ท้าทายที่สุดที่เคยเล่นมา! “อินดี้” เล่าจุดเปลี่ยนเล่น “ลิขิตรัก”
เรียกได้ว่ากำลังเข้มข้นสำหรับ “ลิขิตรัก” ที่ได้พระเอกอย่างหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และนางเอก “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาแสดงนำในเรื่อง วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับอีกหนึ่งตัวละครอย่าง “อินดี้ อินทัช เหลียวรักวงศ์” เขาได้เล่าจุดเริ่มต้นที่ได้แสดงเรื่องนี้ พร้อมกับความประทับใจที่มีกับผู้จัดฯ อย่าง “แอน ทองประสม” ให้ฟังว่า
สำหรับละคร “ลิขิตรัก” ทางพี่ “แอน ทองประสม” ติดต่อมาเอง ไม่ใช่ทีมงานหรือใครโทรมา เขาบอกสนใจจะให้เรามาเล่นบทนี้ เป็น “เจ้าชายอลัน มาร์ก อังเดร ฟิลลิปเป” ซึ่งตอนนั้นมันเป็นอะไรที่ตกใจ เพราะตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าแอนไหน ไม่คาดคิดว่าเขาจะโทรมา ก็ถามไปว่าอะไรยังไง ก็ปลื้มใจที่เขาโทรมาคุยเอง แค่ความรู้สึกนี้ก็คิดว่าเขาใส่ใจ อยากให้เราไปร่วมงานกับเขา ก็ตอบตกลงเลย ไม่แคร์ด้วยเรื่องของบท ตอนนั้นก็คิดว่าคงเป็นแบ็คอัพให้ “ณเดชน์” เพราะตนเองก็อยากร่วมงานกับ “แบร์” และ “ญาญ่า”
โดยเขากลับมาอีกทีคือวันฟิตติ้ง ไม่มีการเคาะสนิม ไม่มีการเวิร์คชอปอะไร ส่งบทมา เรื่องย่อ เราก็นั่งอ่าน มันเป็นเรื่องราวที่หาได้ยากในละครไทย ซึ่งเรามองว่ามันเวิร์คนะ เพราะจะทำให้คนดูเห็นในสิ่งไม่เคยเห็น เพราะมุมของเจ้าชายจะไม่มุ้งมิ้ง จะซีเรียส ไม่ตลก ไม่ขำ ด้วยสีหน้าที่คนอื่นชอบมองว่าหยิ่ง ขี้เก๊ก มันตอบโจทย์มากๆ บทนี้ จะไม่ห่างตัวมาก
ด้านการเตรียมตัวมันเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าช่วงแรกไม่ยาก เพราะเขาก็บอกให้เล่นสไตล์เราเลย การพูดไม่ต่างกับชีวิตปัจจุบัน แต่มันต้องใส่ความเป็นเจ้าชายเข้าไป จะทำยังไงให้คนเชื่อว่าตนเองเป็นเจ้าชาย ต้องเป็น “อินดี้” แบบเจ้าชาย ต้องเป็นตัวของตัวเองด้วย ตรงนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก เพราะเขาเตรียมโปรดักชั่นไว้แล้ว มันไม่นาน เป็นอะไรที่เร็วมากๆ
กับเรื่องของอินเนอร์ก็ใช้ประมาณนึง มันเป็นตัวละครที่ท้าทายที่สุดที่เคยเล่นมา เรามองว่าเรื่องต่อๆ ไปคงเบาแล้ว ตรงนี้มันไม่ถึงขั้นทำไม่ได้ แต่ต้องบอกว่าด้วยชุดที่เตรียมมามันเอื้อมากๆ อย่างใส่ชุดเจ้าชายเดินในสถานที่ในวัง อินเนอร์จะมาเอง หันไปเจอทหารอินเนอร์จะมา นักแสดงเองก็ช่วยเยอะ อย่าง “ญาญ่า” เขามากองก็เป็นเจ้าหญิงมาแล้ว เขาไม่ต้องประดิษฐ์อะไรเยอะ มันจะเป๊ะมากๆ และพี่สาวอย่างพี่ “ซาร่า” มันก็ค่อนข้างหน้าเหมือนเรามากๆ
ส่วนพี่แอนเองต้องบอกว่ากองนี้ไม่มีแอ็คติ้งโค้ช ไม่มีเลย ด้วยความที่กองมีพี่แอน ทุกคนก็เป๊ะเอง และด้วยความที่บทของเราจะเป็นพี่แอนเป็นคนเคาะ บางทีลิมิตมันเยอะไป น้อยไป ทางพี่แอนก็จะบอกเสมอ มันเป็นความโชคดีที่บทไม่ไกลตัวเท่าไหร่
เราโชคดีที่ไม่ต้องพูดราชาศัพท์ในเรื่อง เพราะของพี่แบร์จะพูดเยอะ เขารับมือได้ แต่ของเราเวลาที่ไม่เคยพูดมันจะเป็นคำที่ไม่ติดปาก มันจะไม่เป็นธรรมชาติ ของเราจะไม่เจอแบบนี้ เรื่องของฟีดแบ็ค เรื่องราวของ “ลิขิตรัก” เป็นคล้ายๆ ซีรีส์ฝรั่ง มันจะมีตัวละครใหม่เข้ามา แต่จะมีคนอื่นๆ เข้ามาแจมด้วย ซึ่งมันจะน่าสนใจแตกต่างกัน
อย่างตัวเองจะมีเลเวลของตัวเอง 3 ระดับ เพราะมันท้าทายและยากพอสมควร ด้วยเลเวลแรกจะเป็นเด็กโวยวาย อีกขั้นจะเป็นการสูญเสียคุณพ่อ จนสุดท้ายจะเป็นอีกบุคคลนึง มันเป็นอะไรที่ไม่คาดคิด สำหรับเราค่อนข้างดี ตอนนี้ก็พีคมากๆ
สำหรับคนดูจะได้อะไร ในมุมมองตนเองจะได้รู้ถึงคำว่าความรักกับหน้าที่ เพราะแต่ละครอาชีพไม่เหมือนกัน เรื่องนี้จะชัดเจนในเรื่องหน้าที่กับความรัก