เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ไบร์ท วิชเวช” มีวันนี้ได้เพราะทำในสิ่งที่รัก
แจ้งเกิดและมีผลงานออกมาให้ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับนักร้อง นักแสดงหนุ่ม “ไบร์ท วิชเวช เอื้ออำพล” หรือที่เรารู้จักในนาม “ไบร์ท เอเอฟ9” ล่าสุดเพิ่งจะผ่านพ้นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสำคัญที่เป็นการรวมตัวของเหล่าศิลปิน Academy Fantasia รุ่นที่ 9 ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในรอบ 6 ปี วันนี้ “ดาราเดลี่” มีโอกาสได้เจอหนุ่ม “ไบร์ท” ก็จะขอพาไปย้อนเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของหนุ่ม “ไบร์ท” กัน
ชีวิตในวัยเด็กจริงๆ ครอบครัวเป็นครอบครัวที่สนุกสนาน บ้านก็หลังเล็กๆอยู่ด้วยกัน พ่อแม่หลังจากที่ทำงานกันเสร็จจะมานอนดูทีวีด้วยกัน อยู่ด้วยกันก็อบอุ่นดี ตอนเด็กๆ ก็มีเพื่อนทำกิจกรรมด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเล่นเกม (หัวเราะ) จะเป็นเด็กติดเกมเหมือนเด็กทั่วๆ ไป
ความฝันในวัยเด็ก เพิ่งรู้ตัวว่าชอบร้องเพลง แต่ยังไม่เข้าใจความฝันตอนนั้นคืออะไร ก็ร้องเพลงทั่วไป พอเข้าช่วงมัธยมเราชอบในสิ่งที่เราทำอยู่ก็คือร้องเพลงมีวงดนตรีของโรงเรียนก็ไปประกวดตามโรงเรียนต่างๆ ร้องเดี่ยวบ้าง ร้องเป็นวงบ้าง คือเราไม่ฝันว่าจะเป็นนักร้อง ณ ตอนนั้น ถามว่าอยากเป็นไหม อยากเป็นนะ
แต่โอกาสที่เข้ามาท่าจะยาก แล้วช่วงนั้นก็รายการมีเยอะมากเราก็ไปลองประกวดดูหมดเลย อยากทำในสิ่งที่ชอบ ปรากฏเราก็ติดขึ้นมา ก็จนมาถึงทุกวันนี้เลย (ยิ้ม) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่งวงการบันเทิง ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของชีวิต หลังจากนั้นก็รู้ตัวเองว่าชอบร้องเพลง
ผลงานชิ้นแรกในวงการบันเทิงก็คือ ซิงเกิ้ลสำหรับนักล่าฝันทั้ง 12 คน เพราะแต่ละคนจะมีซิงเกิ้ลประจำตัว เราก็ได้มี 1เพลง ตอนนั้นพอได้ปุ๊ปเราก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จ 1 ขั้นแล้ว ซึ่งเป็นความฝันของเราที่อยากมีเพลงของตัวเอง ต่อจากนั้นก็ได้ทำอะไรในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานละคร ละครเวที พิธีกร หรือแม้แต่การแสดงเราก็ลองทำมาหมด ก็ถือว่าเอเอฟให้ประสบการณ์กับเราในทุกๆอย่าง
ผลงานที่ประทับใจที่สุดคือผลงานเพลงใหม่ล่าสุด “เธอคือสุดท้าย” เพราะเป็นสิ่งที่เราทำเองมาจากความสามารถล้วนๆ ตอนที่เราอยู่ในเอเอฟก็มีคนแต่งเพลงให้ โปรโมทให้ พอออกมาทำเองก็ต้องคิดผ่านกระบวนการทั้งหมด ซึ่งเป็นประสบการณ์ของจริงที่เราทำพอออกมาสำเร็จเราก็ภูมิใจ เราก็ไม่คาดคิดว่าชีวิตของเราจะมาถึงจุดนี้ เราแค่ทำตามในสิ่งที่เรารักมาตั้งแต่เด็กๆ จนเจอก็เจอลู่ทางมาเรื่อยๆ ก็ได้เข้ามาในวงการบันเทิงก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ซึ่งเราก็รู้แล้วว่าอะไรคือจุดหมาย อะไรคือสิ่งที่เราต้องการ นั่นก็คือการเป็นนักร้อง ก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญาดีกว่า ออกมาทำกับเพื่อนๆ อยากมีวงตามความฝันในวัยเด็ก
ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจก็คือพี่ “ปั๊ป โปเตโต้” เพราะเราชอบพี่เขา Performance บนเวที เรารู้สึกว่าพี่เขาทำไมเท่จัง แล้วตอนนั้นที่เขามาเล่นคอนเสิร์ตที่โรงเรียนครั้งนึง คือดีใจมาก รู้สึกพี่เขาเท่มาก ก็เลยหยิบพี่เขามาเป็นแบบอย่าง แต่พอโตขึ้นเราก็หาแรงบันดาลใจอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ไปขอเขาถ่ายรูปด้วย ตอนนี้รูปก็ยังอยู่
วิธีรับมือกับกระแสข่าว แรกๆ ก็คิดมากแต่เราพยายามคิดว่า ทุกวันนี้เราชินแล้ว จริงๆ อย่าไปใส่ใจเลย เรารู้ตัวเราว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังทำอะไรที่ดีหรือไม่ดี ถ้าใครวิจารณ์มาเราก็รับฟังไว้ ซึ่งทุกวันนี้คนจะพิมพ์อะไรก็ได้ ไม่ได้นึก หรือกลั่นกรองอะไร ว่าทำร้ายจิตใจคนๆ หนึ่ง เราก็เลยรับแต่สิ่งดีๆ
ฝากผลงานวง 2nd Hand Man ด้วย ซิงเกิ้ลต่อไปใกล้จะคลอดแล้ว ทำเดโม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผลงานซีรีส์ก็เพิ่งถ่ายจบไป กับ Oh my Ghost ฉบับไทย เอาของทางเกาหลีมารีเมคอีกทีนึง ก็ได้ร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงเก่งๆ มากมายเลยสุดท้ายฝากผลงาน ขอบคุณแฟนๆ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาสุดยอดมาก อาจจะมีหายๆไปบ้างตามกาลเวลา คนที่อยู่มา 6 ปีนี้ สุดยอดมากจริงๆ ขอบคุณที่คอยสนับสนุน และซัพพอร์ตมาโดยตลอด ทุกวันนี้ก็เหมือนเป็นครอบครัวเป็นพี่น้อง ก็ติดตามไปเรื่อยๆ นะครับ จะตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุด