“แมว” เปิดใจสัมพันธ์ครอบครัว “ศรราม-นิโคล-ทิกเกอร์”
เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่แม้ความสัมพันธ์แบบสามี-ภรรยาหมดไป แต่บทบาทของคุณพ่อ-คุณแม่ยังคงอยู่ สำหรับ “แมว จิระศักดิ์ ปานพุ่ม” และสาว “นิกกี้ นิโคล เทริโอ” ที่เมื่อวันเกิดลูกชาย “น้อง ทิกเกอร์ อชิระ เทริโอ” ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็มีโมเมนต์ฉลองวันเกิดให้กับลูกชายร่วมกัน แต่ไม่เพียงแค่ “แมว” และ “นิกกี้” เท่านั้น ยังมีหวานใจรักครั้งใหม่ของทั้งคู่มาร่วมปาร์ตี้ครั้งนี้ด้วย โดย “แมว” ได้เผยถึงบรรยากาศวันสำคัญให้ฟังว่า
สำหรับบรรยากาศงานวันเกิดน้อง “ทิกเกอร์” ก็ดี บรรยากาศดี สนุก มีกินกันเบาๆ มีเค้ก เป็นงานสบายๆ ตอนนี้น้องอายุ 13 ปี อยากให้น้องมีความสุข พอเขาโตขึ้นก็เรียนหนักขึ้น แล้วตนก็งานเยอะขึ้น ที่ผ่านมาอาจเจอกันบ่อยหน่อย แต่ว่าหลังๆ อาจเจอกันเดือนละครั้งก็เลยอยากให้แต่ละครั้งที่เจอกันประทับใจที่สุด ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานหน่อย
เรียกว่าตอนนี้ครอบครัวตนกับคุณ “กี้” ก็ยังมีน้อง “ทิกเกอร์” เป็นสายสัมพันธ์ เอาลูกเป็นศูนย์กลาง ระหว่างตนกับคุณ“กี้” ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันไม่มีอะไรที่มันต้องเอามาคิด เอาลูกเป็นตัวหลัก สำหรับลูกเดือนหนึ่งเจอครั้งนึง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ฟิกไว้ บางทีก็เจอกันมากกว่านั้นในช่วงที่น้อง “ทิกเกอร์” ปิดเทอม ช่วงนี้เรียนเยอะเริ่มโตขึ้น ตนงานก็เยอะ แต่อย่างน้อยเดือนละครั้งต้องได้เจอกัน
ด้านความรู้สึกงานที่น้อง “ทิกเกอร์” ได้ล้างเท้าให้ ก็เป็นความรู้สึกที่แปลกดี ไม่ได้คิดว่าน้องต้องมาทำแบบนั้น แต่ว่าคงเพราะเขาโตขึ้นก็อยากจะแสดงความรู้สึกก็เลยให้เขาทำ ตนก็รู้สึกประทับใจ ส่วนลูกคนเล็กของตนตอนนี้อายุ 5 ขวบ เป็นผู้ชาย ตอนนี้กำลังเรียนอนุบาล เขาจะตัวโตหน่อยอาจจะดูเหมือนเด็กประถมแต่เขายังอนุบาลอยู่
สำหรับความสนใจของน้อง “ทิกเกอร์” ที่มีเล่นละครบ้าง จริงๆ แล้วน้องเป็นคนเงียบๆ เป็นเด็กที่ไม่ได้แสดงออกมากมาย เขาเลยชอบในเรื่องของการแสดงมากกว่า การแสดงเป็นอะไรที่ต้องใช้อารมณ์ น้องจะชอบตรงนั้นมากกว่า แต่ว่าพอเขาเริ่มโตขึ้นมานิดนึงช่วงอายุ 12 เริ่มมีความสนใจดนตรี แรกๆ ไม่เอาเลย แต่พอเริ่มโตขึ้นเหมือนมีตนเป็นไอดอล เลยลองเล่นกีตาร์ ดูแล้วเขาขยันแปปเดียวแต่ก็ทำได้ดีมาก ตนก็ซื้อกีตาร์เป็นของขวัญให้ จากนั้นมาเขาก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ หลังๆ ชอบดนตรีแล้วจากแรกๆ ที่ไม่ชอบเลยเล่นละครอย่างเดียว และก็เริ่มไปตีกลองแล้ว เรื่องดนตรีไปเรียนเอง ฝึกด้วยตนเองแล้วคุณ “กี้” ให้เป็นเรียนเพิ่ม มันเหมือนกับว่าถ้าเขาอยากรู้ อยากเรียนอะไร ให้เขาเริ่มที่ตัวเองเขาจะทำได้ดีกว่า ถ้าเกิดไปคะยั้นคะยอตั้งแต่แรกที่ยังไม่มีความชอบจะทำให้รู้สึกไม่ดีกับดนตรี ซึ่งตนก็ทำถูกแล้ว พอเขาเริ่มสนใจอยากรู้ด้วยตัวเอง แรกๆ ตนไม่ได้สอนแต่ว่าพอเขาเริ่มเป็น ก็อาจจะมีเวลาที่เรามานั่งคุยกันเรื่องดนตรีเพิ่มเติมนิดหน่อย ตนว่าอาจจะทำให้เขารู้จักกับดนตรีมากกว่าที่พ่อสอนลูก บางทีมันก็อาจจะทะเลาะกันได้ แต่ถ้าเกิดเรามาคุยแบบคนชอบดนตรีสองคน ตนมองว่ามันจะทำให้มีความสุขมากกว่า
ส่วนตามข่าวที่คุณ “หนุ่ม ศรราม” โพสต์ภาพอวยพร ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ใครจะโพสต์ก่อนโพสต์หลังมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันต้องดูเนื้อหาความเป็นจริงว่าเรื่องที่โพสต์มันคืออะไร ถ้าสิ่งที่โพสต์เป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าใครจะโพสต์ก่อนโพสต์หลังเป็นเรื่องที่ดี ใครโพสต์ก่อนหรือหลังมันไม่ใช่เรื่องสำคัญคุณ “หนุ่ม” หรือว่าใครจะโพสต์ก็แล้วแต่ เขาโพสต์ด้วยความรู้สึกดีมันเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปคิดอะไรที่สับสน บรรยากาศวันนั้นเป็นบรรยากาศที่ดี คุณ “หนุ่ม” เขาก็ช่วยเรื่องอะไรเยอะแยะเลย ช่วยจัดไฟช่วยถ่ายให้ คือมันเป็นความรู้สึกที่ดี โดยเฉพาะคนที่ได้รับความรู้สึกนั้น ผมว่ามันรู้สึกดีที่สุดแล้วสำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นเพื่อนของน้อง “ทิกเกอร์”