เรื่องย่อละคร "ประกาศิตกามเทพ"
บทประพันธ์โดย รจเรข
บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
เหม บุญญาฉัตรพงษ์ (ตู่ นพพล โกมารชุน) อัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจผลิตรองเท้าบริษัท เหมทอง จำกัด ภายใต้แบรนด์ดัง "มนตรา" มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมวัต(เอฟ-ธัญนพ ตระกูลโชคดี) จึงหวังจะมอบกิจการทุกอย่างให้สืบทอด แต่เหมวัตกลับไปรักใคร่ชอบพอกับอุษา(จุ๊กกู้-สลิตา กลิ่นจันทร์) ที่เป็นเพียงลูกกำพร้าที่ยากจน คุณเหมกีดกันทุกวิถีทางจนเหมวัตต้องพาอุษาหนีหายไป คุณเหมโกรธมากถึงขั้นตัดขาดเหมวัตจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยไม่คิดตามหา และคิดจะยกมรดกพร้อมกิจการทั้งหมดให้แก่ลูกบุญธรรมที่ขอมาเลี้ยงก่อนเหมวัตเกิด 3 คน นั่นคือประกิต(เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ) หรือ เสี่ยหนึ่ง ต่อมาแต่งงานกับผกา(ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ) มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ผาณิตา หรือน้ำตาล (น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์) ปราการ(แมน-ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) หรือ เสี่ยสอง ต่อมาแต่งงานกับอรทัย (เสียชีวิต) มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ลาวัลย์ (แก๊ป-ชนกสุดา รักษนาเวศ) ทัศนัย(เอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หรือ เสี่ยสาม ต่อมาแต่งงานกับสมร(เปิ้ล-ชไมพร สิทธิวรนันท์) มีลูกชาย 1 คน ชื่อ ทศนาถ (ณัฐ-ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง) ทั้งสามครอบครัวต่างแก่งแย่งแข่งขันเพื่อช่วงชิงทรัพย์สมบัติของเหม แต่เหมก็เขี้ยวลากดินพอที่จะไม่ยกมรดกให้กับลูกบุญธรรมง่ายๆ ส่วน มนตรา(คาร่า พลสิทธิ์) ภรรยาของเหมก็มีอาการเลอะเลือนหลงๆลืมๆเพราะเสียใจที่เหมวัตหนีหายไป
เหมวัตกับอุษาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างยากลำบากในชุมชนแออัด ในวันที่อุษาคลอดลูก เหมวัตรู้ข่าวด้วยความดีใจรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน แต่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตก่อนจะได้พบหน้าลูกชาย ส่วนอุษาเลือดออกมากจนช็อกและเสียชีวิต ทิ้งลูกน้อยไว้กับ ชาญ(เมฆ-วินัย ไกรบุตร) หนุ่มพิการข้างบ้านที่นับถือกันเหมือนพี่น้อง ชาญตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่า "เหมันต์" (เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์)
ชาญเคยมีชีวิตที่รุ่งโรจน์เป็นนักมวยอาชีพที่ผ่านสังเวียนชนะมาแล้วเกือบทุกเวที แต่โชคชะตาพลิกผันเพราะโดนคนเมาชนแล้วหนีจนพิการนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต แต่ชาญก็เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมจำนนกับอุปสรรค เขาฝึกซ่อมรองเท้ากับช่างฝีมือดีจนสามารถนำมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตได้ แถมยังเป็นคนมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปถึงคนในชุมชนสลัมจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ความดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นของชาญกลายเป็นต้นแบบที่ดีงามให้กับเหมันต์ ลูกชายต่างสายเลือดที่ชาญรักสุดหัวใจ !! เหมันต์เป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง เอาเวลาหลังเลิกเรียนไปรับจ้างทำงานสารพัด ทำให้เขาได้รับความรู้มากมายจากวิชาชีพเหล่านั้นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหมันต์อยากเรียนให้จบมหาวิทยาลัยเพื่อออกมาเป็นนักกิจกรรมบำบัด แต่ความฝันนั้นต้องสะดุดลงเมื่อชาญรับเด็กทารกที่ถูกแม่ใจร้ายทิ้งไว้หน้าบ้านมาอุปการะ เหมันต์เกิดความสงสารจึงเต็มใจเลี้ยงเด็กคนนี้เสมือนน้องชายร่วมสายโลหิต และช่วยพ่อตั้งชื่อว่า "หริทธ์" (อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์)เหมันต์เรียนจบม.ปลาย ก็เสียสละไม่เรียนต่อ ออกไปเป็นวินมอเตอร์ไซด์ ต่อมาถูกชักชวนให้ไปทำงานที่บริษัทรับจ้างส่งของทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังเลิกงานเหมันต์ก็ยังไปรับจ๊อบอีกหลายอย่างทั้งรับจ้างเก็บเงินค่าจอดรถที่ตลาดนัด , เป็นเด็กเสิร์ฟในคาราโอเกะ , ล้างเล้าหมู และอีกมากมาย เหมันต์ไม่เคยเกี่ยงงาน ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้พ่อได้กินอิ่มนอนหลับ และน้องชายได้เรียนจบปริญญาตรี แต่หริทธ์กลับเป็นเด็กไม่รักเรียน ชอบต่อยตี และหาเรื่องมาให้เหมันต์ปวดหัวอยู่บ่อยๆ
วันหนึ่ง เหมันต์ไปช่วยพ่อซ่อมรองเท้าและได้พบกับผาณิตา หรือน้ำตาล หญิงสาวที่จะนำพาให้เขาได้ไปพบกับครอบครัวที่แท้จริง น้ำตาล(ลูกเสี่ยหนึ่ง)หกล้มส้นรองเท้าพลิก เหมันต์จึงซ่อมให้ด้วยวิธีเย็บมือ และด้วยเทคนิคการเย็บรองเท้าที่หาคนทำได้น้อยมากนี้เอง ทำให้เหมต้องการตัวเหมันต์มาทำงานให้บริษัทเหมทอง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออยากให้เหมันต์ซ่อมรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมเก็บไว้เสมือนเป็นตัวแทนของลูกชายที่หายสาบสูญไป เหมจึงให้น้ำตาลไปชักชวนเหมันต์มาทำงาน แต่เพราะทศนาถไปก่อเรื่องทำร้ายชาญและหริทธ์ ทำให้สองครอบครัวเกิดความบางหมางอย่างรุนแรง เหมันต์ต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อชาญป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ต้องรอคิวบริจาคไต หนำซ้ำหริทธ์ยัง ก่อเรื่องไปช่วยลาวัลย์จากแก๊งขนของหนีภาษี เป็นเหตุให้สินค้าที่ลักลอบมาโดนตำรวจยึดไปหมด มิตร(เอ-พศิน เรื่องวุฒิ)หัวหน้าแก๊ง โกรธแค้นหริทธ์เลยไล่ล่าหริทธ์ถึงบ้าน และขู่จะเอาชีวิตถ้าหริทธ์ไม่ชดใช้เงินเหมันต์ยอมเซ็นชื่อเป็นลูกหนี้และรับปากจะหาเงินมาคืนให้ ถ้าเหมันต์เบี้ยว หริทธ์จะกลายเป็นศพทันที เมื่อหัวหน้าแก๊งไปแล้ว เหมันต์เจอลาวัลย์หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ลาวัลย์ได้เห็นความเสียสละของเหมันต์จึงหลงรักเหมันต์จับใจ ขณะที่หริทธ์ก็แอบชอบลาวัลย์เช่นกัน
