เปิดเส้นทางการแสดง “ปราง กัญญ์ณรัณ” หรือ “แม่หญิงจันทร์วาด”

เปิดเส้นทางการแสดง “ปราง กัญญ์ณรัณ” หรือ “แม่หญิงจันทร์วาด”

    เรียกว่าฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองสำหรับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ของผู้จัดฯ มากฝีมืออย่าง “พี่หน่อง อรุโณชา” ที่นำแสดงโดยหนุ่ม “โป๊ป ธนวรรธน์” และสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” แต่อีกหนึ่งนักแสดงที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กันก็คือ “ปราง กัญญ์ณรัณ” ที่รับบทเป็น “แม่หญิงจันทร์วาด” ทาง “ดาราเดลี่” วันนี้จะพาไปเปิดประวัติและย้อนวันวานเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอกัน นอกจากนั้นสาว "ปราง" เองยังได้ทำผลิตภัณฑ์ตัวช่วยให้หุ่นส่วนเอวเอส คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เธอเองได้รับงานละครเรื่องนี้

    ชีวิตในวัยเด็กเป็นเด็กตั้งใจเรียนคนนึงดีกว่า ส่วนใหญ่ก็คือเรียน เน้นไปที่เรียน เป็นเด็กกิจกรรม ให้ทำอะไรทำหมด รำไทย เต้น เล่นดนตรี แล้วเวลาเรียนก็ตั้งใจเรียน ไม่ได้มีความคิดว่าโตขึ้นจะได้เป็นนักแสดงเหมือนกัน แล้วพอเริ่มโตขึ้นมา ช่วงมัธยม ก็จะมีพวกโมเดลลิ่งมาแคสต์ ตอนไปเดินสยาม ตอนนั้นก็ยังไม่กล้าไป เขิน แต่ว่าให้พี่สาวไปก่อน แล้วเราก็ไปเป็นเพื่อนพี่สาว พอไปเห็นก็เริ่มสนใจ เริ่มสนุก เราก็น่าจะทำได้นะ ก็เลยลองดู แล้วก็เริ่มได้โฆษณา จนวันนึงก็มีโอกาสได้ไปแคสต์ละครเรื่อง “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ที่ค่ายพี่หน่อง อรุโณชา แล้วก็ได้ เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าวงการ ก็คือเล่นละคร “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ตอนนั้นเรียนอยู่ประมาณปี 1 ก็ถ่ายแค่เสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาก็ไปเรียนได้ แล้วพอเรียนจบปุ๊บก็โชคดีอีกเหมือนกัน มีละครหลังข่าวพอดี ก็คือ “ดาวเกี้ยวเดือน”

    ความฝันในวัยเด็กตอนนั้นอยากทำงานการโรงแรม ชอบทำงานอิสระ ที่แบบได้ไปเที่ยว ได้เจอผู้คน ก็เลยตั้งใจเรียนภาษา พอตอนมหา'ลัยเราก็เรียนการโรงแรม แต่พอจบมามันมีละคร ตั้งแต่ “ดาวเกี้ยวเดือน” ก็มีละครมาตลอด

    ผลงานในวงการบันเทิงชิ้นแรกคือการโฆษณษา ตอนนั้นเล่นแข็งมาก เล่นกับเพื่อนๆ 4 คน จำได้เลย เป็นโฆษณาลูกอม คือตอนนั้นเราแอ็คติ้งไม่ได้เลย เราเป็นเด็กที่เรียบร้อย แม่จะสอนให้เรียบร้อย ไม่มีการแอ็คติ้งสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น ทางผู้กำกับฯ บอก เด็กเสื้อผ้าคนนั้นเล่นแข็งมาก เราจำแม่นมากๆ ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับเรา ฉันเล่นไม่ได้ คือเราก็เกร็งไปหมด แต่พอมาเล่นละครก็ยังไม่สุด แต่พอได้เล่นไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจอะไรใหม่มากขึ้น จริงๆ ต้องขอบคุณพี่แฮ้ว จากน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ เพราะแกเป็นคนเปิดทุกอย่างให้ จากนั้นก็มาเรื่อยๆ

    รู้สึกหลงรักการแสดงตอนไหน ถ้าหลงรักจริงๆ ก็น่าจะตอนเล่นละครเรื่อง “บางระจัน” ตอนนั้นเป็นเรื่องที่ถ่ายนานมาก พอเล่นเรื่องนี้เสร็จพูดกับทุกคนว่า เหมือนกับได้ใบปริญญาอีก 1 ใบ คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราดราม่ามากๆ แล้วก็เป็นพีเรียดเรื่องแรกด้วย ก็เลยรู้สึกว่าได้อะไรจากเรื่องนี้เยอะมาก

