"ปู ไปรยา" ออกโรงเคลียร์ หลัง "เชน ธนา" โพสต์เตือนดาราระวังถูกสอบทำธุรกิจลูกโซ่
เป็นอีกหนึ่งดาราที่ถูกนักร้องหนุ่มที่ผันตัวไปทำธุรกิจอย่าง "เชน ธนา ลิมปยารยะ" ออกมาโพสต์เตือนว่าระวังถูกสอบทำธุรกิจลูกโซ่ สำหรับสาว "ปู ไปรยา สวนดอกไม้" ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย
สำหรับข่าวที่พี่เชนออกมาโพสต์ ปูก็ขอชี้แจงว่าถ้ารู้นิสัยปู ปูเป็นคนที่ทำอะไรจริงจังและทำเต็มที่ แล้วของปูไม่ใช่เปอร์เซ็นของยอดขาย ปูหุ้นเขาด้วย แล้วทำปูต้องขายอาหารเสริม เพราะอะไรหลายๆ อย่างของปูในเชิงโฆษณาเต็มแล้ว ปูขายครีมไม่ได้ ปูขายเครื่องสำอางไม่ได้ เพราะปูติดพรีเซ็นเตอร์หมดแล้ว ดาราอาชีพเรายั่งยืนจริงแต่ก็ไม่ได้มีกระแสตลอด แล้วจะทำยังไงที่เราสามารถเติบโตได้ มีรายได้แล้วไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ ก็คือการขยายใช้ชื่อเสียงเราไปทำธุรกิจ ซึ่งตอนที่การ์ตูนมาชวนปู ถามตรงๆ ปูดูอย่างละเอียดนะ ถ้ามีสารที่ทำให้ใจสั่น ปูก็จะไม่ทำ ปูจะชี้แจงว่าธุรกิจของปู
ตอนนี้ปูยังไม่ค่อยได้มีเวลาหลังเปิดแล้วกระแสตอบรับดีมาก แล้วตอนนั้นมีคู่แข่งเยอะมากและโจมตี สร้างกระทู้ แต่ปูก็ไม่ได้อะไร การมีข่าวไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับปู ปูเจอมาเยอะแล้วตั้งแต่อยู่วงการบันเทิง ก็จะบอกว่าครั้งนี้ที่ข่าวออกมา ปูรู้สึกไม่แปลกที่ทุกคนจะถามว่าทำไม แต่ในทางกลับกัน ปู เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าอาหารเสริมมาหลายๆ ตัวแล้วนะ ต้องแต่ปูอยู่ในวงการบันเทิง แล้วข้อแตกต่างระหว่างพรีเซ็นเตอร์กับเจ้าของ จริงอยู่ตรงไหน จริงๆ อยู่ตรงที่ความเชื่อถือว่าปูทำและทำจริงๆ คือลงมือทำ ลงมือไปดูโรงงานทุกอย่าง แล้วตัวนี้คือสารธรรมชาติจริงๆ เลยรู้สึกว่าอยากทำอยากขาย
กับประโยคที่ว่าไม่อยากให้ได้เงินแค่ก้อนเดียวกับการเสียชื่อเสียง คือชื่อเสียงของเราสร้างขึ้นได้อยู่ทุกวัน การทำธุรกิจที่สุจริตไม่ได้ทำลายชื่อเสียงนะ การขายอาหารเสริม การเป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผม ครีมกันแดด ที่เราใช้จริง เราไม่ต้องกลัวเพราะเราทำด้วยความจริงใจ ชื่อเสียงของปู ปูบอกเลยว่า ปูเป็นคนของประชาชน ทุกคนมีสิทธ์ที่จะออกความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิตปู และปูก็ต้องรับในความคิดเห็นเขา ไม่ว่าในวันที่เขาตำหนิ ไม่ว่าในวันที่เราไม่ดัง หรือในวันที่เราดังแล้วเขาชมเรา ก็อย่าลอย อยู่ในโลกแห่งความจริง โลกแห่งความจริงก็คือภาพลักษณ์อยู่ที่ปูทำทุกๆวัน แล้วปูก็เชื่อว่าปูเป็นคนๆนึงๆที่ปูทำคืนกลับสู่สังคมค่อนข้างเยอะ แต่ปูจะคืนกลับสังคมมากกว่านี้ไม่ได้ถ้าปูไม่มีรายได้ ปูอยากจะช่วยคนจะช่วยยังไง ชื่อเสียงปูอย่างเดียวเอาไม่อยู่นะ ต้องมีรายได้ ต้องมีเงิน และต้องเป็นเงินที่ปูหามาได้ด้วยตัวเอง เพราะถ้าปูไปขอเงินคนอื่นมาช่วยคนอื่น ก็ไม่เหมือนเอาเงินตัวเองไปช่วย เลยมีหลายปัจจัยที่ทำให้ปูทำแบบนี้
จริงๆ ตรงจุดๆ นี้ทำให้คนเบี่ยงเบนความน่าเชื่อถือน่าสนใจ ก็จริงๆ ทำธุรกิจปูเอาใจทุกคนไม่ได้ เป็นดาราก็เหมือนกัน ถามว่าซีเรียสไหมก็ไม่ซีเรียส แต่อยู่ที่ว่าฝีมือของปูละกันที่จะโพสต์สินค้าแล้วทำให้คนเชื่อได้ไหม แต่เอาจริงๆ นะ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวไหนที่ปูเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่ต้องเอาเข้าสู่ร่างกายปุ้ป ถ้าปูคิดว่าไม่ดีปูไม่กล้าเอาชื่อเสียงเป็นสิบๆ ปีมาเกี่ยวข้องกับพวกนี้หรอก
