"ซันนี่" ปลื้มแฟนๆ ชมฝีมือการแสดงดีขึ้น รับมีงานละครเข้ามาแต่ยังไม่พร้อม
สำหรับภาพยนตร์ "น้องพี่ที่รัก" ที่ตอนนี้ทำยอดทะลุร้อยล้านแล้ว ไม่รู่ว่าหนุ่ม "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" จะรู้สึกอย่างไรบ้าง และไม่รู้ว่าจะมีผลงานละครให้แฟนๆทได้ติดตามบ้างหรือเปล่า
คนมาดูเราก็รู้สึกดีใจ ชอบที่เวลาไปตามโรงหนังแล้วเซอร์ไพรส์คนดู เราได้รับปฏิกิริยาต่างๆ กลับมา รวมถึงคนที่ไม่ค่อยดูหนัง แล้วอยู่ดีๆ ก็มาดูเรื่องนี้ เขาพาพี่น้องมาดูก็รู้สึกดีมาก หลายคนแปลกใจกับพัฒนาการด้านการแสดงก็รู้มาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดเห็นยังไง จริงๆ เวลาผมตีความตัวละครจะไม่ตีความเป็นประเภท เราจะตีเป็นปัจเจกบุคคล อยู่บนพื้นฐานความเป็นมนุษย์ให้มีมุมมองผ่านเราแค่นั้นเอง ก็เลยไม่ได้คิดคนนี้ต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น มุนษย์มันมีทุกมุม แล้วทุกตัวละครก็จะเป็นแบบนี้ แล้วแต่ว่าเรื่องไหนจะพาไปถึงไหนแค่นั้นเอง เรื่องนี้ทำการบ้านมันอยู่ที่นักแสดงโดยรวมด้วยแหละ ถ้าไม่ใช่คนๆ นี้ผมก็จะไม่แสดงออกแบบนี้ เพราะเหมือนเราเป็นตัวละคร เราเจอใครก็จะโต้ตอบกับคนๆ นั้นแบบไหน ตนไม่เคยแยกใครเป็นประเภท ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ เพราะฉะนั้นมันไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีวิธีทำงานที่ไม่เหมือนกัน วิธีของตนต้องให้มันซึมซับ มันเหมือนตัวผมเองที่ไม่เคยต้องเตรียมอะไรมาพูด แล้วแต่ว่าใครพูดอะไรมา เราจะตอบโต้แบบนั้น ก็เลยเหมือนกันถ้าเป็นตัวละครนี้ก็เป็นแบบนั้น
ผลงานหลังจากนี้อาชีพผมมีอาชีพเดียวคือการเป็นนักแสดง ก็เลยไม่รู้ รอดูว่าจะมีอะไรเข้ามา ถ้างานไหนมีความสามารถพอก็ยินดีเวลาหนังประสบความสำเร็จ พอมีเรื่องต่อไปแล้วกดดันไหม ผมไม่กดดันตัวเอง บทภาพยนตร์มาก็มาด้วยความรักความตั้งใจ แล้วเราก็รู้สึกว่าเรามาด้วยความรักความตั้งใจเหมือนกัน เลยไม่ได้คิดว่าฉันจะต้องทำอะไรเพื่ออะไร แค่เป็นตัวละครแล้วตั้งใจทำมันด้วยหัวใจก็พอ ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น ถามว่าอยากมาเล่นละครไหม ต้องรอดูคนมาเสนอก่อน แต่ว่าผมไม่เคยทำก็กลัวอยู่ เพราะมีคนอื่นทำได้ดีกว่าผมอยู่แล้ว ศาสตร์มันไม่เหมือนกัน เป้าหมายถึงผู้ชมมันไม่เหมือนกันด้วย จริงๆ ก็มีโอกาสได้เห็นเหมือนกัน แต่มันก็แล้วแต่พรหมลิขิตว่าชีวิตผมจะมุ่งไปทางไหน (ยิ้ม) ตนอาจจะล่องเรือไปต่างประเทศก็ได้ มีหนังต่างประเทศติดต่อมาไหมไม่ทราบเหมือนกัน แต่หลักๆ เราคือที่ไทย เราเลยไม่คิดถึงเรื่องต่างชาติ เราเปิดโอกาสอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมองว่าถ้ามีคนที่เหมาะสมกว่าเราก็ควรให้โอกาสนั้นเป็นของเขา รู้สึกภูมิใจที่เขาเสนองานมาให้ที่ปฏิเสธเขาก็เข้าใจเหตุผล