เปิดจุดเริ่มต้นความรัก 10 ปี “แย้ม-ฟอลคอน” ฟินนอกจอ
เห็นความมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเกินจากบทในละครจนแฟนๆ ฟินต่อเนื่อง สำหรับคู่รัก “หลุยส์ สก๊อต” และ “นุ่น รมิดา ประภาสโนบล” ที่ล่าสุดร่วมงานกันในละครเรตติ้งแรงอย่าง “บุพเพสันนิวาส” ซึ่งแม้ว่าบทบาทจะไม่ได้มีเอี่ยวกันเท่าไหร่ แต่ความหวานก็มาเต็ม จนหลายคนอยากรู้ที่มาที่ไป เส้นทางความรักของคู่นี้ว่าก่อนจะเดินเคียงข้างกันมานับ 10 ปี จุดเริ่มต้นของความหวานมันมาจากตรงไหน ซึ่งบอกเลยว่าแรกพบของทั้งคู่ไม่สวยหวานแบบคู่รักทั่วไปแน่นอน
สำหรับจุดเริ่มต้นความรักของ “หลุยส์ สก๊อต” และ “นุ่น รมิดา” เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ฝ่ายชายเป็นหนุ่มดูโอ้ฮอต "แร็พเตอร์" สาวกรี๊ดกันทั่วเมืองคู่กับหนุ่ม “จอนนี่ อันวา” ซึ่งก็สังกัดร่วมค่ายเดียวกับฝ่ายหญิงที่กำลังก้าวสู่บทบาทดาราน้องใหม่ และภายใต้สังกัดเดียวกันทำให้ทั้งคู่ต้องเจอกันตามงานอีเว้นท์ต่างๆ บ่อยครั้ง
แต่การเจอกันแบบระยะประชิดครั้งแรก สาว “นุ่น” ออกอาการเกร็งๆ กับหนุ่ม “หลุยส์” ไม่แน่ใจว่าฝ่ายชายพูดภาษาไทยได้หรือเปล่า และอยู่กันคนละกลุ่ม จนเมื่อฝ่ายชายส่งยิ้มทักทายให้ สาว “นุ่น” ถึงกับเบือนหน้าไปทางอื่น เป็นเหตุให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดว่า สาว “นุ่น” เป็นจอมหยิ่ง ถึงกับไปเล่าให้ผู้จัดการของฝ่ายหญิงฟังว่า “โคตรหยิ่ง ยิ้มให้ไม่ยิ้มตอบเลย” ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ได้เจอกันสักพัก
จนเมื่อมีโอกาสออกงานแล้วบังเอิญเจอกันบ่อยๆ ก็กลายเป็นความสนิทสนม จนสื่อเขียนข่าวกอซซิปว่าทั้งคู่คบกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ร้อนให้ทั้งคู่ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความสนิทสนม ซึ่งเล่าย้อนกลับไป สาว “นุ่น” เผยว่าในช่วงแรกยังไม่ได้ตกลงหรือใช้สถานะพิเศษต่อกัน เมื่อออกหน้าสื่อก็ต้องกลับมาคุยกันถึงสถานะที่ชัดเจนขึ้นเพื่อการตอบคำถาม ซึ่งฝ่ายชายให้คำตอบกับฝ่ายหญิงว่าอยากจะตอบเป็นสถานะอะไรก็สุดแท้แต่ใจ แถมมีพูดถึงฝ่ายหญิงออกสื่อบ่อยๆ และจริงจังต่อกันมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่มีโมเมนต์คุกเข่าขอเป็นแฟน แบบนี้สิที่เขาบอกว่าการกระทำดังกว่าคำพูด
และที่ทำให้หลายๆ คนต้องอิจฉาสาว “นุ่น” มากกว่าความหล่อแซบของแฟนหนุ่ม ก็คือหนุ่ม “หลุยส์” เป็นคนที่โรแมนติก และละเอียดอ่อนมากๆ เห็นได้จากเซอร์ไพรส์โอกาสสำคัญต่างๆ ที่ไม่มีขาดตกบกพร่อง ซึ่งเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ก็คือแหวนวงงามเมื่อวันเกิดปีที่ 28 ของฝ่ายหญิง แต่ที่ได้ใจสาว “นุ่น” ไปเต็มๆ ก็คือฝ่ายชายเป็นคนรักครอบครัวสุดๆ ทำให้เจ้าตัววางใจว่าในอนาคตต้องรักและดูแลเธอและครอบครัวได้เป็นอย่างดีแน่นอน
เข้าอกเข้าใจกัน ไลฟ์สไตล์ตรงกันสุดๆ แบบนี้ก็ไม่แปลกที่จะประคองความรักมาได้เป็น 10 ปี ก็ไม่รู้ว่าจะได้ฤกษ์ดีลั่นระฆังวิวาห์เมื่อไหร่ เพราะแว่วๆ ว่าคุณตาคุณยายอยากจะอุ้มหลานเต็มทีแล้ว