เปิดความรู้สึก “อาร์ม วรท” 2 ปีที่รอ “My Girl เวอร์ชั่นไทย” ออนแอร์
เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่รอออนแอร์นานสำหรับ “My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก” ที่ในเรื่องนี้ได้นักแสดงหนุ่มอย่าง “อาร์ม วรท มรรคดวงแก้ว” มาแสดง วันนี้ ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าตัวเขาได้เผยความรู้สึกให้ฟังว่า
สำหรับละครเรื่องนี้ต้องย้อนไปไกลเหมือนกัน สมัยเรียนปี 1 ตนเองได้เจอกับพี่ผู้จัดการพี่อนันดา ก็มีแคสต์มาก่อนบ้างแล้ว อย่าง “รักหมดใจนายแกล้งจุ๊บ” ครั้งนั้นจะเล่นเป็นเพื่อนของนางเอก หลังจากนั้นก็มีเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องนี้ ก็ได้เป็นบทนี้
ส่วนบทบาทหลังจากรู้ตัวก็ดีใจมากและหนักใจมาก เหมือนมีภูเขาอยู่ 2 เรื่อง เพราะเอาเองก็เคยดูในเวอร์ชั่นเกาหลีมาก่อนเหมือนกัน เขาทำออกมาได้ดีมากๆ แต่พอมาเป็นเวอร์ชั่นนี้ ทุกคนก็ต้องมีขอเปรียบเทียบ ทำให้เราเองกังวลเพราะเราเองก็ใหม่มาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นเป็นตัวหลัก
ในเรื่องของบทบาทจะเป็นผู้ชายที่คนอื่นมองว่าเจ้าชู้ จริงๆ แค่มั่นใจในตัวเองสูง ความคิดจะฝรั่ง บ้านมีฐานะ เป็นลูกคนรวย พ่อแม่ตามใจ แต่ไม่ถึงกับเสียคนขนาดนั้น แค่อยากทำอะไรทำ เหมือนเพลย์บอย และวันหนึ่งได้กลับมาเมืองไทย ได้เจอกับ “ลินิน” คือ “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” ก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนไหน ประทับใจ และทำให้เปลี่ยนตัวเองให้มีเป้าหมายในชีวิต
ด้านต้องปรับคาแรกเตอร์มากน้อยขนาดไหนนั้น ก็ตัวละครนี้เป็นตัวสร้างสีสัน ต้องปรับทุกอย่างให้มากขึ้น อย่างเวลามองใคร รู้สึกอะไร ต้องเล่นหูเล่นตามากขึ้น เรื่องของวิธีการพูด การแต่งตัว หลักๆ ที่ต้องปรับให้เยอะขึ้นจะมีประมาณนี้
ส่วนการร่วมงานกับ “พี่เป้-เอสเธอร์” ก็ทึ่งเหมือนกัน เพราะทั้งสองเก่งมากๆ “พี่เป้” เป็นกันเอง พยายามทำให้ตนรีแลกซ์ เวลาเล่นกับ “พี่เป้” เขาก็แนะนำ ส่วน “เอสเธอร์” เป็นคนตลกมากๆ อายุเท่ากันด้วย ก็ไม่คิดว่าเขาจะตลกได้ขนาดนี้ น่ารัก จะมีบางซีนที่ตนเองจะต้องเทค แต่เขาก็ไม่บ่น ถ่ายมานานแล้วเหมือนกัน 2 ปีแล้ว
กับเรื่องที่เพิ่งได้มาออนแอร์ ตนเองก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของช่อง ทางคิว บางทีก็อยากเห็นผลงานตัวเอง เพราะบางทีก็ไม่ได้มอนิเตอร์ และด้วยสไตล์การกับกำของพี่ผู้กำกับ เขามีฉายา เทคเดียว ก็ทำให้ต้องทำการบ้านหนัก 4 เท่าเลย เรียนรู้วิธีการทำงาน รู้เลยว่าชีวิตนี้ไม่มีโอกาสแก้ตัว ถ่ายเล่นแย่ก็จะเห็นการแสดงแย่ๆ แบบนั้น ก็ต้องพยายามทำการบ้าน 2 ปี มันก็นาน อยากให้ทุกคนได้ดู เพราะทุกคนก็ตั้งใจทำมากๆ แต่พอมันออนแอร์ ก็ดีใจแทนทุกๆ คน ถือว่าคุ้มค่ากับ 2 ปีที่รอคอย
ในเรื่องฟีดแบ็คก็ 2 ตอนแรกทะลุ 30 ล้านที่ประเทศจีน ตนเองก็ชอบ หายเหนื่อย พอรู้ว่าทะลุ 30 ล้านก็ประสบความสำเร็จจริงๆ ทำงานหนักมาก็หายเหนื่อย ส่วนอยากโกอินเตอร์ไหม ตอนนี้ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น ต้องดูฟีดแบ็คที่เหลือก่อน แต่ถ้ามีฟีดแบ็คดีก็จะมีแฟนมีตติ้ง ในเรื่องเวอร์ชั่นเกาหลีตนเองมีดูแต่ดูไม่หมด เพราะอยากดูสไตล์ ด้วยความไม่เก่งของตนเอง ก็ต้องดูว่าอะไรทำให้เขาเด่น เหตุผลอะไรที่เขาดังขนาดนี้ พอมาดูก็ได้รู้ว่าเขาเล่นมีเสน่ห์มากๆ เพราะการเล่นหูเล่นตา ก็จำตรงนั้นมา ถ้าดูเยอะมันจะกลายเป็นก๊อปปี้ไป ก็ดูพอเป็นแนวทาง และพอมาไทยต้องปรับใหม่หมดด้วยยุคสมัย