น้ำตาลเมื่อรู้ว่าเหมันต์ติดหนี้นักเลง จึงยื่นข้อเสนอ ใช้หนี้ให้ แต่เหมันต์ปฏิเสธเพราะไม่ชอบน้ำตาลและครอบครัวที่ชอบทำตัวเหนือกฎหมายและใช้เงินฟาดหัวคนอื่น น้ำตาลเหม็นขี้หน้าความเป็นคนโลกสวยของเหมันต์จึงเลิกง้อ โชคชะตาทำให้เหมันต์ได้พบกับน้ำตาลอีกหลายครั้ง ยิ่งพบก็ยิ่งทำให้น้ำตาลได้สัมผัสกับความเป็นคนดีมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่นของเหมันต์ ซึ่งตรงกันข้ามกับทศนาถที่น้ำตาลแอบหลงรักอยู่ ส่วนเหมันต์ก็เริ่มมองเห็นว่าท่าทางที่เย็นชาและนิสัยแล้งน้ำใจของน้ำตาลเป็นเพียงภาพมายาที่ฉาบไว้ แท้จริงน้ำตาลก็เป็นคนจิตใจดี แต่ถูกอบรมมาอย่างผิดๆ เหมันต์จึงสงสารอยากช่วยเหลือน้ำตาล
ในงานเลี้ยงอายุครบหกรอบของคุณเหม น้ำตาลได้ขอให้เหมันต์มาช่วยงานฝ่ายจัดสถานที่ซึ่งเหมันต์ทำได้ดีมาก ที่นี่เหมันต์ได้พบกับคุณเหมเป็นครั้งแรก คุณเหมรู้สึกถูกชะตาเหมันต์ในทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันดีนัก ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน นั่นคือ หริทธ์ได้มาร่วมงานกับแก๊งเพื่อนของลาวัลย์ เหมันต์ไม่รู้ว่าหริทธ์ปกปิดฐานะจึงทักทายหริทธ์ ทำให้เพื่อนไฮโซของลาวัลย์ดูถูกหริทธ์จนอับอายออกจากงานไป เหมันต์ต้องรีบตามไปปลอบน้องชาย คุณเหมสนใจประวัติของเหมันต์มาก ขอให้น้ำตาลตามเหมันต์มาพบ แต่ชาญเกิดป่วยหนัก เหมันต์จึงพลาดนัด จนกระทั่งคุณเหมรอไม่ไหวขอให้น้ำตาลพาไปหาเหมันต์ที่บ้าน และได้เห็นรูปของแม่เหมันต์ คุณเหมจำได้ว่าเป็นเมียจนๆของเหมวัต ถึงกับช็อก คุณเหมรีบกลับทันทีโดยอ้างกับน้ำตาลว่าไม่สบายกะทันหัน หลังจากนั้นคุณเหมก็หาทางคุยกับชาญ ตอนแรกชาญยืนยันว่าเหมันต์เป็นลูกตน แต่เมื่อรู้ตัวว่าโรคไตที่เป็นอยู่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้เหมฟัง และมอบกำไลข้อเท้าของเหมวัตคืนให้กับเหม
เหมเห็นกำไลซึ่งตนเคยซื้อให้เหมวัตตอนเป็นเด็ก จึงเชื่อว่าเหมันต์คือลูกชายของเหมวัตจริงๆ ขณะเดียวกัน เสี่ยสองกับเสี่ยสามก็มีปากเสียงกันรุนแรงเรื่องผลประโยชน์ในบริษัท ส่วนเสี่ยหนึ่งก็ถูกภรรยาครอบงำทุกอย่างจนเบื่อหน่าย แอบไปมีเมียน้อย น้ำตาลต้องช่วยปกปิดเพื่อไม่ให้ผกาและเหมรู้ ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวทำให้คุณเหมตัดสินใจจะรับเอาเหมันต์กลับเข้ามาในตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ แต่เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมันต์ คุณเหมจึงขอให้กมล(อ๋อง-พัฒนะ พันธุ์เทวะ)เก็บเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์เป็นความลับ ที่สำคัญคุณเหมต้องการจะทดสอบเหมันต์ว่าเป็นคนดี คู่ควรกับการเป็นทายาทของบุญญาฉัตรพงษ์หรือไม่ แผนการทดสอบเริ่มขึ้น โดยมีน้ำตาลเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับทนายกมล โดยสร้างสถานการณ์คับขันต่างๆเพื่อให้เหมันต์แก้ปัญหา ขณะเดียวกันคุณเหมก็พยายามเสนอความช่วยเหลือมากมายให้เหมันต์ ซึ่งเหมันต์ก็ไม่ยอมรับข้อเสนอง่ายๆ จนในที่สุด หริทธ์เกิดอยากเข้าไปฝึกงานในบริษัทของคุณเหม เหมันต์จึงต้องยอมเข้าไปทำงานกับคุณเหม เพื่อตามไปดูแลหริทธ์ และที่สำคัญได้ใกล้ชิดกับน้ำตาล ผู้หญิงที่เขารู้สึกห่วงใยโดยไม่รู้ตัวว่าได้รักน้ำตาลไปแล้วอย่างเต็มเปา