    วิธีการปรับตัวหลังเข้าวงการ ส่วนตัวปรับตัวเยอะมาก ด้วยความที่เราไม่ชิน และด้วยความที่เราไม่คาดหวังว่าจะมาเป็นนักแสดง แต่ก็ได้อะไรเยอะ เหมือนเราเจอโลกภายนอกเยอะขึ้น มีแฟนคลับ มีคนที่เขามารักเราจริงๆ โดยที่เราแบบต้องขอบคุณเขามากนะ ทั้งที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน เขาก็ให้โอกาส ให้ทุกอย่างกับเราจริงๆ ให้รอยยิ้ม ให้กำลังใจ ก็เลยพยายามตอบแทนพวกเขาด้วยการจัดเอฟซีมีตติ้งทุกปีอยู่แล้ว มีการชวนไปทำบุญ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวทำบุญ เพราะแอบเชื่อว่าที่เราได้มาเจอกันเป็นเพราะเราทำบุญร่วมกันมาจริงๆ ก็เลยอยากพาพวกเขาไปทำบุญ ช่วงวันเกิดก็จะจัดมีตติ้งทุกปีอยู่แล้ว ให้เขาได้มาใกล้ชิดเรามากขึ้น 1 ปีครั้งนึง

    ถามถึงผลงานที่อยากจะทำแต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำ อยากจะร้องเพลง จริงๆ เป็นคนชอบร้องเพลงมาก ตั้งแต่เด็กๆ ชอบร้องคาราโอเกะ เริ่มจากชอบร้องคาราโอเกะ พอโตมาก็จะมีวง ได้เล่นดนตรี มีวงดนตรีกับเพื่อน มีนักร้องอะไรแบบนี้ ก็เลยแอบมีความคิดที่อยากเป็นนักร้อง แต่ตอนนั้นเขิน เด็กๆ ก็เรียบร้อย ไม่กล้าทำอะไรมาก ไม่กล้าประกวด แต่โตมาตอนนี้ก็อยากจะร้องเพลง อาจจะร้องเพลงประกอบละคร หรืออยากจะมีซิงเกิ้ลน่ารักๆ เป็นของตัวเอง

    ส่วนไอดอลในวงการบันเทิง คือ “พี่แอน ทองประสม” ชอบพี่แอนมาก ชอบมากจริงๆ แล้วก็แบบตอนนั้น “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” พี่แอนเข้ามาเป็นแขกรับเชิญ ก็ชอบมาก คือเรายังเด็ก ทุกวันนี้ก็มีโอกาสได้เจอ แล้วก็แบบตื่นเต้นทุกครั้ง คือแค่นั่งมองพี่แอนก็มีความสุขแล้ว ทุกวันนี้พี่แอนมาเป็นผู้จัดฯ ทำหน้าที่มากขึ้น คือพี่แอนเก่งมาก นี่คือไอดอลเลย 

      แรงผลักดันที่ทำให้มาอยู่ ณ จุดนี้ ขอบคุณแฟนคลับด้วย ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ทุกคน โดยเฉพาะพี่หน่อง ละครส่วนใหญ่มาจากที่หน่องหมดเลย ปรางก็มาจากบรอดคาซท์ฯ แล้วก็ขอบคุณทุกๆ ผู้กำกับฯ ที่ช่วย จริงๆ ถือว่าตัวเองโชคดีมาก เพราะเจอแต่พี่ผู้กำกับฯ ที่ดี ที่ส่งบทดีๆ ให้ พี่หน่องเองก็ส่งแต่บทดีๆ ให้ คิดว่าอยู่ได้เพราะผู้ใหญ่ แล้วก็แฟนคลับนี่แหละ

    ถามถึงผลงานล่าสุด ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” กระแสตอบรับดีมาก ไปไหนมาไหนมีแต่คนเรียก “แม่หญิงจันทร์วาด” คือดีใจมากๆ ออเจ้าๆ ก็ดีใจกับสิ่งที่เราทำกันมาแบบ 2 ปี มันประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ส่วนตัวเราไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น คือบทตอนที่เล่นมา นิ่งมาก แต่เล่นน้อย คือออกไม่ได้เยอะมาก คือเรื่องนี้จะไมได้ออกเยอะ มาบ้างไม่มาบ้าง แต่ปรากฏว่าพอออกมา มีการ์ตูน ฟีเวอร์มากๆ ยอดอินสตาแกรม ยอดฟอลโลว์เพิ่มขึ้นเยอะมาก ติดตามกันต่อไป แล้วก็ทวิตเตอร์มาหากันได้ เพราะว่าจะมีอะไรเข้มข้นมากกว่านี้