จะคิดว่าอย่างคนที่มาซื้อผลิตภัณฑ์หรือการที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์อาหารเสริมลดน้ำหนัก อาจจะเพราะเราฟิตหุ่นด้วนตัวเอง จริงๆคนออกกำลังกายก็ทานนะ พูดตรงๆ ตอนที่ปูวิ่งมาราธอน ปูทานอาหานเสริมค่อนข้างเยอะ เพราะร่างกายไม่ค่อยไหวแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับแค่การผอมนะ เกี่ยวกับการปรับสมดุล แล้วก็ดีท่อก ตัวของปูบล็อคเบิร์นดีท็อก ตัวเบิร์นปูเล่นเวท ปูเชื่อว่าคนที่ฟังอยู่แล้วเล่นเวทก็จะตอบเหมือนปู ถ้าคุณบอกคุณไม่เคยทานเวย์ เวย์ก็คืออาหารเสริมชนิดนึงเป็นผงที่ผสมเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ การกินอาหารเสริมกับคนที่ออกกำลังกายอยู่เคียงคู่กันมาตั้งนานแล้ว มีบริษัทใหญ่ๆที่ดูแลคนที่เล่นเวท นักเพาะกาย ปูไม่เคยบอกว่าปูกินแล้วปูผอมด้วยตัวของมันเองอย่างเดียว ปูบอกว่ายังไงก็ตามคุณต้องมีไลฟ์สไตล์ที่อรุ่มอร่วยให้ยาได้ผล เพราะปูไม่ใช่ยาลดความอ้วน ปูคืออาหารเสริม มีข้อแตกต่างกัน เลยต้องใช้ศัพท์ที่ถูกต้องในการชี้แจงสินค้า
ด้านเรื่องที่เอาเงินไปช่วยเหลือเด็ก คือในเดือน 11 ปีที่แล้ว ปูประกาศว่าปูจะมอบทุนการศึกษาให้เด็กที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนหนังสือ แล้วก็ประกาศลงในไอจีแล้วตอนแนกจะเลือกเด็กสองคนจะให้เขาเขียนจดหมายมาหาปู โดยชี้แจง2คำถามคือ 1. ถ้าได้การศึกษาจะเอาไปทำอะไร 2. ถ้าได้การศึกษาจะเอาไปทำไรให้ประเทศชาติ ปูเชื่อว่าเยาวชนคือกลุ่มคนที่เป็นทรัพย์ต่อประเทศชาติ การที่เราถามว่าทำไมต้องช่วยผู้รี้ภัย ผู้รี้ภัยเป็นสิ่งที่ปูจะช่วยตลอดชีวิต การศึกษาคือสิ่งที่พัฒนาประเทศชาติ ในฐานะดาราคนนึง ปูช่วยมูลนิธิมาเยอะ แต่การช่วยประเทศชาติจริงๆ เราต้องลงมือทำด้วยตัวเอง
พอได้จดหมายจากเด็กทั้งหมดแล้วจากเลือก2กลายเป็นเลือก5 ปูเลยบอกว่าปูจะส่งเขาเรียนให้สูงจนกว่าเขาจะโอเค จะเข้ามหาวิทยาลัยก็ให้เขาเข้าด้วยตัวเขาเองปูจะจ่ายให้เขา แต่ปูขอให้อาชีพที่เขาเบือกที่จะทำ ให้เป็นอาชีพที่ช่วยเหลือ ซึ่งปูส่งผู้ช่วยปูให้เข้าไปหา ผู้ช่วยปูก็เข้าไปในแต่ละจังหวัด มีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีภาคเหนือ แต่ก็เลือกมาแล้ว 5 คน ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ดีนะเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ ทำงานให้เราได้มีโอกาส คือเราจะส่งเสียเขาทุกอย่าง คือให้เขาลิสมาว่าเขาอยากได้อะไร แพลนต่อไปคือปูอยากจะหาครูแล้วส่งไปตามจังหวัดต่างๆที่เขาขาดครู แพลนนี้จะเริ่มปีหน้า ทุกสิ่งที่ปูทำมีเหตุผล สิ่งที่ปูอยากทำต้องใช้เงิน แค่เงินค่าเป็นดาราเป็นสิบๆล้าน แล้วลูกจริงๆปูล่ะ ครอบครัวปูล่ะ เราก็ต้องมีค่าเทอม ปูเลยบอกว่าถ้าปูอยากช่วยเหลือสังคม ปูต้องหาอย่างอื่นทำ ช่วยส่งเสริมให้ปูมีรายได้ก่อตั้งมูลนิธิ อันนั้นน่าจะทำปลายปีหน้าหวังว่าจะได้มีโอกาสทำ
สำหรับน้องๆ ที่ปูเลือกมาคือจะส่งเสียทุนการศึกษาตั้งแต่ประถมยันจบปริญญาตรีเลย พอเราประกาศว่าใครได้ ฟีดแบคกลับมาปูอยากจะอัพวีดีโอให้ดูเลย แล้วเขาได้การตอบรับว่าเขาจะได้รับการศึกษาแล้ว คำขอบคุณของเด็กคนนี้จะเป็นสิ่งที่แบบ คือปูพูดแล้วน้ำตาจะไหล เกิดมาปูไม่ใช่คนดีนะ ปูก็เรื่องไม่ดีค่อนข้างเยอะ แต่สิ่งเดียวที่ปูเชื่อคือ เกิดมาเป็นคน เกิดมาเป็นชาวพุทธ ต้องคืนกลับสู่สังคม อย่างน้อยเป็นมนุษย์ที่ดีก็ขอให้เรามีศีลธรรม และการได้ช่วยเหลือเขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาปูว่าคุ้มค่าแล้ว