ใครอยากเป็นนักบินคลิก “ป๊อปปี้” เล่าละเอียด! จากนักร้องสู่แอร์ฯ กาตาร์
อีกหนึ่งนักร้องสาว “ป๊อปปี้ ชัชชญา ส่งเจริญ” ที่ตอนนี้ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินดัง เมื่อมีโอกาสพูดคุยกับสาว “ป๊อปปี้” ก็ไม่พลาดที่จะให้เธอเล่าประสบการณ์การสมัครให้ฟังอย่างละเอียดว่า
สำหรับจุดเริ่มต้นเป็นแอร์ฯ จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจ และหมดสัญญากับค่ายพอดี ก็อยากลองหางานทำ และลองไปสมัคร ก็เห็นเขามีเปิดรับสมัครพอดีที่กรุงเทพฯ ก็มีไปถ่ายรูป ทำเองแบบงงๆ เพราะทางบ้านก็ไม่อยากให้ไป เพราะไม่เคยไปไกลบ้าน ก็แอบไปสมัครเองและติด พอได้คุณแม่ก็อยากให้ไป ตนเองสมัครครั้งเดียวผ่าน
เรื่องของการเตรียมตัว ตอนนั้นไปแบบไม่รู้เรื่องเลย แต่งตัวยังไง ทำผมยังไง ตนเองไม่ทราบเลย วิ่งไปแบบกระโปรงรับปริญญา และเสื้อเชิ้ต ซึ่งความจริงก็ต้องใส่เสื้อสูท แต่งหน้า ทำผมเป็นเกล้าเรียบร้อย และจะมีสมัครเป็นรอบๆ เป็นการวอล์คอินเข้าไปก่อน เหมือนเข้าไปดูตัวก่อน คล้ายๆ ประกวดนางงาม จะนัดเป็นรอบๆ รอบ 2 จะเป็นสอบภาษาอังกฤษ สอบเลข และพูด ให้พูด ให้คิดตอบตอนนั้น และมี group discussion โดยในแต่ละรอบจะตัดออกไป จะตรวจข้อสอบตรงนั้นเลย จะประกาศเป็นเลข จนถึงไฟนอล เป็นการคุยตัวต่อตัว
หลังจากนั้นเขาจะไปพิจารณาอีกที และจะอีเมลกลับมา เพราะต้องไปตรวจสุขภาพทั้งในไทยและกาตาร์ ทั้งหมดจะอยู่ในระยะเวลา 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับการทำงานของเขา
ด้านจุดไหนที่เขาต้องเลือกตน เอาจริงๆ ตอนนี้ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน เพราะความสุขตนเองก็ไม่ได้สูงมาก แต่พอดีว่าเขารับ 160 ขึ้น และเอื้อมแตะถึง ก็ทำให้สอบผ่าน ความเป็นตัวของตัวเองด้วย เพราะมันกดดันจุดนั้น ตนเองไม่คิดว่าจะมีคนอยากเป็นแอร์ฯ มากขนาดนี้ คือพอไปถึงนั่งรอเป็นพันๆ คน มันเครียดและกดดัน คือต้องรอ 8-9 ชั่วโมง เพื่อเข้าไปคุยกับเขาประมาณ 1 นาที มันอยู่ที่ดวง การเป็นตัวของตัวเองด้วยอะไรหลายๆ อย่าง
อย่างรอบแรกเขายังไม่ได้เห็นเราเองเลย เขาแค่ดูจากใน C.V. และดูรูป และยังไม่ได้แสดงความสามารถอะไร ยังไม่ได้สอบอะไร และดูตัวเป็นๆ ว่ารวมๆ แล้วเป็นยังไง โอเคมั้ย และคัดต่อไป ในครั้งนั้นคนมาสมัครน่าจะหลายพัน และรับประมาณ 10 กว่าคน แต่เขามาเปิดบ่อยและมีคนไทยมาสมัครกันเยอะ
หากอยากให้แนะนำ อยากให้เป็นตัวของตัวเอง เขาต้องการคนที่พร้อมและมีแอตติจูดดี ยิ้มเยอะๆ และชอบคนที่จริงใจ ต้องไม่ปลอม และเป็นธรรมชาติ ส่วนชีวิตในต่างประเทศก็เปลี่ยนไป การใช้ชีวิตเพราะต้องไปอยู่ตัวคนเดียว ต้องรับผิดชอบตัวเองเยอะขึ้น และการทำงานแบบนี้ต้องคอนโทรลอารมณ์ให้ดี มันมีข้อดีคือเปิดโลกเราเอง เพื่อนร่วมงานไม่เหมือนกัน ก็ต้องเรียนรู้ ต้องเข้มแข็งขึ้น