เหมไม่อยากให้เหมันต์เกี่ยวข้องกับชาญอีก เพราะอยากล้างอดีตที่ต่ำต้อยของเหมันต์ เหมจึงแอบไปพบชาญและมอบเงินก้อนโตให้แลกกับการให้ชาญไปเสียจากเหมันต์ ชาญไล่เหมออกจากบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่โรคไตของชาญกำเริบหนักขึ้น ชาญไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก จึงหนีหายไป และทิ้งจดหมายไว้ว่า วันที่เหมันต์ทำงานประสบความสำเร็จ พ่อจะกลับมาเหมันต์จึงทำงานในบริษัทของปู่อย่างแข็งขัน เพื่อรอวันที่จะได้พบกับพ่อ ขณะที่หริทธ์ก็ประจบหัวหน้าแผนกไปทั่ว โดยเฉพาะกับคุณเหมที่หริทธ์หาทางเข้าใกล้ทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งคุณเหมก็ทำเป็นเมตตาเอ็นดู ทำให้หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่า คุณเหมชื่นชมตนแต่จริงๆแล้วคุณเหมต้องการหลอกถามถึงเหมันต์ ที่นับวัน คุณเหมจะรู้สึกรักและผูกพันกับหลานชายมากขึ้นทุกที จนในที่สุด คุณเหมขอให้เหมันต์มาเป็นเลขาส่วนตัว โดยให้เข้าพักในคฤหาสน์บุญญาฉัตรพงษ์ หริทธ์อิจฉาพี่ชายมาก อยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต
เหมันต์ได้พบกับมนตราผู้เป็นย่าที่มีอาการเลอะเลือน มนตราทักเหมันต์ว่าเป็นเหมวัตลูกชาย ซึ่งคุณเหมก็ขอให้เหมันต์ช่วยเออออไปเพื่อความสุขของมนตราที่เฝ้าคิดถึงลูกชายตั้งแต่จากกันไป เหมพยายามสอนเทคนิคทำธุรกิจแบบมีเล่ห์เหลี่ยม เอาชนะคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก แต่เหมันต์กลับไม่เห็นด้วยยังคงยึดมั่นทำธุรกิจแบบมีคุณธรรม ไม่ยอมทำผิดเพื่อผลประโยชน์ ทำให้เหมขัดใจ แต่เหมก็ค่อยๆซึมซับความดีของหลานชายอย่างไม่รู้ตัวความผูกพันของคุณเหมกับเหมันต์ทำให้ เสี่ยสองรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า เหมประกาศให้น้ำตาลหมั้นกับทศนาถ เพราะเสี่ยสองต้องการให้ลาวัลย์ลูกสาวลงเอยกับทศนาถมากกว่า เสี่ยสองจึงคิดแผนการที่จะทำให้น้ำตาลเสื่อมเสียโดยการล่อลวงไป แล้วจัดฉากว่าน้ำตาลตกเป็นเมียของ ผู้ร้ายแล้ว (เสี่ยสองไม่ได้ต้องการให้ข่มขืนจริง) เมื่อแผนการเริ่มขึ้น
เสี่ยสองให้สมุนโทรไปขู่น้ำตาลว่าจะทำร้ายคุณเหม และขอให้น้ำตาลไปเจรจาที่ที่นัดหมายโดยห้ามแจ้งความ แต่เหมันต์รู้เรื่องเข้า จึงขอตามไปคุ้มกันน้ำตาล สมุนเห็นว่าผิดแผนจึงทำร้ายเหมันต์จนสลบก่อนจะหนีไป เสี่ยสองรีบพาทศนาถตามไปตามแผน และก็ได้พบว่าน้ำตาลกำลังกอดอยู่กับเหมันต์ ทศนาถ เสียหน้าและโกรธมากส่วนเสี่ยหนึ่งกับคุณผกาก็ต้องการแจ้งความเหมันต์ข้อหาล่อลวง แต่คุณเหมกลับปกป้องเหมันต์ และเอาตัวเองเข้ารับรองว่าเหมันต์ไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้ ซึ่งยิ่งทำให้เสี่ยทั้งสามโกรธมาก เหมันต์ขอไปจากบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ ระหว่างโต้เถียงกันมนตราเข้ามาร้องไห้ ไม่ยอมให้เหมันต์ไป คุณเหมจึงได้ทีอ้างความจำเป็นที่จะให้เหมันต์ได้อยู่ในบ้านต่อไป
