให้เลื่อนไปอีกสัก 1 ปี เพราะไม่อยากให้พะวงกับเรื่องปีชง และพร้อมแต่งแล้วเหลือแค่อยากให้บริหารงานให้คงที่อีกนิดนึง ซึ่งระยะเวลาที่คบกัน 3 ปี แต่เป็นเพื่อนกันมาก่อนหน้านี้ 4 ปีแล้ว
