32 ปีที่รอคอย "แพท" เผย แม่แท้ๆ ติดต่อมาแล้ว

32 ปีที่รอคอย "แพท" เผย แม่แท้ๆ ติดต่อมาแล้ว

     หลังออกสื่อเปิดเผยถึงเรื่องราวของคุณพ่อผู้ให้กำเนิดและเผยถึงการตามหาคุณแม่ที่แท้จริงไปไม่นาน ล่าสุดคุณแม่สายสตรองอย่าง "แพท ณปภา ตันตระกูล" ก็สมหวังดั่งใจ เพราะ "แม่แอ๋ว" ได้ติดต่อกลับมาหาแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย "แพท" ได้เปิดใจกับ "ดาราเดลี่" เป็นที่แรกให้ฟังว่า 

     วินาทีที่คุณแม่ติดต่อกลับมา ก็รู้สึกตกใจ เพราะตนไม่รู้จักหน้า ไม่รู้จักเสียง ซึ่งตัวคุณแม่ก็แทบจะจำตนไม่ได้เหมือนกัน เนื่องจากหลังเลิกกับคุณพ่อไป คุณแม่ก็แต่งงานใหม่ และไม่ได้อยู่เมืองไทยเลย บินไปเยอรมัน ฮอลแลนด์ตลอด 

     จากนั้น "แพท" ให้เล่าฟังต่อว่า ก่อนหน้านี้คุณแม่ไม่รู้เลยว่าลูกตัวเองเป็นดารา แต่เพื่อนก็พยายามบอก ซึ่งคุณแม่ก็ไปเปิดดู แต่ยังรู้สึกว่าคนที่ดูเนี่ยไม่ใช่เรา เพราะจำไม่ได้ว่าโตมาแล้วหน้าตาเป็นยังไง จนล่าสุดที่ตนไปออกรายการ เพื่อนคุณแม่ก็บอกว่า ผู้ชายที่ไปออกรายการหน้าเหมือนแฟนเก่าที่เลิกกันไปเป็น 30 ปี ท่านเลยโทรมาหา โทรมาบอกว่าเป็นคุณแม่นะ ไม่ต้องห่วงสบายดี ตอนนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน และมีครอบครัวใหม่แล้ว ซึ่งทำให้ตนได้รู้ว่ามีน้องชายอีกหนึ่งคน เป็นลูกครึ่งห่างกันประมาณ 2 ปี แล้วน้องก็แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วเช่นกัน พร้อมทั้งย้ำว่า ตอนนี้คุณแม่แฮปปี้ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง 

    ส่วนโอกาสที่จะได้กลับมาเจอกัน "แพท" ก็กล่าวว่า คงต้องแล้วแต่คุณแม่เลย หากท่านพร้อมหรือสะดวกเมื่อไหร่ก็มาได้เสมอ หรือติดขัด อยากให้ช่วยเหลือก็โทรมาได้ตลอด ส่วนช่วงวันแม่ท่านก็คงไม่สะดวกมาเจอ เพราะไปต่างประเทศ แต่หากแม่ว่างก็สามารถบินมาหาได้ เพราะท่านจำบ้านได้อยู่แล้ว

    ถ่ายทอด "พลังความรัก" ระหว่าง "แม่-ลูก" ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง สำหรับแฟชั่นเซ็ต "Femme Vitality" กับการคว้าตัวคุณแม่สุดตรอง "แพท ณปภา ตันตระกูล" และลูกชายสุดที่รัก อย่าง "น้องเรสซิ่ง" มาขึ้นปก "นสพ.ดาราเดลี่" โดยฝีมือการลั่นชัตเตอร์ของช่างภาพมือหนึ่งอย่าง "จอร์จ ธาดา วาริช" ด้วยการผสมผสานแฟชั่นเข้าไว้กับเรื่องราวชีวิตของเธอ ที่ต้องต่อสู้ อดทน จนสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ เพื่อแม่และลูกมาได้

    ซึ่งนอกจาก "แพท" จะขอส่งมอบพลังความรักและความ "แกร่ง" ผ่านแฟชั่นหลากเซ็ต เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้แม่ๆ ทุกคนสู้เพื่อลูกแล้ว

    ในฐานะ "ลูกของแม่" นั้น “แพท” ก็ได้ฝากให้กำลังใจ พร้อมแนะแนวทางให้ลูกๆ มนุษย์เงินเดือนที่เสียสละทำงานหนักเพื่อครอบครัวจนไม่มีเวลาไปกราบเท้าคุณแม่ด้วยเช่นกัน

    เวลามันมีเสมอ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดสรรเวลายังไง พร้อมยกตัวอย่างให้ฟังต่อว่า อย่างของตนก็ไม่มีเวลา แต่ก็ยังมีเวลาดูแลแม่ แม้จะทำงานทุกวัน 7 วันเต็ม แต่สำหรับตนถือว่าโชคดีที่อยู่กับแม่ ไม่ได้อยู่ห่างกัน ส่วนบางคนที่ตัวอยู่กรุงเทพฯ แต่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดก็เข้าใจได้ เพราะจะลางานก็ลำบาก เดินทางก็ลำบาก ซึ่งคำว่า "เวลา" ที่ตนบอกไม่จำเป็นต้องไปหาอย่างเดียว เพียงแค่โทรหา ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัยใหม่มาก ถึงตัวอยู่ไกลก็สามารถเห็นหน้ากันเหมือนแทบไม่ได้ห่างกันเลย แค่ขึ้นอยู่กับว่าลูกๆ จะเลือกทำยังไงมากกว่า