"แต้ว" ชี้แจงหลังมีคนออกมาแฉแบรนด์อาหารเสริม
หลังจากกระแสสินค้าในเครือเมจิกสกินมาแรงจนทำให้แบรนด์สินค้าทางออนไลน์ส่งผลกระทบไม่น้อย และหนึ่งในนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นของสาว "แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์" ที่มีคนสร้างกระแสว่าเทลูกทีมซะงั้น สาว “แต้ว” จะว่าอย่างไรบ้าง
"แต้ว" ว่ามันก็น่าจะเป็นกระแสต่อมาจากแบรนด์ก่อนหน้า มันก็เลยเป็นเรื่องราวของแบรนด์ออนไลน์ทั้งหลายโดนกระทบกันไปหมดรวมถึงแบรนด์เราด้วย มันก็เกิดขึ้นได้ ก็ดีที่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือผู้บริโภคออกมาตั้งคำถามมันก็จะได้เป็นโอกาสให้เราออกมาชี้แจงให้มันเคลียร์กัน ถามว่าหนักใจไหม ก็ไม่หนักใจนะ ด้วยการที่เรามาทำตรงนี้เราก็ได้ตรวจสอบความมั่นใจในเรื่องของผลิตภัณฑ์เอง และเรื่องของรูปแบบการทำธุรกิจค่อนข้างถี่ถ้วนแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรน่ากังวล กระแสที่บอกว่าเราเทลูกทีมเท่าที่ได้ดูข่าวมันก็เหมือนมีรูปภาพที่มันเหมือนชี้นำมาทางนี้ ด้วยทางปฏิบัติแล้วที่เราทราบมาตลอดไม่ได้มีการทำอย่างนั้นแน่นอน
ถ้าพูดถึงให้เห็นกันง่ายๆ ก็คือเราได้มีการวางแผนการทำการตลาดในหลายรูปแบบที่ได้เห็นกันทั่วประเทศ มันก็การทำเรื่อยๆ และเราก็ไม่ได้ทิ้งตรงนี้แน่นอน เพราะเรายังมองว่ามันเป็นธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำก็ไม่รู้จะทิ้งทำไม ที่เราเป็นดาราด้วยทำตรงนี้ด้วยก็ไม่กังวลนะ แต้วว่ามันเป็นธุรกิจอนาคตในเรื่องของการทำออนไลน์ แล้วในเมื่อมันไม่เคยเกิดขึ้นแบบ official มาก่อนมันก็ต้องมีการตรวจสอบแล้วก็ตั้งคำถามและทำให้มันถูกต้อง ลูกทีมก็ไม่มีถามเขาก็อยู่ร่วมกันในส่วนของการทำงานกับทางบริษัท และเขาก็รู้ว่าอันไหนเป็นความจริงแค่ไหนอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครที่จะมาเคลมหรือเรียกร้องอะไรเลยทุกอย่างก็ปกติ
ในธุรกิจทุกอย่างมันมีการแข่งขันอยู่แล้ว เราก็มีหน้าที่แค่เรียนรู้และแก้ไขทำให้มันถูกต้องแค่นั้นเอง มันเหมือนเป็นการตัดสินใจของเราด้วยมันต้องแยกกันให้ชัดว่าตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ นักแสดงก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง แล้วก็อันนั้นเป็นธุรกิจที่เราเลือกจะไปทำก็อย่าเอามาเกี่ยวข้องกัน ที่ “ดีเจมะตูม” ออกมาขอโทษเขาก็ห่วงใยในฐานะพาร์ทเนอร์ ซึ่งเขาชวนมาก็ด้วยความหวังดีอยากให้ไปในแง่ดีไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือชื่อเสียง ถ้ามันประสบความสำเร็จมันก็ดีด้วยกันทั้งหมด พอมันมีตรงนี้ก็ต้องขอบคุณที่เขาออกมาขอโทษ แต้วว่าไม่ต้องขอโทษก็ได้ เพราะเราเหมือนเป็นพาร์ทเนอร์กัน เราก็ต้องจับมือกันไปดีก็ดีด้วยกันมีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไข ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ยังทำเพราะมันก็เป็นไปได้ด้วยดี มันไม่มีอะไรที่ราบรื่นโรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้วเนอะ มันมีปัญหาอะไรเราต้องช่วยกันแก้ไขแล้วก็ทำให้มันถูกต้อง เพราะว่าไม่ได้คิดถึงแต่ผลกำไรอย่างเดียวมันเป็นความถูกต้องของผู้บริโภคทุกอย่าง ถ้าเราทำอะไรที่มันไม่ภูกต้องเราเองก็ไม่สบายใจด้วย
เรื่องที่คนมาดิสเครดิตมันก็มีวิธีการจัดการอยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นการเตือนถ้ามันยังไม่จบก็อาจจะมีเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ตอนนี้ก็ยังจะทำต่อแต่ก็ต้องดูทิศทางลมเนอะ ถ้ามันยังเป็นกระแสที่โหมมากถ้าจะไปต้านกระแสลมอยู่ก็คงยาก เราทำธุรกิจต้องรู้จักถอยรู้จักก้าว ผลกระทบเท่าที่ทราบก็ไม่มีเหมือนธุรกิจอันนี้ดำเนินมา 5 เดือน ก็เรียกว่าเป็นระยะเวลาที่น้อยมากกับการประสบความสำเร็จในระดับนี้ แต้วคิดว่ามันยังโตไปได้อีก แล้วก็เรื่องของตัวแทนเขาเกาะกลุ่มกันมาจากผลิตภัณฑ์ตัวก่อนแล้ว มันก็ค่อนข้างที่จะเหนียวแน่นอยู่พอสมควร เรียกว่าการตัดสินใจของแต้วมาจากครอบครัวอยู่แล้ว เพราะเราเองก็ใหม่สำหรับการทำธุรกิจนี้ด้วย ก็ไม่ได้มีการเตือนอะไร ก้าวทุกก้าวของเราก็จะมีการปรึกษาว่าเราควรไปในทิศทางไหน เพราะฉะนั้นแต้วก็มั่นใจว่ามีที่ปรึกษาที่ดีพอ การโพสต์ในโซเชียลมันเป็นเพียงแค่คำพูด ถ้ามีข้อติและมีอะไรที่อยากจะเคลมเราก็ยินดี มันไม่ใช่เป็นแค่ข้อเสีย แต่มันก็จะก้าวไปสู่การปรับปรุงที่ดีขึ้น ก็ถ้ามีหลักฐานก็น่าจะเอาออกมาชี้แจงกันก็น่าจะป้องกันตัวเรา