"ติ๊ก เจษฎาภรณ์" ว่าไง? พาลูกเล่นน้ำแต่คนดันโฟกัสซิกซ์แพค
ทำเอาคนโฟกัสผิดจุดซะนี่ หลังพระเอกหนุ่ม "ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี" พาลูกลงไปเล่นน้ำในสระ แต่คนดันโฟกัสไปในเรื่องของซิกซ์แพค ซึ่งเมื่อเจอหนุ่ม "ติ๊ก" เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า
รูปที่ไปว่ายน้ำแล้วคนโฟกัสซิกซ์แพคอันนั้นภรรยาเป็นคนจัดการลงให้ คือผมว่าเขาอยากจะให้เห็นโมเมนต์ของพ่อลูกที่มีกิจกรรม เพราะปกติแล้วผมอยากจะสอนให้เขาว่ายน้ำเป็นจะได้รู้จักเอาตัวรอดได้เวลาไปเที่ยวในสถานที่ที่เป็นทะเลหรือน้ำ ตัวผมเองก็ไม่ได้โฟกัสที่ซิกซ์แพคตัวเองนะ
เรื่องการดูแลตัวเองก็ต้องยกความดีความชอบให้กับละคร "คู่ซี้ผีมือปราบ" เพราะว่าฉากแบบนั้นเลยต้องฟิตร่างกายเพิ่มมากขึ้น อย่างการออกกำลังกาย เพียงแค่ฉากนั้นฉากเดียว ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ขำๆ ถ้าอยากได้แบบเดิมก็ต้องขอเวลาสัก 2-3 เดือนนะ มีเวลาเมื่อไหร่ก็ค่อยเข้ายิม แล้วก็เล่นกีฬา ว่ายน้ำ
ถ้ามีนิตยสารมาติดต่อถ่ายแบบก็ต้องบอกว่าขอเวลาก่อน ขอเวลาปีนึงได้ไหม แต่ถ้าเป็นละครก็มีนิดๆ หน่อยๆ ที่โชว์ คือต้องบอกว่าละครเป็นแทบทุกเรื่องที่โชว์สำหรับฉากในละคร
เรื่องลงโซเชียลเพราะว่ากลัวตัวเองจะดรอปลงในเรื่องของความนิยมเลยต้องออกมามีโซเชียลแข่งกับคนอื่น ก็ไม่เลย เพราะถ้าสังเกตจากการที่ผมลงโซเชียลก็ไม่ได้แบบถี่หรือว่าผิดไปจากเดิม เหมือนเมื่อก่อนที่แฟนคลับของเราลง แต่ว่าตอนนี้เรามีโอกาสมาคัดกรองเพิ่มมากขึ้น แล้วเราอยากจะบอกอะไรหลายๆ เรื่องในบางอย่างแล้วก็ไม่มีโอกาสได้บอก ผมว่าในสิ่งที่เราบอกอย่างน้อยๆ น่าจะเกิดประโยชน์อะไรบางอย่างให้กับคนทั่วๆ ไปที่อยากจะศึกษาธรรมชาติ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องความนิยม
ยุคนี้เป็นยุคโลกออนไลน์ ผมว่าแน่นอนทุกอย่างวันนี้เปลี่ยนไป ฐานกลุ่มคนดูหรือผู้บริโภคต่างๆ เปลี่ยนไป เราก็ต้องพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับยุคของสังคมนี้ โดยที่เราก็ไม่ได้ผิดจากคาแรกเตอร์เดิมของเราเท่านั้นเอง
เมื่อก่อนจะเป็นแฟนคลับที่เข้ามาดูโซเชียลให้ แต่เดี๋ยวนี้เรามาดูเองแล้ว จะมีปัญหากับแฟนคลับไหม ก็ไม่มี อันนี้เป็นความเต็มใจของกลุ่มแฟนคลับเดิม และตอนนี้ต้องบอกว่าพอเวลาเรามาดูเราก็ยังมีที่ปรึกษาฐานแฟนคลับเดิม ที่คอยให้คำปรึกษาและคอยดูแล คือเขาบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องยกให้กับติ๊ก เพราะว่าทั้งหมดทำให้กับติ๊ก ซึ่งน่ารักมาก