แม่ที่แท้จริงของหริทธ์ ปรากฏตัวขึ้นต้องการมาทวงลูกคืน ทำให้หริทธ์รู้ความจริงว่าตนไม่ใช่ลูกชาญ ไม่ใช่น้องชายของเหมันต์ หริทธ์เสียใจหนักโกรธเกลียดทุกคนบนโลก เสี่ยสองต้องการหลอกใช้หริทธ์จึงทำเป็นห่วงใยคอยช่วยเหลือหริทธ์ ทำให้หริทธ์หลงเชื่อ จนถูกเสี่ยสองหลอกใช้ให้คุมขนส่งยาเสพติดที่ซ่อนปะปนไปกับสินค้า หริทธ์ถูกจับ เหมช่วยประกันตัวออกมา เหมันต์เดาออกว่าเป็นฝีมือคุณเหม จึงขอปฎิเสธความช่วยเหลือ แต่คุณเหมให้เหมันต์เซ็นเป็นลูกหนี้โดยให้ทำงานชดใช้แทน และมอบตำแหน่งระดับหัวหน้าให้กับเหมันต์ ทำให้เสี่ยสองกับเสี่ยสามยิ่งเกลียดเหมันต์ และคิดหาทางกำจัดเหมันต์ไปจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยเฉพาะเสี่ยสองที่จ้างคนมาดักทำร้ายเหมันต์ แต่เหมันต์ก็หลุดรอดไปได้ทุกครั้งจากความช่วยเหลือของมิตรหัวหน้าแก๊งนักเลง เหมันต์พยายามดึงน้องออกห่างจากเสี่ยสอง แต่หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่าเหมันต์แย่งลาวัลย์ไป หริทธ์แค้นใจขอนัดพบเสี่ยสองเพื่อขอแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์กับเงินก้อนใหญ่ เสี่ยสองไม่เชื่อขอให้หริทธ์หาหลักฐานมา ขณะเดียวกันก็ค้นหาหลักฐานในบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ไปด้วย จนเสี่ยสองแน่ใจว่า เหมันต์คือหลานชายของคุณเหม
เสี่ยสองคิดใช้ไม้ตายจัดการกับเหมันต์ โดยใช้น้ำตาลเป็นเครื่องมือเพราะรู้ว่าเหมันต์หลงรักน้ำตาล เริ่มจากการที่เสี่ยสองเกลี้ยกล่อมผกาแม่ของน้ำตาลให้ร่วมมือด้วย ผกากลัวมรดกจะตกไปที่เหมันต์หมดจึงตกลง หารู้ไม่ว่า แท้จริงเสี่ยสองต้องการจะกำจัดทั้งคู่ แถมทศนาถอีกหนึ่ง เพื่อจะให้ลาวัลย์กลายเป็นทายาทเพียงคนเดียว แผนการคือสร้างฉากให้เหมือนกับเป็นเรื่องฆ่ากันเพราะการหึงหวง โดยมีหริทธ์เป็นตัวช่วยด้วย แต่ก่อนหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง หริทธ์ก็ถูกคุณเหมเรียกไปพบ เพื่อทำเรื่องรับหริทธ์เป็นบุตรบุญธรรม โดยบอกหริทธ์ว่า เหมันต์เคยขอไว้ว่า ถ้าคุณเหมจะให้อะไรกับเหมันต์ขอให้มอบให้หริทธ์เท่ากัน และไม่นานนี้ เหมันต์จะได้รับสิทธิ์บางอย่างจากคุณเหม หริทธ์รู้ทันทีว่าคุณเหมกำลังจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเหมันต์ หริทธ์เกิดความละอายใจขึ้นมาทันที และรีบตามไปช่วยพี่ชาย หริทธ์เกือบโดนยิงตายแต่เหมันต์เอาชีวิตตัวเองเข้า ทศนาถบาดเจ็บสาหัส เหมันต์และน้ำตาลหายตัวไป ทำให้พวกเสี่ยสองคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว
