"ป๋อ" ปลื้มเรตติ้ง "เงินปากผี" ย้ำขอมีลูกแค่สอง
"ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ" เผยอัพเดท "เภา" ลูกคนเล็กว่า คนเล็กตรวจสุขภาพแล้ว ตอนนี้ก็ยังเฝ้าระวังอยู่ ตอนนั้นเป็นตอน 5 เดือน แล้วก็รักษาหายขาดแล้ว เพียงแต่ว่าพ่อแม่ก็มีหน้าที่ที่จะต้องคอยเฝ้าระวัง คอยสังเกตว่าจะเกิดขึ้นอีกไหม ตอนนี้ก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว ปกติดี นอกจากเรื่องดื้อก็ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ถึงขั้นต้องมาตรวจตลอด แต่เพียงว่าให้คุณพ่อคุณแม่เฝ้าระวัง และเรารู้ว่าลักษณะนี้ปกติ ลักษณะนี้ไม่ปกติ เราจะรู้
คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องตรวจสุขภาพด้วย เพราะเราก็อยู่ในวัยที่เรียกว่ามีความเสี่ยงเหมือนกัน อย่างพวกความดัน ไขมัน อะไรต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุสำหรับเรื่องสุขภาพต่อไป ก็ต้องตรวจตลอด แต่ไม่ใช่ตลอดเพื่อวางแพลนมีลูกอีก คนนะ พอแล้ว แต่คนอื่นก็ยุๆ กันนะ ไปไหนมาไหนคนก็จะพูดว่าอีกคนสิ คือต้องเข้าใจว่าการมีลูกมันแพงนะ ขำๆ พวกเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าโรงเรียนอีก เลยมีแค่ 2 คนพอ
คุยกับ "เอ๋" เหมือนกัน ปรึกษาตลอดว่ามีไหม แต่เขาก็บอกอย่าเลย คือยังไงผมกับเอ๋ก็ไม่มีแน่ๆ คนข้างๆ มักจะยุ เราก็เคลิ้มเหมือนกันว่าหรือจะเอาอีกสักคนดี แต่ถ้าเป็นชาย 3 คนก็จะเหมือนครอบครัวพี่เจไปเลย ปัญหาไม่ใช่ว่าจะเป็นลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ปัญหาคือเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วเราก็ต้องเลี้ยงเขา 3คน อาจจะเยอะไปสำหรับครอบครัวเรา แต่ไม่แน่ปีหน้าอาจนะ เปลี่ยนใจ เพราะร่างกายยังฟิตอยู่ แล้วก็ยังไม่ได้ทำหมัน เผื่อเปลี่ยนใจอยากจะมี แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ไม่มี
ถามว่ารอคนเล็กโตก่อนก็อาจจะมีส่วน เพราะถ้าคนเล็กสบายแล้ว ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงมากเราก็อาจจะเปลี่ยนใจมีตอนนั้นได้ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผมคนเดียว เพราะต้องถามคุณเอ๋ด้วย เพราะว่าคุณเอ๋เขาไม่อยากเสียทรงอีกครั้ง ตอนนี้เขาเริ่มกลับมาผอม หน้าท้องแบนราบ เขากำลังภูมิใจบิดซ้ายบิดขวาหน้ากระจกทุกวัน คือเขาก็มั่นใจในตัวเขาแล้ว ก็ไม่อยากกลับไปเสียทรงแบบนั้นแล้ว คือทุกอย่างต้องผ่าน "เอ๋" ก่อน เพราะของเขาเป็นในเรื่องของร่างกาย เรื่องของพี่เป็นเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นเหตุผลทั้ง 2 อย่างเลยมารวมกันว่ายังไม่มี
ส่วนเรื่องละคร "เงินปากผี" เจ้าตัวบอกว่า กระแสดีมาก หลังๆ ไปเดินตามห้างสรรพสินค้า ไม่มีใครขอถ่ายรูปอะไรเลย ทุกคนมองห่างๆ บางทีก็มาขอเลข เพราะใบ้ตอนนั้นไปแล้วดันออกไง นี่งวด 2 แย่เลย บอบช้ำกันเป็นแถบ ขำๆ ตามกันเป็นชุดเลย บางคนก็มารุมประณามพี่นะว่าทำไมไม่เอาให้ออก งวดหน้าค่อยเอาใหม่ หลังๆ พี่ไม่ได้คาดหวังเรื่องเรตติ้ง คาดหวังทุกกลางเดือนและต้นเดือน ขำๆ
