"อาโป" ปลื้มกระแส "ไข่มุกมังกรไฟ" ดีเกินคาด ไม่หวั่นคนมองไม่ดัง

"อาโป" ปลื้มกระแส "ไข่มุกมังกรไฟ" ดีเกินคาด ไม่หวั่นคนมองไม่ดัง

        เป็นอีกหนึ่งหนุ่มหน้าหล่อยิ้มหวานที่สาวๆ ปลื้มสุดๆ สำหรับ "อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์" ที่ตอนนี้บอกเลยว่าผลงานเรื่อง "ไข่มุกมังกรไฟ" กำลังเข้มข้นมากๆ แถมแฟนคลับก็ต้องยอมแพ้ให้กับรอยยิ้มหวานๆ ของอาโปในเรื่องนี้กันทุกคนแน่นอน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีกระแสออกมาว่าทางช่องดันอาโปสุดๆ แต่ทำไมกระแสยังไม่ดังซักที งานนี้เจ้าตัวก็ขอออกมาบอกว่า

        กระแสละครไข่มุกมังกรไฟก็ดีมากๆ เลยขอบคุณทุกคนมากที่ให้การตอบรับที่ดี เพราะพวกเราและทีมงานยิ่มแก้มปริกันมาก ตอนทำงานก็เหนื่อยมากๆ แล้วพอฟีดแบ็คมันออกมาดีทุกคนก็ชื่นใจ แฟนๆ ก็บอกยิ้มสวยชอบคุณมากๆ ช่องก็ไม่ถึงกับว่าดันเราขนาดนั้นก็เป็นไปตามเนื้อบท บทมันเขียนมาแบบนั้นเราก็เล่นไปตามคาแร็คเตอร์ ทุกตัวละครมันก็มีแนวทางของมันอยู่แล้ว ตอนทำงานทุกคนก็ไม่ได้หวังอะไรทุกคนทำงานเต็มที่อยู่แล้วฟีดแบ็คก็ออกมาเกินคาด ส่วนที่กระแสเราไม่ดังมันคือเรื่องที่คอนโทรไม่ได้ มันคือเรื่องของภายนอกซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น แต่สิ่งที่เราสนใจคือเนื้องานว่าเราทำเต็มที่รึยัง ซึ่งถ้าเกิดว่าเราทำเต็มที่แล้วพอเรานั่งดูงานของตัวเอง มันเหมือนศิลปะชิ้นนึงเลยรู้สึกว่ามันภูมิใจ

        เรื่องนี้คือทุ่มเทมาทั้งกระโดดน้ำ ลุยไฟ แอ็คชั่น ตีกับตำรวจ ทุกคนก็ฝึกกันหนัก คือทางโปเองก็ไปคุยกับตำรวจเพื่อนๆ ก็ไปซ้อมแอ็คชั่น เรียนรู้สิ่งต่างๆ กับตำรวจเหมือนกัน อาตู่เป็นเหมือนกับพระเจ้าของเราเวลาทำงานเพราะว่าพวกเราทำงานกันเหนื่อย ไปในที่ที่ไม่เคยไป บางที่มันเป็นที่อับสัญญาณเราก็นั่งหันหน้าคุยกัน มองไปรอบๆ ก็มีแต่เขามีแต่ป่า ทุกคนก็คิดว่าแบบนี้มันหนักไปรึเปล่า แต่พอทุกคนหันหน้าไปหาอาตู่เขาก็บอกว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่อาจู่เคยผ่านมาหมดแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กๆ มากพวกเราก็มีกำลังใจมากขึ้น แม้แต่กระโดดน้ำเองอาตู่ก็ชิลๆ พวกเราก็มีกำลังใจมากขึ้น เราก็ได้ใช้ชีวิตทั้งหมดจากเรื่องแรกมาใช้ในเรื่องนี้ ไม่ว่าใครที่สอนอะไรเรามาก็ได้เอามาใช้ จริงๆ ทำการบ้านหนักทุกเรื่องแต่สเน่ห์มันต่างกัน เรื่องนี้ใช้อารมณ์ค่อนข้างเยอะ บทมันเป็นบทที่เดือดตลอดเวลาก็ค่อนข้างเหนื่อย บางทีก็ปรับอารมณ์ไม่ทันเก็บกลับบ้าน แล้วก็มีช่วงนึงที่อ่านข่าวยาเสพติดก็เครียดมาก พอฟีดแบ็คมันออกมาดีก็ภูมิใจ

        ส่วนเรื่องล่าสุด "ชาติเสือพันธุ์มังกร" ก็จะทำการบ้านหนักเหมือนเดิม ไปศึกษาว่าคนในยุคนั้นเขาเป็นยังไงแล้ววัฒนธรรมจีนจริงๆ แล้วเขาทำยังไง ปกติแล้วเขาไม่คุกเข่าให้กันหรือก้มหัวเราก็ไปศึกษามา รับบทเป็น "เตี่ยง" เป็นญาติกับเจมส์ เราก็เป็นคนที่ขาดความรักต้องการความรักมาตลอด ไปไล่ตีรันฟันแทงกับคนอื่นตลอด แล้วเราไม่รู้ว่าความถูกต้องมันคืออะไร พอเราขาดก็อยากจะเติมเต็มสิ่งอื่นแล้วก็มีเจมส์เข้ามาคอยประคองกันไป ตอนนี้ถ่ายทำกันเกือบๆ 50% แล้วก็ต้องติดตามกัน