“โตโน่” แจงประเด็น “ก้อง ห้วยไร่” ถูกผู้จัดคอนเสิร์ตฟ้องร้อง
ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ สำหรับกรณีของหนุ่ม “ก้อง ห้วยไร่” ถูกผู้จัดคอนเสิร์ตที่ยุโรปบินมาฟ้องร้องถึงไทย เหตุเพราะหนุ่ม "ก้อง" ไม่ยอมไปเล่นคอนเสิร์ตตามสัญญาที่ทำไว้ งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” จึงสอบถามประเด็นนี้กับเจ้าตัวถึงประเด็นดังกล่าว
จริงๆ แล้ววงต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกันอยู่แล้ว ด้วยการที่เรารู้จัก "ก้อง" เป็นเพื่อนกัน เพราะไปเตะบอลด้วยกัน พอเขาทราบเขาก็อยากไปเที่ยว ไปพักผ่อนด้วย เราก็เลยบอกว่ายินดีเลยไปเที่ยวด้วยกันได้ แล้วเราเลยบอกกับทางผู้จัดการฯ ของเราว่าเขาอยากไปด้วย ตามสัญญาต้องไปด้วย ก็มีสัญญาหมดทุกอย่าง แต่เราก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุที่ทำให้เขามาไม่ได้ ก่อนเดินทางเขาไม่ได้แจ้งว่าไม่สะดวกไป เราทราบตอนที่ไปยุโรปแล้ว
คือจริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะไปพูดในเรื่องของรายละเอียด เพราะมันไม่ใช่เรื่องของตนกับวง เอาเป็นว่าพวกรายละเอียดผมไม่พูดถึงแล้วกัน เพราะสิ่งที่วงตั้งใจจะไปทัวร์คอนเสิร์ต และสิ่งที่ตั้งใจ เราอยากให้แฟนๆ ที่เป็นคนไทยที่ไปทำงานต่างบ้านต่างเมืองเขามีความสุข ซึ่งตลอดระยะเวลาเดือนกว่าทุกคนมีความสุข เราได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วตามที่ตั้งใจอยากจะไป เรื่องเงินไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำหรับตนและวงเลย แต่ในส่วนของ "ก้อง" ที่ไม่ได้ทำตามสัญญากับผู้จัดฯ ให้ไปถามกับทางก้องและผู้จัดฯ เอาดีกว่า เพราะว่าจะฟ้องชนะหรือไม่ชนะอันนี้เราไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยสักบาท
เรื่องเงินมันอาจจะมีปัญหาตอนที่ก้องออกมาพูดว่าติดต่อผ่านก้อง ผ่านผู้จัดการฯ "ก้อง" อย่าผ่านคนอื่น ซึ่งคนอื่นในที่นี้ถ้ามันหมายถึง "พี่เมย์" ผู้จัดการฯ เรา มันก็คงไม่แปลกที่มือกลองของเราจะออกมาปกป้องคนที่เขารัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของรายละเอียด เรื่องของหลักฐาน มันค่อนข้างชัดเจน สิ่งที่มันเกิดขึ้นตอนที่อยู่ที่เมืองนอก สิ่งที่เขาโทรมาคุย มาขอคำปรึกษาจากผม ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อน สิ่งดีๆ ที่เราทำมาด้วยกันมันก็มีเยอะแยะ วันหนึ่งถ้าเพื่อนมันจะผิดมันจะพลาดมันก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ดี ก็ไม่อยากจะให้ประเด็นตรงนั้นมันมาทำให้ต้องมาตอบมาวุ่นวาย เพราะว่าเหตุผลที่ทำไมก้องถึงไม่ไปให้ไปถามกับเจ้าตัวดีกว่า ส่วนเราเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ได้รับผิดชอบในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบทั้งในเรื่องของความรู้สึกของแฟนเพลงของเรา หรือแฟนเพลงของก้องที่เขาเสียใจที่ไม่ได้เจอก้อง เราก็พยายามทำให้เขามีความสุขอย่างเต็มที่
