เปิดใจ! “เอส กันตพงศ์” กว่าจะเป็น “เล็บครุฑ” ผ่านอะไรมาบ้าง

เปิดใจ! “เอส กันตพงศ์” กว่าจะเป็น “เล็บครุฑ” ผ่านอะไรมาบ้าง

    เรียกได้ว่าเป็นละครบู๊ที่หลายคนติดอย่างมาก สำหรับ “เล็บครุฑ” ที่ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะออนแอร์ไปได้ไม่กี่ตอน แต่โกยคำชมจากแฟนละครล้นหลาม วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่ม “เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” เขาเผยให้ฟังว่า

    สำหรับละคร “เล็บครุฑ” มีทางผู้ใหญ่มอบหมายมา แต่เรื่องนี้มีความต่างที่เป็นละครบู๊เต็มตัวเรื่องแรก และการมาเล่นกับพี่โอริเวอร์ก็ต้องรู้ว่านักแสดงต้องเล่นเอง เจ็บเอง มันก็ต้องมีการฝึกฝนและพัฒนา พยายามดูหนังบู๊ให้มากขึ้น การออกกำลังกายก็จะเปลี่ยนไป ตอนหลังจะเน้นให้เหมือนกีฬามากขึ้น เพื่อต้องการความคล่องแคล่ว เปลี่ยนการกินใหม่ เพราะถ้าเล่นให้มันใหญ่ๆ จะโดดไม่ขึ้น ตีลังกาไม่ได้

    ในเรื่องจะเจอกับคนในหน่วยเยอะ ไปไหนจะไปทั้งหน่วย ฉากบู๊ต่างๆ ก็มีพลาดบ้าง อย่างฉากแรกก็มีเฉี่ยวปากพี่ซี ที่เราต้องต่อยหน้า และด้วยความที่พี่เวอร์อยากได้ความสะใจ เขาก็ให้ต่อยไปตรงๆ ที่หน้า และรัว ก็มีหลุดๆ ผ่านปากเขาไป ก็แอบใจเสีย แต่เห็นหน้าเขาก็ลุ้นว่าจะเล่นต่อไหม ซึ่งก็เล่นต่อไป พอคัทก็ขอโทษกัน เพราะถ้าไม่เล่นต่อครั้งนั้นเขาจะเจ็บฟรี

    ด้านฟีดแบ็คเองก็ดีมากๆ รู้สึกว่าไม่เหมือนกับที่ผ่านๆ เพราะผ่านๆ มาจะเล่นพีเรียด ไม่ก็ดราม่า เป็นเรื่องแรกที่บู๊ คาแรกเตอร์จะเท่ หลายคนดูก็อาจจะมองว่ามันเข้ากับหน้าของตนเอง ตอนนี้ 95% ก็จะชอบกัน

    ตอนนี้ติดใจกับบทบู๊ ได้บอกช่องไปบ้างขอบู๊ เพราะ 4-5 ปีที่ผ่านมาจะเล่นดราม่ามาตลอด จริงๆ ชอบมานานแล้ว แต่ยังไม่มีจังหวะที่ได้เล่น จนมาจังหวะนี้ก็ได้เล่นแนวบู๊ หลายๆ คนก็ส่งมาให้ดู ชมถึงกับเป็นหนังฮอลลีวู้ด บางคนก็บอกไม่อยากเชื่อว่าสูงใหญ่ขนาดตนเองจะเล่นเร็ว เคลื่อนไหวเร็วได้ เหลือถ่ายอีกไม่นานก็จะจบแล้วเหมือนกัน

    กับเรื่องที่หลายคนมีเอาไปเทียบกับละครอีกช่อง ตนเองไม่ได้ดูของอีกช่อง แต่ทราบว่าเป็นอีกแนวนึง ก็มองว่าเป็นทางเลือกให้คนดูมากกว่า แฟนละครมีตัวเลือกให้ได้ดูมากกว่า

    สุดท้ายอยากบอกให้แฟนๆ ติดตามเรื่องนี้ เพราะเรามองว่าน่าจะยังไม่มีละครไทยทำบู๊แบบนี้ ทั้งมุมกล้อง และการบู๊จริง นักแสดงทุกคนทุ่มเทหมด ทั้งหมดก็จะเป็นความสนุกที่จะได้รับจากละครเรื่องนี้