"คาริสา" ชี้แจงหลังถูกโยงเป็นคนที่ "แก้มบุ๋ม" ต่อว่า เพราะมาสนิท "ขุน ชานนท์"
ออกโรงเคลียร์สำหรับสาว "คารีสา สปริงเก็ตต์" หลังมีคนโยง "แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย" โพสต์ข้อความต่อว่าเป็นเพราะตนไปสนิทกับ "ขุน ชานนท์ อักขระชาตะ" อดีตหวานใจ งานนี้เจ้าตัวเลยเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า
จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องของหนู หนูก็ไม่รู้ว่าจะสรุปประเด็นให้พี่ๆ เข้าใจได้ว่ายังไง หนูก็รู้ประมานหนึ่งแหละ รู้ในส่วนของหนู แต่คนที่จะพูดได้ดีที่สุดคงเป็น "พี่ขุน" กับ "พี่แก้มบุ๋ม" แล้วเรื่องรักของคู่นี้เกิดขึ้นในกองถ่าย "คลับฟรายเดย์" ที่มีหนูอยู่ด้วย แต่ตอนแรกคนก็ไม่ได้โยงหรอก ไปโยงเพราะว่าหนูอะมีรูปคู่กับ "พี่ขุน" แต่จะเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่ที่หนูเข้าวงการมาก็ยังไม่เคยมีละครเรื่องไหนที่ไม่ได้เล่นด้วยกันเลย มันเลยต้องเจอกันอยู่ดี ถ้าจะพูดตัดประเด็นไปเลยคือหนูก็มีคนที่คุยอยู่บ้างเพราะฉะนั้น "พี่ขุน" อะตัดไปได้เลยว่าหนูจะไปแทรกกลางกับเขา หรือหนูจะไปทำให้เขามีปัญหา ไม่เกี่ยวเลยค่ะ หนูว่าเขาแค่คุยกันไม่เข้าใจเลยเกิดอารมณ์แล้วมีการแสดงออกผ่านช่องทางต่างๆ ที่มีคนมากมายเข้ามาเห็นและมีคนมากมายที่ไม่รู้เขาเลยโยง และเขียนชื่อเราใต้นั้นไป
ส่วนซีเรียสไหมหลายคนก็โยงว่าเราไปแล้ว เจ้าตัวก็บอกต่อว่าไม่ซีเรียสเนาะ เพราะจริงๆ แล้วอย่างที่พูดเวลามีข่าวตู๊มตาม หนูก็เคยเจอมาแล้วเดอะเฟสอะสี่ห้าร้อยคอมเมนต์ยังไม่เป็นไรเลย
ด้านแฟนๆ คนรู้จักก็มีคนเข้ามาถามเยอะมากเลย ตอนแรกคือหนูก็ไม่รู้แต่มีคนเข้ามาถามแบบนี้ และมีทวิตเตอร์ที่แท็กมาถึงหนู หนูก็เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้นเลยเข้าไปอ่าน แต่ประเด็นเก่าอะเหมือน "พี่แก้มบุ๋ม" จะขายแป้งก็เลยมีคนมองว่าดาราหน้าร้ายอะเป็นหนูรึเปล่า แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ประเด็นนี้เราก็ไม่รู้ว่าต้องอุดหนุนอะไรรึเปล่า
ส่วนที่กลัวไหมว่าเขาอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นเรารึเปล่า เจ้าตัวก็บอกว่าหนูกับ "พี่แก้มบุ๋ม" ค่อนข้างสนิทกับแบบพี่น้องน่ารักในกอง หนูก็เลยคิดว่าเข้าใจผิดเป็นเรื่องยาก และเวลาเกิดความเข้าใจผิดกันแต่ละคู่อะ หนูก็ค่อนข้างเป็นคนที่แมนพอที่คนจะกล้าเข้ามาคุย เพราะฉะนั้นหนูไม่ได้เป็นผู้หญิงที่มีเรื่องแล้วแบบซุบซิบไม่กล้าเข้ามาคุย หนูเป็นคนแบบคุยได้
ละครเรื่องแรกของหนูก็ "พี่ขุน" อยู่แล้วไง หนูก็พี่น้องอยู่แล้วอะใช่ แต่แค่ขยายความว่าจะคิดกันไปไกลทำไมมันต้องมีรูปด้วยกันแหละ เพราะละครเรื่องเเรกก็เขา สองก็เขาสามก็เขาสี่ก็เขา และคือหนูกับเขาเวลาได้บทมาก็ค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวก็จะมีคนที่พูดกันไปต่างๆ นานา
หลังเกิดเรื่องก็ไม่ได้คุยกัน "พอตอนจีบสาวอะอาจจะมีบ้าง แต่ว่าพอมันเป็นเรื่องปัญหาอะ หนูว่าพวกพี่ก็รู้นะว่าอะไรที่มันใช่หรือไม่ใช้ ถ้าใช่มันก็คุยเอง ถ้าไม่ใช่มันก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างที่หนูบอกไง ว่าถ้าคนนั้นรู้ว่าเป็นเรื่องจริงเป็นเรืองที่ใช่จะเกิดการคุยกัน แต่ถ้าอะไรที่รู้อยู่แล้วไม่ต้องคุยหรอกค่ะ
กับเขาเคยเล่าให้ฟังไหมว่าทะเลาะหรือมีปัญหาอะไรกัน "หนูจะบอกว่าสำหรับหนูนะ ถ้าเรามีความรักถ้าเขาอยากถนอมความรักนั้นจริงๆ มันไม่ค่อยมีปรึกษาหรอกพี่ เพราะมันจะมีความคิดที่สามเพราะว่าตอนที่เราอยู่บ้านด้วยกันเราไม่เคยปรึกษาใครไง เพราะฉะนั้นเวลาเรามีปัญหาอะไรเราก็ต้องเคลียร์กันเอง เพื่อนหรือพ่อแม่พี่น้อง ถ้าเป็นคนที่ดีจริงๆ เขามีหน้าที่แค่ให้กำลังใจ ซัพพอร์ทไม่ทิ้งเขา แต่ไม่ได้มีหน้าที่ไปปั่นหรือไปให้ความคิดเห็นอะไรเขา มันเป็นความรักของเขา ภายนอกเขาจะเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่เวลาที่เขาอยู่ด้วยกันเขาอาจจะเเฮปปี้ก็ได้ ไม่ใช่ไปบอกเฮ้ย ดูไม่เข้ากันนะเขาอยู่ด้วยกันอาจจะแฮปปี้ก็ได้"
ย้ำชัดไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่าง ถ้าอะไรที่มันเป็นเรื่องจริงวิธีแก้ก็คือเราก็ต้องเข้าไปคุยกับสองคนนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของหนูอีก หนูก็ไม่ต้องเข้าไปคุย คือสองคนนี้เลิกกันแล้วมีอักษรย่อ ครส. ที่ทุกคนย่อว่าเป็น คารีสา แล้ววันนี้หนูเลยต้องมานั่งตอบคำถามที่ทุกวันนี้หนูไม่ได้อยู่บ้านเขา ด้านคนของเรา มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องถามที่หนูมาตอบวันนี้เพราะหนูเข้าใจว่าคนทางบ้านรอเรามาตอบอะไรสักนิดหนึ่ง ซึ่งเราก็มาตอบ