“หยก” เผยรัก “รุต” ลงตัว รับคุณแม่อยากอุ้มหลาน
ทำเอาเพื่อนๆ เข้ามาแซวกันซะยกใหญ่ หลังสาว “หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์” ลงรูปคู่หวานใจนักธุรกิจหนุ่ม “หยก ธัญยกันต์ หลังซุ่มปลูกต้นรักมาร่วมปี ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า
สำหรับที่เปิดตัวลงรูปคู่ จริงๆ เคยลงไปนานแล้วตั้งแต่วันเกิด มารูปคู่รูปนี้คือรูปครบรอบพอดี มีเพื่อนๆ แซวเพราะเราไม่ค่อยลงรูปคู่เท่าไหร่
ส่วนที่รู้จักกันได้ยังไง ก็จริงๆ เป็นเพื่อนของเพื่อนมาแนะนำให้รู้จักกัน คบกันมาสักพักแล้วเพิ่งจะกินข้าวครบรอบกันไป คนนี้ถูกใจตรงที่เขาเป็นคนตรงๆ เป็นผู้ชายจริงๆ แล้วเราเป็นคนที่ชอบผู้ชายที่นิสัยผู้ชายไม่ชอบผู้ชายนิสัยผู้หญิง แล้วเขาเป็นคนชอบก็ชอบไม่ชอบก็บอกไม่อ้อมค้อม
ต้องปรับจูนอะไรไหม จริงๆ คนเราต้องปรับทุกวัน เพราะวันหนึ่งไม่รู้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง บางทีคนอยู่ด้วยกันอาจจะมีหงุดหงิดใส่กันบ้าง เราก็ต้องปรับกันทุกวัน แต่ถามว่าทะเลาะกันไหม ก็น้อยมากมีอะไรก็จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า
สำหรับวันครบรอบ 1 ปี ก็ไม่มีของขวัญพิเศษอะไรแค่ทานข้าวเฉยๆ ตัวเขาเองก็เป็นคนแมนๆ ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไรมาก ถ้าซื้อของให้ก็ยื่นให้เลย
พร้อมบอกเหตุที่ไม่ค่อยลงรูปคู่ เพราะเขาเขินส่วนหนึ่งด้วย อีกอย่างเขาไม่ได้อยู่ในวงการ เขาก็ทำงานของเขา เราไม่อยากให้งานของเราไปมีผลต่องานของเขา ไม่อยากให้เขารู้สึกอึดอัด พอลงรูปไปเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็เขินเวลาคนเข้ามาแซว เราเข้าใจ เพราะคนนอกวงการเขาคงยังไม่ชินคนมาคอมเมนต์จับตามอง เวลาคนแซวเราก็เฉยๆ เราเลยไม่ค่อยถ่ายรูปคู่หรือเปิดตัวมากขนาดนั้น กับเขาอึดอัดไหม เราว่าคงไม่ แต่อาจจะยังไม่ชินมากกว่า เราเองก็ไม่อยากเปิดมากขนาดนั้น เวลาโดนสัมภาษณ์เรื่องความรัก เวลารักกันดีก็แฮปปี้ แต่เวลามีปัญหากันก็ต้องมาพูดเรื่องของตัวเองเหมือนเป็นการตอกย้ำ รอบนี้เลยมีสเปซให้ตัวเองในเรื่องของความรัก ด้วยบทเรียนความรักครั้งก่อนด้วย เลยไม่ค่อยโฉ่งฉ่าง
1 ปีที่ผ่านมาลงตัวไหม สำหรับเราว่าลงตัวดี ศึกษาไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง แต่วันนี้มีความสุขดี เรื่องอนาคตต้องดูไปก่อน เพิ่งจะครบปียังไม่มีอะไรแน่นอน เรื่องสร้างครอบครัวคงอีกสักพัก เวลามีแฟนก็ไม่ได้อยากเลิก ยิ่งเราเป็นผู้หญิงก็อยากให้เป็นคนสุดท้ายตลอด แต่สุดท้ายถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร
ด้านครอบครัวเราอยากให้แต่งงานหรือยัง ด้วยอายุเราคุณแม่ก็เป็นห่วง แต่บอกเขาว่าไม่ต้องซีเรียส หลายคนแต่งยังเลิกกันได้เลย เราอยู่ยังไงให้มีความสุขทุกวันดีกว่า อย่าคิดว่าการแต่งงานคือคำตอบสุดท้ายของชีวิต เราสองคนมีโอกาสได้เจอครอบครัวของกันแล้ว แต่ธรรมดาผู้หญิงลูกคนโตคุณแม่ก็อยากให้เป็นฝั่งเป็นฝา ด้วยความที่เราอายุ 31 แล้ว มีแต่คนถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับคนสองคนไม่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว
แสดงว่าคุณแม่อยากอุ้มหลาน มันเป็นเรื่องปกติ ถามว่ากดดันไหม มันเบื่อ การที่ต้องตอบว่าไม่รู้ เป็นคำถามที่เราตอบไม่ได้ เพราะเราเพิ่งเริ่มคบกัน แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ๆ ถ้าเป็นเนื้อคู่กันไม่หนีไปไหนแน่นอน เรารักใครคุณแม่ก็รักด้วย ถ้าวันหนึ่งเราต้องแยกย้ายกันจริงๆ ก็มีคนใหม่ไม่ต้องคิดอะไรมาก