"เพลง กวิตา" เปิดใจดราม่ารีบแต่งเพราะสามีรวย 

"เพลง กวิตา" เปิดใจดราม่ารีบแต่งเพราะสามีรวย 

         เจอดราม่าซะแล้วสำหรับอดีตนักแสดงช่องมากสีอย่าง "เพลง กวิตา จินดาวัฒน์" ที่เพิ่งแต่งงานกับสามีนักธุรกิจหนุ่มนอกวงการ "ณัฏฐภัทร สีบุญเรือง" ไป งานนี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลว่าสาเหตุที่รีบแต่งงานกันเป็นเพราะฝ่ายชายรวย เมื่อมีโอกาสเจอสาว “เพลง” เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย รวมไปถึงงานหมั้นและแต่งที่ผ่านมาด้วยเป็นยังไงบ้าง

        จริงๆ เพิ่งผ่านวันพิธีเช้าไปเมื่อวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม ก็เป็นบรรยากาศเล็กๆ แล้วก็เพื่อนที่สนิทมากๆ จริงๆ ก่อนหน้านี้เตรียมงานเครียดมาก แต่ว่าในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดี แล้วก็เสียน้ำตาเยอะมากในงาน เพราะว่าซึ้งมาก กับที่ญาติๆ แล้วก็เพื่อนอวยพร แล้วก็รู้สึกใจหายด้วย เพราะว่าวันนั้นก็มีการจดทะเบียนแล้วก็มีการส่งตัวเข้าหอ โดยเฉพาะคุณแม่นี่ดราม่ามาก เพราะว่าเหมือนเขาก็คงจะใจหาย เพลงเป็นลูกสาวคนโตนะคะ แล้วก็เหมือนในญาติที่อยู่ด้วยกัน เพลงก็เหมือนเป็นพี่โตสุดเลย ไม่คุ้นชินกับการแต่งออกไป แม่ก็บอกใจหายจังเลยปกติเคยรอลูกกลับบ้านทุกวัน เราก็ใจหายไปด้วย เขาก็จะชอบพูดว่าอย่าว่าแม่ อย่าบ่นแม่นะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ดูแลลูกแล้ว เราฟังก็ใจหาย แต่ก็พยายามบอกเขาว่าเพลงก็กลับบ้านเหมือนเดิมนะ ยังดูแลกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ก็พยายามปลอบใจแม่ รวมถึงตัวเองด้วย

          สำหรับงานที่จัดจริงๆ เรียกว่าแต่งเลยก็ได้ เพราะมันมีการรดน้ำ ทำพิธีไปแล้ว มันทั้งหมั้นและแต่งเลย แต่มันเป็นพิธีเช้า เพราะว่าฤกษ์ดีมันได้วันศุกร์ก็เลยตัดสินใจว่างั้นเราจัดวันศุกร์ตอนเช้าง่ายๆ เฉพาะครอบครัวญาติๆ แล้วเราไปเลี้ยงฉลองวันหนึ่ง เป็นวันเสาร์เพื่อที่จะสะดวกกับแขกที่มา

          ตอนนี้ก็คือเป็นภรรยา มีสามีแล้ว จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ย้ายออกมาแล้ว ก็คือทำพิธีส่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่คืนวันนั้นเลย ที่อยู่ก็ไม่ถึงกับเรือนหอหรอก พอดีว่ามีแพลนจะสร้างบ้านที่เป็นเรือนหอจริงๆ ในปีหน้า ตอนนี้ก็เหมือนกับว่าย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของแฟนชั่วคราว ประมาณ 1-2 ปี เพื่อรอที่จะสร้างบ้านจริงๆ ของเรา กับนามสกุลคือถ้าในทางเอกสารก็มีการติ๊กเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนเป็นนาง เพราะว่าทางคุณแฟนเขาเป็นคนจัดการติ๊กให้ เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าเปลี่ยนไม่เปลี่ยน ก็เลยน่าจะต้องไปทำเรื่องเร็วไปๆ นี้ แต่คิดว่าในวงการเราก็อาจจะยังไม่ได้ป่าวประกาศอะไรมาก ว่าเปลี่ยนแล้ว เพระว่ายังอยากเป็นคนเดิมอยู่ ด้านความรู้สึกหลังแต่งงานก็รู้สึกแปลกมาก แต่ว่าด้วยความที่คบกันมานาน 16 ปีเลยทีเดียว ก็เหมือนกับว่าเราค่อนข้างชินกับตัวเขา ครอบครัวเขา กับบ้านเขา ก็เลยไม่รู้สึกว่ามันไม่อบอุ่นอะไร เพราะเหมือนคนคุ้นเคยกัน แต่ว่ามันก็จะมีความแปลก ปกติเราเคยกลับบ้านตอนนี้เราก็ไม่ได้กลับบ้านแล้ว ก็รู้สึกเป็นห่วงที่บ้านมาก ฝากฝังกับน้องชายอย่างแรงเลย ว่าต้องดูแลพ่อแม่นะ ไปไหนต้องบอกแม่ด้วย ฝากเยอะมาก ทั้งที่จริงๆ แล้วบ้านก็ไม่ได้ห่างกันไกลเท่าไหร่หรอก แต่เหมือนเป็นอีกสเต็ปหนึ่งของชีวิตเรา เราก็รู้สึกใจหาย 

