ฟังจากปาก “นาย ณภัทร” ความรู้สึกที่มีต่อไอดอล “ตูน บอดี้สแลม”

ฟังจากปาก “นาย ณภัทร” ความรู้สึกที่มีต่อไอดอล “ตูน บอดี้สแลม”

   อีกหนึ่งหนุ่มที่ได้มีโอกาสร่วมวิ่งในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” อย่าง “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับของนักร้องหนุ่ม “ตูน บอดี้สแลม” เมื่อได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่ม “นาย” เขาได้เผยความรู้สึกให้ได้ฟังว่า

   สำหรับจุดเริ่มต้นความจริงตั้งแต่เด็กวงของ “พี่ตูน” เป็นวงที่ตนรักและติดตาม เป็นวงเดียวที่แม่ตนยอมให้ดูคอนเสิร์ตดูอะไรตลอด เพราะทางคุณแม่เองได้มีดูสัมภาษณ์ต่างๆ และเห็นเขา ชอบทัศนคติ และพี่ตูนเป็นน่ารัก ตนเองก็ได้ติดตามตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่บิ๊กเม้าท์เทน ตามไปโรงเบียร์ ถ้าใครได้เห็นห้องนอนตนเองก็จะติดรูปวง “พี่ตูน” คือชื่นชอบตั้งแต่เด็ก พอได้ออกงานก็ได้มาร้องเพลงเซอร์ไพรส์ พอรู้ว่าพี่เขามีโปรเจ็คท์ที่จะทำ ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ งานตนเองก็มีมาทุกวัน พอมาท้ายปีก็ขอให้แม่เคลียร์คิว ก็ได้มีโอกาสไป

   ตอนแรกคิดว่าจะไปอยู่วันเดียว ก็ไปตั้งแต่วันศุกร์ (23 ธันวาคม) วันนั้นเขาเจ็บก็วิ่งได้แค่เซตเดียวในวันนั้น หลังจากนั้นเขาก็แพลนว่าอยากให้พวกตนวิ่งเซฟพี่ “ตูน” โดยวิ่งนำหน้าไปก่อน แกก็ยังเจ็บอยู่ แต่จะทำเหมือนไม่เจ็บ เพราะตนเองอยู่เบื้องหลัง ก็ยินดีช่วยเขา ช่วยรับเงินใส่ๆ มาก่อน ก็ช่วยได้เยอะ เพราะอีกแค่ 2 วันก็ถึงจุดหมายแล้ว เขาวิ่งมาหลายวันแล้ว ก็คิดว่าต้องอยู่ช่วยเขา

   คือวิ่งทั้งสายตนเองได้เห็นเด็กๆ วิ่งเอากระปุกออมสินมาให้เยอะมาก ก็มีช่วยรับ และบอกให้ระวัง “พี่ตูน” ด้วย พอช่วงกลางคืนทุกคนมากายภาพบำบัดก็คิดว่ายอมทิ้งตั๋วและอยู่ต่ออีกวัน และวันต่อมาก็วิ่ง 7 โมงเช้ายันสองทุ่ม และมีวิ่งไปวัดร่องขุ่นก็มีพระสวดไป มันเป็นความสุขอย่างนึงที่ได้เห็นเขาวิ่ง เป็นภาพที่บรรยายไม่ได้ รู้สึกภูมิใจที่ได้อยู่ต่อ เมื่อถึงเส้นชัยที่วัดร่องขุ่นก็มีพี่ๆ พยาบาลมาจุดตะเกียงร้องเพลง ตอนนั้นรู้สึกทำไมคนไทยทุกคนช่วยกันขนาดนี้ คือบรรยากาศในโซเชียลมันไม่เหมือนกันของจริงๆ และตะเกียงมันเป็นตะเกียงไนติเกลที่ใช้ในพิธีศักสิทธิ์ของพยาบาลเท่านั้น วิ่งไปก็น้ำตาไหลไป

