เปิดเส้นทางก่อนจะดังของ “ตุ้ย เกียรติกมล” กับผลงาน 12 ปีในวงการบันเทิง
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่มีความสามารถรอบด้านจริงๆ สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม “ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา” ที่มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานละคร พิธีกร รวมถึงงานอีกเว้นท์ต่างๆ อีกทั้งยังมีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ “ดาราเดลี่” จะขอพาไปย้อนวันวาน พร้อมเปิดเส้นทางในวงการบันเทิงของหนุ่ม “ตุ้ย” กัน
ชีวิตในวัยเด็ก พ่อแม่เลี้ยงดูแบบตามใจ แต่ก็ยังมีขอบเขต แต่ส่วนใหญ่อยู่ในการเลี้ยงดูของคุณแม่และคุณพ่อ โชคดีที่ยังคิดดี และไม่ได้ทำอะไรพลาดพลั้ง ถือว่าเป็นเด็กดื้อ แต่ว่ามีพ่อกับแม่คอยห้าม คอยดูแล พอเข้าสู่วัยรุ่นก็โดนควบคุมน้ำหนักพอสมควร แต่พอผ่านมาก็คิดได้ว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี ตอนวัยรุ่นค่อนข้างเกเร แต่ก็ไม่ถึงขั้นร้ายแรง แต่จะมีพ่อกับแม่ดูแล ก็โชคดีตรงนี้ ตอนเด็กๆ จะโดนแม่กับพ่อตีด้วยไม้เรียวเป็นประจำ แต่พอโตขึ้นแม่ก็เริ่มใช้เหตุผล แต่ก็ยังเถียงแม่ทั้งที่รู้ว่าเถียงยังไงก็ไม่ชนะ พออายุมากขึ้นก็เริ่มรู้แล้วว่าทำยังไงให้ครอบครัวมีความสุข คือฟังเยอะๆ พูดน้อยๆ
ความฝันตอนเด็กอยากเป็นทหาร อยากเป็นตำรวจ อยากเป็นคนในเครื่องแบบ พอโตมาถึงจุดที่สามารถจะไขว่คว้าได้ก็เริ่มไปสอบ ไปเรียน แต่ก็ไม่ได้ ทั้งนักเรียนนายร้อย ไปเรียนพิเศษ สอบก็ไม่ติด ก็เริ่มค้นหาตัวเองใหม่ ว่าชอบอะไร ก็เลยมาด้านร้องเพลง เริ่มไปประกวดในมหา'ลัย จนมาประกวดเวทีใหญ่สุดคือ เวที เอเอฟ ก็เลยคิดได้ว่าชอบอันนี้ ผมว่าเด็กทุกคนคงมีมุมลองผิดลองถูกว่าเราชอบอะไร ซึ่งความถนัดเรามีต่างกัน ก็ค่อยๆ ดูกันไปว่าตัวเองถนัดอะไร ชอบอะไร
ความคาดหวังจากการประกวดครั้งนั้น ไม่คาดหวังเพราะคิดว่าไปลองประกวดดู ทำให้เห็นที่เขาพูดๆ กันว่าทุกอย่างคนข้างบนเขาขีดไว้หมดแล้ว ว่าแต่ละคนจะให้เป็นอะไร จะได้เจออะไร ก็แค่ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดในแต่ละวัน ในแต่ละเดือน ในแต่ละปี อย่าเฝ้ารอวาสนา ต้องไขว่คว้าเอาบ้าง ให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจะได้อะไรในอนาคต หรือปัจจุบันเราจะได้ดีหรือร้าย ก็ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดแค่นั้นพอ
ผลงานที่แจ้งเกิด สำหรับผมก็คงเป็นการประกวดเอเอฟ ดังข้ามคืนเลย ส่วนตัวก็จะเขินๆ นิดนึงเวลามีกล้องมาสัมภาษณ์ ยังจำวันแรกได้ว่าแบบนี้เราเคยเห็นในทีวี ที่นักข่าวสัมภาษณ์นักแสดงในวงการบันเทิง วันหนึ่งเราโดนอย่างนี้แล้วเหรอ ก็โชคดีของเราที่เราเจอตัวอย่างก่อนเข้าวงการมาเยอะ เราก็จะไม่มีความคิดหรือการทำให้เราหลงตัวเอง ทำให้เราควบคุมตัวเองได้อยู่เรื่อยๆ
หลังจากได้รับตำแหน่งตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ก็ทำให้เราไม่ลืมกำพืดว่าเราเกิดจากที่ไหน ซึ่งก็เป็นปีที่ 12 แล้ว ยังไม่เคยคิดที่จะทิ้งนามสกุลเอเอฟ แฮปปี้ เพราะคนจะรู้จักเราในชื่อนี้ นอกจากเล่นละครหรือเล่นภาพยนตร์คนก็จะได้เห็นชื่อจริง ส่วนใหญ่ที่คนจำได้ก็จะเป็น “ตุ้ย เอเอฟ” เคยคิดว่าตัวเองจะดังถึงทุกวันนี้ ผมว่าแค่รักษาไว้ก็ยากแล้ว แต่ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เราก็คิดว่าเราจะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้ว่าทำยังไงให้เราคงสภาพการเป็นนักแสดงแบบนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ
ถามถึงไอดอลในวงการบันเทิง ถ้าเป็นนักร้องก็จะเป็นพี่ก้อง สหรัถ ซึ่งก็ได้เจอแล้ว ก็ไปขอถ่ายรูป ถ้าเป็นนักแสดงจะเป็นพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ คนนี้ก็ได้เจอตอนเข้าวงการใหม่ๆ ซึ่งก็แฮปปี้ ทำให้รู้เยอะขึ้นว่านักแสดงก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา รู้ว่าจะต้องใช้ชีวิตยังไงในวงการบันเทิง เราก็สามารถเป็นมนุษย์ปกติได้
12 ปีในวงการบันเทิงมีอะไรที่เราอยากทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำบ้าง ก็คงเป็นเรื่องบทบาทละครที่จะได้รับในอนาคต ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่ไม่เคยเล่นก็อยากจะเล่น เพราะยังมีอีกหลายบทเยอะแยะมาก แล้วแต่โอกาสที่ผู้ใหญ่จะมอบให้ แต่ยินดีรับทุกๆ บท บทบาทที่ได้รับก็จะมีผู้ใหญ่สแกนให้ ถ้าเป็นบทภาพยนตร์เราก็จะเอามาอ่านก่อนว่าโอเคมั้ย แต่ถ้าละครก็จะมีผู้ใหญ่ดูให้อยู่แล้ว
ขอบคุณแฟนๆ ที่คอยติดตาม ขอบคุณมากๆ ทั้งแฟนละคร แฟนเพลง ตอนนี้ก็น่าจะมีแฟนภาพยนตร์เติมขึ้นมา ขอบคุณมากมายครับ ตามไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน ขอบคุณมากครับ