ถามว่าได้คุยกับก้องหรือยัง ก็ได้คุยตอนที่อยู่เมืองนอก พอมันได้บทสรุปแล้วว่าก้องไม่ได้มา เราหาทางที่จะทำอย่างไรเพื่อดูแลความรู้สึกของแฟนเพลงก้องมากกว่าที่ไม่ได้เจอก้อง ส่วนในเรื่องของเหตุผลว่าทำไมก้องไม่มาผมก็ไม่ได้จะไปว่าเพื่อน ให้ไปถามเพื่อนว่าทำไมเพื่อนถึงไม่มา แต่ถ้าการให้สัมภาษณ์ของทางก้องหรือใครก็ตามมันเกี่ยวโยงถึงบุคคลที่สามหรืออย่างผู้จัดการฯ ผม อันนี้เราต้องพูดออกมาให้ชัดเจน
เหตุผลว่าทำไมมือกลองถึงออกมาโพสต์ มันมองได้หลายด้านเวลาที่ใครจะพูดถึงใคร แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นคือ ไม่ว่าก้องมันจะทำพลาดหรือทำผิดยังไงก้องมันก็คือเพื่อนผม คือถ้าทำผิดพลาดแค่ขอโทษคนไทยก็ให้อภัยอยู่แล้ว ไปคุยกับทางผู้จัดฯ ซึ่งผมก็คิดว่าเดี๋ยวเขาก็คงไปคุยกันได้แหละ แต่ในหน้าที่ของเราเราก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว นั่นคือสิ่งที่วงทำได้ เราก็ทำหน้าที่ทุกอย่างที่ตกลงกัน จริงๆ แล้วผมไม่รู้เรื่องด้วยว่าใครจะบินมาฟ้องใครตอนไหน เรารู้แค่ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้างตอนที่อยู่ที่เมืองนอก เรามีทั้งหมด 13 โชว์ มีก้องอยู่ในนั้น 6 โชว์ ซึ่งเราโชว์ไปแล้ว 7 โชว์ ที่เหลือที่จะต้องมีก้องด้วย ซึ่งเราเพิ่งทราบว่าก้องจะไม่บินมา 2 วันก่อนโชว์ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้โฟกัสใครผิดใครถูก เราโฟกัสแค่ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อที่จะดูแลแฟนคลับของเขา เพราะเราเข้าใจความยากลำบาก บางคนบินมาจากสวีเดน บางคนต้องจองตั๋ว จองที่พัก มันไม่เหมือนบ้านเรา
สิ่งที่ก้องขอคำแนะนำกับผมตอนเกิดปัญหา ผมก็บอกให้เขาพูดตรงๆ ผิดก็รับผิดชอบไป ถ้ามันเกิดจากคิวงานที่ชนกัน เกิดจากการรับงานซ้อนจากทางตัวของก้อง เราก็พูดตามจริง และขอโทษแฟนเพลงกับทางผู้จัดฯ ผมเชื่อว่าถ้าเราพูดด้วยความจริงใจ ทุกคนเข้าใจ สำหรับผมมันไม่หนักการที่เราต้องเล่นโชว์เพิ่ม วงไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มจากทางผู้จัดฯ เลย วงต้องการให้แฟนๆ มีความสุข และรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เราตั้งใจไปให้
เรื่องปัญหาของ "ก้อง" กับทางผู้จัดฯ ขอร้องว่าอย่าโยงเอาเราไปเกี่ยวข้องเรื่องผลประโยชน์ของใครหรือตัวเงินของใคร คนกลางไกล่เกลี่ยคิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเรา มันเป็นเรื่องของทางก้องกับทางผู้จัดฯ ทางทนายของ "ก้อง" ต้องไปคุยกัน และผมไม่อยากให้แฟนๆ ไปด่าก้อง ผมเชื่อว่าก้องโตแล้ว และมีวิธีในการรับมือและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คำพูดไม่ว่าจะเป็นกับทางผู้จัดฯ หรือมันมาส่งผลกระทบกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย อันนี้จำเป็นต้องออกมาพูด แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงขั้นนั้น