ละครก็โอเค ต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่มีทั้งชมและติด้วย ก็ดี ถ้าชมก็ถือว่าดู ถ้าติก็ถือว่าดูเหมือนกัน อะไรที่ติก็จะเอาไปแก้ไข ส่วนอะไรที่ชมก็ต้องขอบคุณมากๆ เพราะเรื่องนี้ถ่ายทำแบบไม่มีใครพูดถึงเลย เก็บเงียบเป็นความลับ อย่างรูปก็ไม่ลงเพราะเดี๋ยวเห็นความน่ากลัวแล้วไม่ดู แต่พอเห็นจากละครไปแล้วเราก็ลงในไอจีให้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก ตอนนี้คนอันฟอลโลว์เยอะเลย มีคนบอกเดี๋ยวกลับมาฟอลโลว์ใหม่หลังจบละคร ขำๆ ครีม "เอ๋" เองก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เรื่องรูปที่ลงในไอจีล่าสุดแล้วมีคนมาคอมเมนต์ว่าสงสารท่าน ก็เป็นเป้าหมายของเราด้วยนะที่วิธีการเล่นหรือวิธีการแสดงของเราพุ่งไปทางมิติเดียว อย่างเป็นผีก็ต้องน่ากลัว แต่เราอยากให้ผีมีสตอรี่ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เป็นแบบนี้ เป้าหมายเราอยากให้คนดูอินไปกับผี จนตอนนี้ไม่มีใครกลัวแล้ว ทุกคนแทบจะรักและเอาใจช่วยผีตัวนี้ว่าออกมาทีๆ เพราะว่าเหมือนคนเริ่มรักตัวละครนี้แล้ว
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นเพราะว่าตอนนี้ตัววันพุธก็เริ่มจะดีขึ้น หมายความว่าเขาเริ่มจะรู้เรื่องราวมากขึ้น และเรื่องดราม่า จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังผีจ๋าขนาดนั้น แต่เป็นหนังผีที่มีดราม่าเยอะมาก และตอนนี้เรตติ้งก็กำลังดีมากๆ เดินไปไหนก็หน้าบาน
ดีใจที่เป็นการปรับบทคาแรกเตอร์ตัวเรา เพราะสมัยก่อนเราเล่นกับบทบาทที่เป็นพระเอก แต่เรื่องนี้เราไม่ได้เล่นเป็นพระเอก เราก็รู้สึกว่าไม่ได้ยึดติดกับมันแล้ว คือเมื่อก่อนถามว่าเรายึดติดกับมันไหม มันอาจจะมีครึ่งหนึ่งที่เราไปยึดติด เพราะว่าเราอยู่กับมันมานาน ครึ่งหนึ่งก็ต้องยอมรับความเป็นไปว่าเราต้องเดินไปหาอะไรที่มันไกลตัวมากขึ้น ซึ่งปีนี้ก็มีอะไรหลายอย่างที่เราพยายามก้าวออกไป เราไปรับบทที่ไม่ใช่พระเอกมากขึ้น ปีนี้ก็ได้กลับมาทำงานพิธีกรอีกครั้งหนึ่ง ผมก็พยายามไปสู่งานที่ไม่ได้ทำนานแล้ว หรือว่าไม่เคยทำกลับมาทำมันยากขึ้น และน่าลอง
การเรียนลูกก็ไปเรื่อยๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย คือขอให้มีความสุขพอ ไม่ต้องเป็นเด็กที่ 1 ของห้อง ไม่ได้ต้องการอย่างนั้นเลย อยากให้เป็นเด็กเบอร์สิบ เบอร์สิบเอ็ด ได้วิ่งเล่นแล้วมีความสุข ได้วิ่งเล่นแล้วยิ้ม กินข้าวแล้วอิ่ม ตื่นมาไม่ร้องไห้ก็พอ เพราะว่าทุกอย่างในชีวิตเราเตรียมรอยยิ้มไว้ให้รอบๆ เขาอยู่แล้ว เราไม่ได้คาดหวังว่าลูกโตมาจะต้องเป็นนักวิชาการ หรือต้องเรียนเก่งมากๆ ไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลย คือเก่งอะไรก็ได้ แพลนเรียนต่างประเทศก็แล้วแต่เขา แต่เอ๋ไม่อยากให้ไป เพราะเอ๋เขาเป็นห่วง เราเองก็ห่วง ไม่อยากให้ไปเหมือนกัน แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ จะไปก็ต้องให้ไป แต่เราไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น คิดแค่ว่าตอนนี้ชอบตีกลองก็ให้ตีกลอง ตอนนี้ตีทะลุไปอันนึงแล้ว มีอยู่ 5 ใบตีใบเดียว