เปิดใจ “กอล์ฟ” พร้อมน้ำตาคลอ “ขวัญ” ดินเนอร์หนุ่มตาน้ำข้าวจริง
ยังคงเป็นเรื่องร้อนที่ทุกคนจับตามองอยู่ ในความชัดเจนของความสัมพันธ์คู่รักรีเทิร์นอย่าง “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” กับสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” ที่มีข่าวออกมาว่าทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์ลงหลังจากที่สาว “ขวัญ” ได้เคยโพสต์ชี้แจงผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งด้านของ หนุ่ม “กอล์ฟ” จากงานอีเว้นท์ก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจประเด็นรักร้าวรวมไปถึงปัญหาทั้งหมดให้ฟังว่า
สำหรับปัญหาต่างๆ มีเรื่องการทำงานหมายถึงเชิงธุรกิจหมายถึงเราก็ช่วยซัพพอร์ตกัน บางครั้งก็มีปัญหากันในงาน สิ่งที่รุมเร้าเข้ามา แล้วช่วงที่มีพนักงานออกไปทั้งหมด ทำให้เกิดการมีปากเสียงกันด้วยคำพูด ก็เลยเหมือนกับว่าการเป็นแฟนกับการทำทำงานร่วมกัน ความเป็นแฟนมันน้อยลง และก็ ณ ตอนนั้นมันมีเรื่องอื่นๆ ด้วยหลายปัจจัย
ส่วนเรื่องมีมือที่สาม สามารถพูดได้เลยว่าตนไม่มี อย่างที่ตนเคยลงในอินสตาแกรมว่าตนทำงานกับใครบ้างในปีที่ผ่านมา ถ้าจะเป็นแหล่งข่าววงในก็ต้องบอกว่าให้เช็คดีๆ เพราะตนมีร่วมงานกับ “ปู ไปรยา” และ “สายป่าน อภิญญา” เพราะฉนั้นนางเอกหน้าใหม่ที่มีบอกว่าเคยเป็นพรีเซนเตอร์โฟมล้างหน้ามาด้วย ตนก็ยังงงอยู่เลยว่าเป็นใครที่เข้ามาในชีวิตของตน ตนยังไม่รู้จักเลย สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือใครเป็นคนปล่อยข่าวอันนี้มากกว่า ตนยืนยันไม่มีมือที่ 3 แต่คงไม่ได้ฟ้องอะไร เพราะคนที่ทำอะไรไว้ก็คงได้อย่างนั้น
ด้านก่อนหน้านี้เรื่องการแต่งงานที่เคยคุยกันไว้ ตนก็เสียใจ มันก็มีการคุยกันเรื่องสินสอดอะไร อย่างที่คุยกับแม่ 2 คน คือ 70-80 ล้าน ตนก็คือไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือพูดจริง แต่การที่พูดมากกว่าหนึ่งครั้ง ตนก็รู้ว่าต้องพยายามทำให้ได้ เต็มที่ ตนก็พยายามรับงานให้เต็มที่ ทำธุรกิจ สร้างเนื้อสร้างตัว ปั่นให้ได้เต็มที่ ตนแค่คิดว่าถ้าตนสามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปถึงจุดนั้นไหม แต่เพื่อคนๆ นึงที่เรารักได้
สำหรับความจริงจัง การกลับมารอบที่ 2 ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เราตกลงกันว่าเราจะกลับมาจริงจัง โหมตที่โตขึ้น ไม่ใช่เล่นๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่เข้ามา เราก็พยายามจะข้ามผ่านมันไปให้ได้ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเราทั้งคู่คิดทบทวนดีแล้ว มันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เรื่องธุรกิจที่ทำด้วยกันมา จะต้องบอกว่าไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ เรื่องตังมา ธุรกิจที่เราทำร่วมกันเป็นการแชร์ออฟฟิศ จะได้เจอกัน คุยกัน และซัพพอร์ตกันด้านไอเดีย ไม่ได้มีเรื่องเงินมาเกี่ยว สำหรับเรื่องเงินตนจะไม่ไปแตะต้อง ไม่ไปเอาเงินของน้องมายุ่งเกี่ยว เพราะไม่อยากให้มีข่าวนู่นนี่ เพราะคนให้ข่าวก็ให้ไปเรื่อยๆ แต่ตนก็ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่ได้คิดจะไปทำร้าย ไม่ได้ไปยุ่งกับเงินใครทั้งนั้น
เรื่องมือที่ 3 ที่เข้ามาการที่ไม่มีมูลอะไรทั้งสิ้น เป็นการแชร์ต่อกันไป แบบไม่มีมูล แค่บอกว่าคนวงในให้ข่าวมา ก็รู้สึกว่าทำไมต้องทำร้ายเราแบบนี้ แต่สิ่งที่เสียใจที่สุดตอนนี้ ก็อย่างที่เห็นว่าตนลบรูปไป ไม่ใช่ว่าการที่เราเลิกกันแล้วต้องลบรูป จริงๆ เราเลิกกันตั้งแต่ปลายธันวาคม ถ้าตนจะลบ ตนลบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ ณ วันนี้ เรารับรู้สิ่งบางอย่างเข้ามาที่มันทำร้ายจิตใจเรามากเกินไป จนคิดว่าที่ผ่านมาคืออะไร มันก็ย้ำแผลเดิมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ณ วันนี้พอมารู้ มันก็เหมือนทำลายความรู้สึก
ส่วนข่าวที่ “ขวัญ” คุยกับชาวต่างชาติที่ชื่อ “ลอร์ด” คือเรื่องนี้จริงๆ ตนก็รู้แล้วว่าแม่แนะนำให้ 2 คนรู้จักกัน ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไร เพราะว่าน้องก็เลือกเรา ผู้ชายคนนั้นอายุมากและก็อยู่ต่างประเทศ ตนก็เลยไม่ได้คิดอะไร มีการคุยกันกับ "ขวัญ" ว่าเราจะไปต่อด้วยกัน คบกัน แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไร เพราะเห็นก็ไปกินข้าวคริสต์มาสกัน หากเป็นเพราะว่าแม่ ก็ดีแล้วที่ “ขวัญ” เขากตัญญูกับแม่
ด้านการทำงาน ถามว่าร่วมงานได้ไหม สภาพตอนนี้ตนไม่รู้ว่าจะต้องยังไง ไม่รู้ว่าจะต้องร่วมงานอย่างไร ตนก็ไม่ใช่คนหูเบาที่ฟังอะไรมาแล้วเชื่อเลย แต่มันมาจากการปะติดปะต่อหลายๆ เรื่อง ไม่รู้จะฝากอะไร แต่ฝากถึงบางคนที่รอบๆ ตัวเขา ที่พยาพยามไปเช็คข้อมูลของตน จากสถานที่บางสถานที่ ที่สามารถรู้ได้ว่าชื่ออะไรอยูบนทรัพย์สินตนบาง อย่าให้รู้ว่าที่ผ่านมามันไม่ใช่เรื่องความรัก แต่มันคือเงิน อย่างที่บอกคือตนไม่ใช่คนหูเบา แต่พอย้อนเรื่องราวกลับไป ปะติดปะต่อภาพบางภาพหรือเรื่องบางเรื่องที่เกิดพขึ้น มันก็เหมือนเราต่อจิกซอว์จนเป็นรูปเป็นร่าง เลยกลับมาคิดวาเราไม่ได้ทุ่มเทหรอ