   ตนเองรู้ว่าเขาวิ่งมาตั้งแต่เบตง ถ้ามีใครอ่านข้อความจะเห็นว่าพี่เขาเป็นเทพ 3 ฤดูทั้งฝน ทั้งร้อน ทั้งหนาว เขาต้องมีวินัยรุนแรงมากๆ ตีหนึ่งตี 2 ต้องออกมายืดมันหนาวมากๆ มันวิ่งยาก และทีมเขาเอง ก็มีเห็นว่าเจ็บบ้างแล้ว แต่ลาไม่ได้ ก็ต้องฝืนวิ่ง ทำให้อยู่ต่อให้จบ งานต่างๆ ขอส่ง “พี่ตูน” ถึงแม่สายเลย ตนเองวิ่งไม่เหนื่อย ถ้ารู้ว่าสามารถแบ่งเบาภาระเขาได้ ตนเองแฮปปี้มากๆ

   ส่วนตอนถึงจุดหมายตนเองก็รอให้กำลังใจพี่ตูน แม่สายเป็นเมืองเล็กๆ แต่ประชากรหนาแน่นมากๆ มารอต้อนรับ มันเป็นภาพที่ประทับใจจริงๆ พอได้ขึ้นเวทีก็ลุ้นตลอดเลย ตนเองมีได้คุยกับพี่เขาบ้างแต่ไม่อยากรบกวนมาก และมีกอดพี่เขาก่อนกลับไม่อยากรบกวนเวลามาก

   ตนเองตามตั้งแต่เด็กๆ ได้มีโอกาสช่วยเล็กๆ ในโครงการได้ผ่อนภาระก็ภูมิใจมากๆ แนวเพลงตนเองชอบเพราะได้พลังงานบวกเยอะมากๆ และคิดว่าเป็นจิตวิทยาว่าฟังแล้วจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ตนมองว่าเกี่ยวกับโครงการหมดเลย ถ้าฟังความหมายจะเห็นว่ามีพลังงานบวก เขาส่งต่อให้ทุก เวลาคนที่มารอมันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ

   ด้านแฟนคลับเขาก็มีมาช่วยๆ สมทบทุนด้วย ก็ให้ช่วยๆ กันได้สองแสนหนึ่งพันบาทก็รวบรวมไปให้พี่ “ตูน” ส่วนตัวเองก็มีเหนื่อยล้าบ้างเพรสาะไม่ใช่นักวิ่งอาชีพ วิ่ง 3 วัน 5 เซ็ต ก็มีปัญหาที่หัวเข่านิดหน่อย และถ้าเขามีโครงการอะไรดีๆ ก็พร้อมช่วย คือไม่ใช่แค่ตนตัวเองก็มีแฟนคลับตามไปด้วย ก็มีวิ่งตามซัพพอร์ท เขาก็อยากอยู่ต่อหลายคนก็ยอมทิ้งตั๋ว อย่างพี่ “รัศมีแข” วิ่งทุกเซ็ต ช่วยเป็นเสียงเฮฮา ช่วยทุกอย่างเลย คนที่มาตรงนี้คือมาด้วยใจจริงๆ

   เรื่องสิ่งที่ได้จากโครงการนี้ก็ได้ความภูมิใจที่ชื่นชอบไอดอลไม่ผิดคน และเป็นความสุขและความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ ได้เห็นว่าพี่เขามีผลกับคนไทยขนาดไหน ได้เห็นรอยยิ้ม เด็กที่ยอมเอาเงินแทนที่จะซื้อรถของเล่นเอาเงินมาบริจาคมีคนพิการ มาคอยให้กำลังใจ ก็มีความสุขถือเป็นของขวัญคริสต์มาสในปีนี้ บรรยายไม่ถูก มันอิ่มใจและเห็นคนที่ชื่นชอบตั้งแต่เด็กประสบความสำเร็จ