เด็กเก็บบอลล่าฝัน “ซิเกิร์ดส์สัน” สู่ตัวจริงทีมชาติ “ไอซ์แลนด์”
เกมฟุตบอลดุเดือดขึ้นทุกๆ วัน สำหรับเทศกาลบอลโลก 2018 ที่ค่ำคืนนี้ (วันที่ 22 มิถุนายน 2561) มีถึง 3 แมตช์ให้ได้ติดตามกัน อย่างแมตช์ บราซิล-คอสตาริกา ที่เพิ่งจบไป ก็เหลืออีก 2 การแข่งขัน ระหว่าง ไนจีเรีย-ไอซ์แลนด์ เวลา 22.00 น. และ เซอร์เบียร์-สวิตเซอร์แลนด์ เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยคืนนี้ ทาง “ดาราเดลี่” ก็ขอหยิบยกอีกหนึ่งหนุ่มมากความสามารถ และเป็นนักเตะหัวใจสู้ อย่าง “กิลวี ซิเกิร์ดส์สัน” ของทีมชาติ “ไอซ์แลนด์” มาเปิดประวัติให้ได้ติดตามกัน
“กิลวี โซร์ ซิเกิร์ดส์สัน” เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ.1989 ที่เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ปัจจุบันมีอายุเพียง 28 ปี เจ้าตัวเป็นนักฟุตบอลชาวไอซ์แลนด์ ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสร “เอฟเวอร์ตัน” และทีมชาติไอซ์แลนด์ ในตำแหน่งกองกลาง จุดเริ่มต้นในเส้นทางสายลูกหนังของเขา มาจากการที่เจ้าตัวค้นพบว่าเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการเล่นฟุตบอล
โดยหนุ่ม “ซิเกิร์ดส์สัน” เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในเมืองบ้านเกิดของเขาอย่างทีม “FH Hafnarfjordur” ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ย้ายไปอยู่กับทีม “Breidablik” ทีมในลีกไอซ์แลนด์
“ซิเกิร์ดส์สัน” ถูกเรียกตัวไปทดสอบฝีเท้า แต่ไม่เป็นที่ประทับใจสักเท่าไหร่ จึงทำให้ไม่ได้เข้าร่วมทีม ซึ่งระหว่างที่ทดสอบฝีมือนั้น เจ้าตัวเคยทำหน้าที่เป็นเด็กเก็บบอลในกูดิสันปาร์คมาแล้วหนึ่งเกมด้วย หลังพลาดการเซ็นสัญญาครั้งแรก “ซิเกิร์ดส์สัน” ได้รับเชิญให้กลับไปทดสอบฝีเท้าอีกครั้ง และเกือบจะได้เซ็นสัญญากับ “Everton” แต่มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันในส่วนทีมงานโค้ชเยาวชนของ “Everton” พอดี ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปเมื่อทีมงานใหม่เข้ามา “ซิเกิร์ดส์สัน” พลาดโอกาสกลายเป็นผู้เล่นของทีมอีกครั้ง
4 ปีต่อมา Reading Football Club ได้ดึงตัวเขาเข้าอะคาเดมี่ โดย “ซิเกิร์ดส์สัน” เล่นอยู่ในทีมเยาวชนของ Reading อยู่ 3 ปี ก่อนจะถูกดึงขึ้นมาเล่นให้กับทีมสำรองในฤดูกาล 2007-2008 และได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับ Reading ถึง 5 ปี และเป็นตัวหลักของ The Royal ในฟุตบอลแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ รวมทั้งมีโอกาสได้ไปเล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์, สเปอร์ และกับ สวอนซี ที่เจ้าตัวไปเล่นให้ถึง 2 รอบ
นับจากวันแรกที่เข้าไปทดสอบฝีเท้ากับ “Everton” จากเด็กเก็บบอลที่โชคชะตาดูจะไม่เข้าข้าง แต่ท้ายที่สุดก็พยายามกลับมาสู่ถิ่นกูดิสันปาร์คอีกครั้ง แต่กลายเป็นผู้เล่นที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม