“ใบเตย” ไม่ขอพูดถึง อดีตผจก.ส่วนตัวอีก หลังโพสต์จวกยับในเฟซบุ๊ค
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตาอีกครั้ง หลังจากที่สาวลูกทุ่งนุ่งสั้น อย่าง “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” ได้ออกมาฉะแรงถึงอดีตผู้จัดการส่วนตัว กรณีอ้างชื่อเพื่อใช้ทางไม่ดีจนเกิดความเสียกายต่อชื่อเสียงของเธอ งานนี้มีโอกาสได้เจอตัวสาว “ใบเตย” เธอได้เปิดใจถึงเรื่องทั้งหมดให้ได้ฟังว่า
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอชี้แจงก่อนคืออย่างแรกเลยเป็นตามที่โพสต์ แต่วันนั้นที่โพสต์คือได้รับเรื่องมามันค่อนข้างรุนแรงนิดหนึ่ง ต้องขอโทษพี่ๆ สื่อทุกคนด้วย ในการโพสต์ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแจ้งก่อนว่าตอนนี้ ตนกับอดีตผู้จัดการไม่ได้ดูแลกันมา 6 เดือนแล้ว คือเท่าที่ทราบจนเรื่องวันนี้เกิดขึ้น ทุกคนคงจะพอรู้เหตุผลแล้วว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งหลังจากที่แยกทางแล้วก็มีปัญหาเรื่องนี้มาถึงตัวเราตลอด เราเงียบมานานแล้ว เอาจริงๆ แล้วเรื่องมันหลากหลาย ถามถึงเรื่องอ้างชื่อไปยืมเงินก็ตามนั้น เดือดร้อนไม่เท่าไหร่แต่มันทำให้เราเสียหายนิดหน่อย ส่วนเรื่องยืมเงินไม่ขอพูดถึง
เหตุผลที่แยกตัวออกมาและไม่ขอพูดถึง เพราะเราก็ไม่ได้อยากพูดอยู่แล้ว คือ ณ วันที่แยกกันไป เราจบดี พี่ทุกคนก็น่าจะเห็นว่าเราให้สัมภาษณ์ในทางไหน แล้วมันจบยังไง จนมาถึงวันนี้ ซึ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของคนรอบข้างทั้งหมด ส่วนเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ เจ้าตัวบอกไม่ขอพูดแต่ทุกอย่างทุกคนที่ติดต่อมาหาเรามันเป็นความเสียหาย ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อกัน เพราะเราเคยคุยกันแล้ว ประมาณ 4 ครั้ง แต่ไม่ได้รับอะไรกลับมา ทุกอย่างก็ยิ่งมากขึ้น ต้องบอกก่อนว่าทุกคนเป็นคนรอบตัว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไม่ได้เป็นผู้จัดการเราแล้ว ก็เลยมีการอ้างถึง ทุกคนก็เป็นห่วในเรื่องของภาพลักษณ์ ณ วันนั้นที่มันยังมีภาพติดว่ายังเป็นผู้จัดการเราอยู่ จำนวนผู้เสียหายขอไม่พูดถึง
ในส่วนของเราก็ทยอยเคลียร์มาโดยตลอด แต่พอมีกรณีนี้ขึ้นมา ก็คงได้เคลียร์กันหมด อารมณ์ที่โพสต์ในตอนนั้นปี๊ดมากพอสมควร คือเอาจริงใครที่รู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าเรามีอะไรแบบนี้น้อยมาก นานมาแล้วที่เราโตขึ้น แต่อันนี้คือหนักจริงๆ มันกระทบจิตใจของเรา เรื่องการแจ้งความส่วนตัวเราให้เป็นสิทธิของบุคคลดีกว่า ด้านของความรู้สึกไม่มีใครไม่เสียใจ ยิ่งเป็นตัวเราแล้วด้วย เราเดินทางมาถึงจุดนี้ เสียใจมาก เอาจริงๆ เราเป็นคนที่เสียใจที่สุดด้วยซ้ำ เพราะเราดูแลกันมา อีกฝ่ายเพิ่งมาเป็นแบบนี้ แต่ก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เรื่องนี้คงไม่แจ้งความ จริงๆ
กลัวว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้อีกหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้แจ้งความ จริงๆ ก็มีคนแนะนำมา ณ วันนี้ ถ้าเขาเป็นผู้จัดการเราอยู่คงทำ แต่ตอนนี้ได้แยกจากกันมานานแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว เรื่องอื่นก็มี แต่ไม่ขอพูด เอาจริงๆ ไม่เคยตัดขาดกัน บางทีรู้สึกว่าเรามีปัญหาขนาดนี้ ส่วนตัวเป็นคนเซนสิทีพกับเรื่องเงินทองอยู่แล้วไม่ชอบในความไม่ยุติธรรม ชีวิตเราทำงานมา หาเลี้ยงครอบครัวมา ถึงแม้จะเป็นศิลปินดารา แต่เราก็เหนื่อยเท่าทุกคน ต่อไปถ้าเจอกันก็ไม่ซีเรียสยังคงๆไหว้เหมือนเดิม
ส่วนเด็กที่อยู่ในสังกัดเขาอย่าง “มังกร ปภาวิน” ให้เป็นวิจารณญาณของแต่ละคนดีกว่า ไม่รู้ว่าในส่วนของน้องได้รับทราบเรื่องแบบนี้กับคนดูแลหรือเปล่าเรื่องงานก็ปกติไม่ซีเรียส เราโฟกัสแค่ตรงนี้ อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ว่ากันไป ส่วนที่ประเด็นถูกโยงไปถึง “ลุกซ์” น้องของตนนั้น หลายคนคิดว่าเราด่าน้องแต่จริงๆ แล้วคือน้องคือคดูแลของเราปัจจุบัน
ถ้ามีโอกาสเจอกันเอาจริงๆ แล้วก็พูดไปหลายครั้งแล้ว หลังจากแยกกันก็พูดแล้ว อันนี้มันไม่ใช่หน้าที่เราแล้ว ไม่เคยติดต่อกัน หลังจากคุยประโยคสุดท้ายไปแล้ว สุดท้ายก็อยากฝากถึงว่าอยากให้ทำทุกอย่างมีสติ ถูกต้อง ยุติธรรม ใช้ทุกอย่างอย่างมีสติ มีชีวิตดำรงอยู่ในความถูกต้อง