แพทย์แถลงให้ "โจอี้ บาซู" กลับบ้านได้หลังอาการป่วยดีขึ้น
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันที่ 24 พ.ค. คณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งนำโดย "พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค" ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ฯ พร้อมทีมแพทย์ผู้รักษา "นายแพทย์เกรียงไกร ถวิลไพร" แพทย์เฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ และ "แพทย์หญิง ธนิศรา เรืองพัฒนาวิวัฒน์" แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู พร้อม "โจอี้ บาซู" ได้เดินทางมายังหอประชุมโรงเรียนนักอัลตราซาวด์การแพทย์ อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของหนุ่ม "โจอี้" ซึ่งในขณะนี้คณะแพทย์ได้ประมาณอาการและวางแผนให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้
โดย "นายแพทย์สันติ" เผยว่าวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ภายใต้การดูแลของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณโจอี้ บาซู หลังจากที่เคยให้ข่าวไปครั้งแรกแล้ว แล้วว่ามีอาการเป็นอย่างไร และในวันนี้ก็เป็นวันที่รู้สึกได้ถึงความสดใส รวมถึงความกังวลก็ได้หมดไปแล้ว จากนี้เราก็เหลือแค่แผนการดูแลคนไข้ต่อก็เท่านั้นเอง เรารับคนไข้มาตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ด้วยอาการแขนขาอ่อนแรง พูดจาสื่อสารไม่ได้ ปัจจุบันตอนนี้คนไข้ อาการดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการวางแผนการรักษาตอนนี้เราไม่ได้มองแค่จะรักษาอย่างเดียว แต่เรามองถึงการฟื้นฟูในอนาคต ที่เราร่วมมือกับทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพียงแต่ทางเราได้วางแผนในส่วนของตัวเราไว้หมดแล้ว ว่าจะรักษาคนไข้อย่างไร นับตั้งแต่วันที่ให้ออกจากโรงพยาบาล และการที่เราออกมาให้ข่าววันนี้ ก็เป็นเหมือนการออกมาบอกว่าเราได้จบการรักษา ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สำหรับอาการทางสมอง ตอนนี้ถือว่าหยุดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอาการแทรกซ้อน มีแต่จะดีขึ้น เหลือแค่รอการฟื้นฟู
ด้าน "แพทย์หญิงธนิศรา" เผยต่อว่าอาการเบื้องต้นตอนนี้คนไข้สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองง่ายๆ ในการทำกิจวัตรประจำวัน และในเรื่องของการทานอาหารที่ตอนแรกไม่สามารถทานเองทางปากได แต่ตอนนี้สามารถทานได้ตามปกติแล้ว ส่วนเรื่องการสื่อสารเองก็เช่นกัน เพราะคนไข้เข้าใจเกือบทุกอย่างเลย เพียงแต่ว่าการพูดหรือการอธิบายอาจจะไม่เก่งนัก เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและฟื้นฟู ขณะที่การช่วยเหลือตัวเอง คนไข้สามารถ ลุกขึ้น นั่ง ยืน หรือย้ายขึ้นลงเก้าอี้ได้ดี เพียงแต่การเดินอาจจะฝึกยากหน่อย เพราะคนไข้เป็นคนตัวใหญ่ ดังนั้นต้องฝึกฝนต่อไป แต่ถามว่าจะสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติไหม โดยแนวโน้มเราต้องรอการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อจริงๆ ถ้าหากกล้ามเนื้อมามากขึ้น ก็อาจจะสามารถเดินได้ดีขึ้น แค่เรายังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่คนไข้ก็จะมีทีมที่ดูแลต่อจากนี้เยอะมาก ทั้งทีมกายภาพบำบัดนักฝึกฝนฟื้นฟู และเรื่องของการฝึกพูด ดังนั้นเบื้องต้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนทางด้านหารที่คนไข้จะกลับไปอยู่ที่บ้าน คนไข้ก็อาจจะต้องฝึกฝนทักษะที่ทางโรงพยาบาลได้สอนไป เพื่อให้ไม่มีการถดถอย ดังนั้นถ้าจะถามว่าคนไข้จะดีขึ้นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่ เราไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เพราะขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูแลของทางบ้าน และการฟื้นฟูของคนไข้ กับอาการคนไข้ช่วง 2 สัปดาห์ที่อยู่โรงพยาบาล คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วมาก และ ณ ตอนนี้ก็ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรเลย
ทางนายแพทย์เกรียงไกรบอกต่อว่า ถึงแม้ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลคนไข้จะมีอาการปอดอักเสบ แต่ก็สามารถผ่านพ้นไปได้ รวมถึงอาการถุงน้ำดีอักเสบ ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง รวมถึงอาการติดเชื้อ แต่อาจจะมีแค่เรื่องของการกินและการกลืนที่ต้องระวัง
ด้าน "โจอี้" บอกคุณหมอบอกว่าตอนนี้เริ่มดีขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง มันอธิบายยาก แต่ก็รู้สึกดีที่คุณหมอให้กลับบ้านได้ แต่ตอนนี้เราเองก็ยังไม่มีแรง พร้อมขอบคุณเพื่อนๆ และทุกคนที่จัดคอนเสิร์ตขึ้นมาให้ ในส่วนเรื่องคดีความก็เรื่องเก่ามันจบไปแล้ว มีแต่จะทำตัวให้ดีขึ้น สู้ สำหรับค่าใช้จ่ายอยู่ใน 30 บาท ซึ่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาส่งมาให้ ก็มีส่วนเกินบ้าง ซึ่งคุณเบนเป็นผู้ผิดชอบไปเรียบร้อย