          แล้วก็แอบมีบางคนคอมเมนต์ในไอจีว่าสเป็คชอบแบบนี้เหรอ ชอบคนรวยๆ เหรอ จริงๆ เขาเป็นแค่คนที่บริหารในนั้น อ่านแล้วรู้สึกแย่มาก อยากจะบอกว่าช่วยดูนิดหนึ่งว่าเรามีแฮชแท็กว่า 16 ปีแอนด์มอร์ คือมันไม่ใช่ เราคบกันมาตั้งนานแล้ว มีการวางแผนมาก่อนหน้านี้เป็นปีไม่ใช่มาแต่งสายฟ้าแลบอะไร เคยแต่เห็นที่คนอื่นโดนคอมเมนต์เนอะ เราก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเกิดกับเรา เพราะว่าเราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีๆ มันก็ไม่น่าจะมีคนมาคอมเมนต์ทางลบแบบนี้ แล้วบางคนก็มาบอกว่าไม่เคยเห็นเปิดตัวเลย ท้องหรือเปล่า ท้องอะไรล่ะ เราก็แบบเล่นมุกกับเพื่อนๆ ว่านี่แค่อ้วน ไม่ได้ท้อง แต่ว่าตอนแรกก็รู้สึกแย่นะคะ แต่พอไปเรื่อยๆ แล้วมันก็เหมือนเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด มีคนที่ยินดีกับเราเยอะมากกว่านั้น

        ด้านแฟนหนุ่ม เราก็ให้เขาอ่านนะว่ามีคนคอมเมนต์อะไรมาบ้าง แต่เขาก็เฉยๆ และก็มองว่ามันตลกมากกว่า อย่าไปใส่ใจเลย

        ส่วนคนที่เข้าใจในความรักของเราผิด และมองไปอีกมุมหนึ่งนั้น จริงๆ อยากจะฝากให้ดูแฮชแท็กนิดหนึ่งเสิร์ชกูเกิ้ลสักนิดหนึ่งก็ได้ เพราะทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปจริงๆ มันไม่ใช่ยุคที่เราจะต้องมาจับคนรวยแล้ว เราทำมาหากินเองได้ และสิ่งที่เขามองมามันก็ไม่ใช่นิสัยของเราด้วย รวมถึงการที่เพลงแต่งงานครั้งนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเพลงจะต้องออกจากวงการ ออกไปให้สามีเลี้ยง แต่เพลงยังคงทำงานอยู่ ยังเป็นนักแสดง และรักอาชีพนี้มากๆ แต่เพลงก็เข้าใจได้นะคะว่ามันอาจจะเป็นเพราะเพลงไม่ได้ต่อสัญญากับช่อง 7 คนก็เลยตีความไปเอง ว่าเพลงจะออกจากวงการเพื่อไปเกาะสามี แต่ยังไงก็ยืนยันค่ะว่าไม่ใช่ เพลงยังคงเป็นเพลงเหมือนเดิม และก็จะช่วยกันกับสามีสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวของเรา

        ส่วนคนที่เข้าใจผิด ส่วนใหญ่เพลงเห็นจากที่เพื่อนส่งมาให้มากกว่า ก็เลยไม่ได้มีการตอบกลับอะไร แต่เอาจริงๆ นะ เพลงมองว่าเราคงไม่ต้องไปหรอก เพราะความจริงมันก็บอกทุกอย่างแล้ว