"ษา" อัพเดทอาการ "น้องเซย์เดย์" สุดปลื้มลูกสอบติดโรงเรียนดัง
เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรองที่ได้ดูแลลูกชายสุดเลิฟอย่าง "น้องเซย์เดย์" ที่ป่วยเป็นออทิสติกจนอาการดีขึ้นเป็นอย่างมาก แถมยังเรียนเก่งจนสามารถสอบติดโรงเรียนชื่อดังอีกต่างหาก สำหรับ "ษา วรรณษา ทองวิเศษ" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยเรื่องนี้ พร้อมทั้งอัพเดทผลงานว่า
มีละครเรื่อง "ดอกหญ้าในพายุ" ที่กำลังออนแอร์ และกำลังถ่ายเรื่อง "เจ้าสาวแก้ขัด" อยู่ ยังมีผลงานให้เห็นกันต่อเนื่อง แต่จะรับปีละ 1 เรื่อง เพราะมีเรียนป.โท และมีทำธุรกิจอีกหลายอย่าง ทั้งเปิดร้านขนมปัง และจะเปิดร้านทองกับเพื่อนๆ ปีหน้า และเป็นผู้จัดการฯ เกี่ยวกับรถแข่งด้วย ก็ทำหลายอย่าง แต่จะทำอะไรที่แตกต่าง ไม่ซ้ำกัน อย่างร้านทองที่จะเปิดเพราะมีครอบครัวของเพื่อนทำอยู่แล้ว และมองว่าช่วงนี้สามารถออมทองได้ บอกถ้าโดนโกงก็ไม่กลัวเรื่องที่จะเอาเรื่อง ซึ่งส่วนตัวได้ลงทุนลงแรงไปจากการเป็นดารามา 20 ปี ก็เหมือนเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเขาด้วย
ด้านงานละครที่รับน้อยลงก็ไม่เสียดายโอกาสในวงการ มองว่ามีน้องๆ หน้าใหม่เยอะ เห็นฝีมือแล้วเขาก็โอเค บางทียังต้องไปเรียนรู้กับเขาเลย เก็บมาปรับปรุงกับตัวเอง และอยากให้คลื่นลูกใหม่เข้ามา เราขอผันไปทำธุรกิจ และเรียนป.โทเกี่ยวกับ HR มา เป็นหลักสูตรปีเดียวจบ ก็ใกล้จบแล้วในเดือนกันยายนนี้ ยันไม่คิดเฟสตัวออกจากวงการ เพราะอยู่ได้ทุกวันนี้ทุกคนรู้จักในชื่อ "ษา วรรณษา ทองวิเศษ" วงการบันเทิงถือว่ามีบุญคุณมากกับเรา หลายคนหยิบยื่นโอกาสให้
ส่วนลูกชายอย่าง "น้องเซย์เดย์" ตอนนี้ก็เรียนชั้น ม.1 แล้ว ตอนแรกไปสอบโรงเรียนที่มีชื่อเสียง แต่โรงเรียนค่อนข้างเคี่ยวเรื่องข้อสอบ ปรากฏว่าสอบไม่ได้ เขาก็ร้องไห้ เลยไปสอบที่โรงเรียน "สารวิทยา" เพราะมีพี่ๆ เขาเรียนอยู่แล้ว น้องก็เลือกห้อง English Program เพราะเขาชอบคำนวณ และพูดภาษาอังกฤษเก่ง ซึ่งได้สอบข้อสอบผ่านไปแล้ว และลุ้นตอนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษอีกที ผลออกมาก็ผ่านเข้าไปเรียนเรียบร้อย ยิ้มปลื้มเรื่องการเรียนน้องมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยทำให้เสียใจ และเข้าใจว่าเป็นเด็กแบบนี้
สำหรับตอนนี้อาการน้องก็อยู่ในการควบคุมทั้งหมด ก็ปกติดี ทานยาตลอด และสมาธิดีขึ้น เป็นเด็กที่น่ารัก จะไม่มีอารมณ์ร้ายหรือรุนแรงใส่ ใจเย็นลงมากกว่าเดิมเยอะ และจะไปหาคุณหมอ 3 เดือนครั้ง ตอนนี้เรื่องสมาธิก็มีเยอะขึ้น พูดรู้เรื่องมากกว่าเดิม ก็ต้องดูอาการว่าคุณหมอจะให้ทานยาต่อหรือหยุด กับแพลนส่งน้องเรียนที่ต่างประเทศก็มี แต่การดูแลตัวเองก็ต้องให้น้องพร้อมก่อน ยังไม่ 100% ที่จะปล่อยให้ไปเรียนต่างประเทศขนาดนั้น