กับเรื่องลูกช่วงนี้เลี้ยงลูกก็สนุกดี โมเมนต์เปลี่ยนผ้าอ้อมก็เป็นปกติอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องช่วยๆ กัน ถามว่าส่วนตัวช่วยแบ่งเบาอะไรภรรยาไหม ก็ช่วยๆ ทุกอย่าง เพราะว่าด้วยตัวภรรยาผมเองก็ต้องคอยมีสมาธิกับลูกชายคนโต เพราะเขาค่อนข้างที่จะต้องการความรักเอาใจใส่ ในขณะเดียวกันคนเล็กก็ต้องดูแล แต่ว่าคนเล็กจะง่ายในตอนนี้ เพราะไม่ค่อยมีอะไรมาก อย่างหิว กินนม เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ประมาณนั้น แล้วก็นอนหลับ จะไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่
ส่วนเลี้ยงง่ายไหม เอาจริงๆ แล้วเด็กในวัยนี้เลี้ยงง่ายที่สุดแล้ว เพราะว่าพอโตขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการจะมีเพิ่มขึ้น สำหรับคนโตก็สบายขึ้นนะ เพราะว่าเราค่อนข้างที่ผ่านอะไรมาพอสมควร และก็เข้าใจมากขึ้น แล้วตอนนี้ก็เหมือนปล่อยอะไรได้มากขึ้นด้วยซ้ำ
ส่วนใหญ่เลี้ยงใครมากกว่าเหรอ ถ้าส่วนใหญ่แล้วตอนนี้ผมจะค่อนข้างไปทางน้องเต็นท์มากกว่า เพราะน้องเต็นท์เขาค่อนข้างที่จะมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว แล้วก็ความต้องการเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ความสงสัยอะไรเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วเราต้องเอาคนโตเป็นหลักก่อน เพราะเขารู้เรื่องสุดแล้ว คือก็ต้องอธิบายให้กับน้องเต็นท์พอสมควร เพราะเขารู้สึกว่าไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักจากเขาไป เพราะฉะนั้นในฐานะพ่อแม่เราก็ต้องให้ความรู้สึกว่าเท่ากัน และตอนนี้อย่างคนเล็กเขาไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว ไม่ได้ทะเลาะกัน
แนวทางการเลี้ยงลูกน้องเต็นท์ สำหรับผมแล้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วก็เพียงแต่ว่าจุดประสงค์ของเราคืออยากให้เขาเติบโตมาในแบบที่เป็นเด็กที่ดี มีภูมิคุ้มกันเรื่องต่างๆ ของสังคม แล้วอะไรไม่ดีก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเขา อะไรที่เรานอกเหนือจากอันนั้นในเรื่องของธรรมชาติที่ผมคอยปลูกฝังให้กับเขา รักธรรมชาติ ก็อธิบายเรื่องสัตว์เล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเรา ทำให้เขาลุยในแบบที่เราก็สามารถจะคอยที่จะอยู่เป็นเพื่อนเขาได้
เรื่องน้องเต็นท์ช่วยเลี้ยงน้องตอนนี้ก็ยังไม่มีโมเมนต์นั้น เพราะเขาก็แค่ดูแล้วก็แตะๆ ขำๆ การแชร์วิธีการเลี้ยงลูกลงในโซเชียลก็ไม่ได้มีการทำ เพราะแต่ละแบบแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันหรอก เพราะฉะนั้นแบบนี้สอนกันไม่ได้ ก็แล้วแต่แบบใครแบบเขา แต่ด้วยพื้นฐานของเด็กๆ ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งผมว่าก็น่าจะมีในรูปแบบที่ทุกคนน่าจะเข้าใจกันอยู่แล้ว แล้วแต่ใครจะเพิ่มเติมในแบบไหน
เรื่องกระแสในโซเชียลกับการให้ความสำคัญก็มีบ้าง อย่างตอนนี้ เราจริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดนะว่าจะมีโซเชียล แต่ว่าตอนนี้เรามีทีมเป็นแอดมิน แล้วก็คอยช่วยในด้านนี้ แล้วก็ยังเป็นในสไตล์เรา คือไม่ได้มีอะไรที่จะค่อนข้างหวือหวา คือเวลาเรามีผลงานหรืองานที่ในเรื่องของการเดินทาง เราว่าโอเคแล้วแหละ ถึงเวลาที่จะบอกทุกๆ คนแล้วก็เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ทุก คนได้เรียนรู้พร้อมๆ กัน นอกเหนือจากรายการเนวิเกเตอร์ เพราะว่าไม่อย่างนั้นต้องคอยดูทุกๆ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ผมในระหว่างทางถ้าเกิดเรามีสาระน่ารู้ดีๆ เราก็สามารถสื่อสารตรงนั้นได้ เราทำกันเป็นทีม มีทุกอย่าง ทั้ง Instagtam facebook twitter รวมถึงใน YouTube ถามว่าทำเองไหมก็ต้องบอกว่าเป็นผลพลอยได้ที่ได้จากฐานแฟนคลับเดิมที่เขาทำ ไว้ให้แล้ว แล้วตอนนี้เหมือนกับเขาเห็นว่าเขาได้ทำมาแล้วน่าจะยกให้กับทีมผมได้ทำ ก็เหมือนเราได้สืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากเขา ก็ต้องขอบคุณมากๆ
โซเชียลก็เล่นเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็ยังต้องให้ทุกคนสอนผมหน่อย ถามว่าเล่นยากไหมก็ไม่ยากนะโซเชียล แต่ก็ไม่ง่ายด้วย ผมว่าต้องมีเวลา แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ พอดีเราจะไม่ค่อยมีเวลามาเล่นเท่าไหร่ เรื่องระวังผมว่าสิ่งที่ดีก็ดีนะ แต่ถ้าทุกคนไท่เข้าใจก็อาจจะกลายเป็นผิดไป เพราะฉะนั้นผมว่าต้องคิดให้มากขึ้น มีความรอบคอบหน่อย แล้วอย่างผมเองไม่ได้หวือหวากับการใช้ชีวิตเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่มีแต่ครอบครัว แล้วก็เรื่องราวต่างๆ ที่เดินทางไปเจอธรรมชาติ
เป็นการใช้พื้นที่โซเชียลเข้ามารณรงค์การรักษ์ป่าใช่ไหม ก็เราใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นการสื่อสารออกไป เราอยากจะเป็นส่วนหน่งในการอนุรักษ์และอยากให้ทุกคนหันมาสนใจ แล้วก็เข้าใจธรรมชาติแบบจริงๆ แล้วก็ได้เห็นว่าเวลาเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ท่ามกลางผืนป่า ท้องทะเล ภูเขา เราได้เจออะไรบ้าง แล้วสิ่งที่เห็นน่าชื่นใจขนาดไหน ก็อยากให้ทุกคนได้เห็นสิ่งที่ความเป็นจริงในโลกปัจจุบันนี้ คือบางทีอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่สวยงามเสมอไป อาจจะมีไม่สวยงามบ้าง แต่ว่าอันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น
อะไรที่เป็นห่วงเกี่ยวกับป่าในช่วงนี้ คือผมว่าทุกๆ คนน่าจะพอทราบดีเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะ แล้วก็กระแสโซเชียลต่างๆ มาแล้ว ผมอยากให้รู้สึกว่าคือนอกจากกระแสที่มาแล้วเนี่ย ทุกๆ คนต้องร่วมมือกันทำด้วย เพราะว่าตอนนี้ทุกๆ อย่างมีวิธีของธรรมชาติล้วนๆ เลย แหล่งอากาศ แหล่งหายใจ แหล่งน้ำ พืชสมุนไพร อาหารต่างๆ ของเรา ต่างต้องพึ่งพาในเรื่องของพลังงานด้วย