เหมันต์ที่หนีไปกับน้ำตาล มาเจอกับชาญที่นอนป่วยอาการหนักอยู่ในรพ. เหมันต์เสียใจมากที่รู้ความจริงจาก อู๋(สมจิตร จงจอหอ)พ่อของเอม(เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) ว่าชาญหนีไปเพื่ออนาคตของเหมันต์ ความลับเรื่องเหมันต์เป็นหลานของเหม จึงถูกเปิดเผย เหมันต์เฝ้าดูแลชาญ สองพ่อลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในเวลาสั้นๆที่เหลืออยู่ก่อนชาญจะตายจากไป ขณะที่คุณเหมไม่ปักใจเชื่อว่า เหมันต์กับน้ำตาลตายแล้ว และสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเสี่ยสองจึงแกล้งประกาศจะยกทรัพย์สมบัติให้สาธารณะกุศล เสี่ยสองโกรธมาก จับเอาตัวคุณเหมไป ข่มขู่ให้ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ตนและลาวัลย์ โดยหารู้ไม่ว่า หริทธ์ที่ยังแฝงตัวอยู่กับเสี่ยสองแอบติดต่อกับเหมันต์และน้ำตาลอยู่อย่างลับๆ และก่อนที่เสี่ยสองจะฆ่าคุณเหม เหมันต์จึงพานักมวยในค่ายของอู๋พร้อมกับมิตรหัวหน้าแก๊งนักเลง เข้ามาช่วยคุณเหมได้ทัน เสี่ยสองถูกจับดำเนินคดี ขณะที่พฤติกรรมการฉ้อโกงของเสี่ยสามก็เปิดเผย คุณเหมขอให้เหมันต์เป็นผู้ตัดสินว่า ควรจะแจ้งความหรือลงโทษบรรดาลูกบุญธรรมยังไง เหมันต์ขอให้คุณเหมให้โอกาสเสี่ยทั้งสองแก้ตัว เหมก็สำนึกผิดที่ตัวเองหลอกใช้พวกเสี่ยให้ห่ำหั่นกันเองเพื่อมรดกจึงลดตำแหน่งพวกเสี่ยลงและทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อให้บริษัทได้กำไรคืนมาชดเชยกับที่ยักยอกไป ทำให้เสี่ยทั้งสองซาบซึ้งใจและยอมรับในตัวเหมันต์ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงโทษ คุณเหมก็ขอให้ทั้งสองครอบครัว ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก โดยให้ทรัพย์สินติดตัวไปน้อยนิด เพื่อเป็นการดัดนิสัย
หริทธ์กลับมาเป็นน้องชายที่ดีของเหมันต์ และยอมเรียนต่อ ส่วนลาวัลย์ก็ตัดใจจากเหมันต์ได้ย้ายมาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับหริทธ์ หริทธ์เริ่มตามจีบลาวัลย์อีกครั้ง แต่คราวนี้ลาวัลย์เปิดใจให้หริทธ์เข้ามานั่งในหัวใจ แทนที่เหมันต์ เหมันต์ตามช่วยเหลือน้ำตาล แต่น้ำตาลก็ไม่ยอมรับเนื่องจากละอายใจที่แม่มีส่วนทำ ร้ายเหมันต์และครอบครัว แต่เหมันต์ก็เข้าใจผิดว่าน้ำตาลยังรักทศนาถอยู่ร้อนถึงคุณเหมที่ต้องออกโรงแกล้งปล่อยข่าวว่าทะเลาะกับเหมันต์อย่างรุนแรงจนตัดขาดกันด้วยเรื่องที่เหมันต์ไปชอบพอกับหญิงสาวที่คุณเหมไม่ชอบหน้า เมื่อน้ำตาลรู้ข่าวก็ร้อนใจมาก รีบไปเจรจาขอร้องคุณเหมให้ยกโทษให้เหมันต์ คุณเหมเลยยื่นคำขาดว่า จะยอมยกโทษให้ก็ต่อเมื่อ เหมันต์เลือกหลานสะใภ้ที่คุณเหมยอมรับเท่านั้น น้ำตาลกลุ้มใจมาก ออกติดตามหาเหมันต์จนพบด้วยความเข้าใจว่าเหมันต์คงไปใช้ชีวิตอยู่กับเอมหญิงสาวข้างบ้านที่หลงรักเหมันต์อยู่ แต่กลับพบว่าเหมันต์รอน้ำตาลอยู่ที่บ้านพักชายทะเลเพียงคนเดียว เพื่อจะบอกหญิงสาวว่า น้ำตาลคือผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขา เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเขาก็ถูกกามเทพประกาศิตให้รักแต่เพียงน้ำตาลเท่านั้น
ในที่สุดอุปสรรคความรักของทั้งคู่ก็จบลง เหมันต์ได้กลับบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ในฐานะทายาทตัวจริงอย่างสง่างามและจับมือกับน้ำตาลบริหารบริษัทเหมทองด้วยนโยบาลใหม่ "คุณธรรมนำธุรกิจ" ส่วนเหมก็วางมือจากตำแหน่งและก่อตั้งมูลนิธิชาญช่วยเพื่อน เพื่อช่วยเหลือคนพิการ เป็นการระลึกถึงชาญที่ล่วงลับไป