“แอมมี่” เปิดใจหลังมีข่าววิวาห์สายฟ้าแลบ

“แอมมี่” เปิดใจหลังมีข่าววิวาห์สายฟ้าแลบ

         ทำเอาชาวเน็ตงงกันยกใหญ่เมื่อนักร้องหนุ่ม “ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ุ” หรือ "แอมมี่ The Bottom Blue" โพสต์เฟซบุ๊คประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบกับสาวปริศนา งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม "แอมมี่" เลยไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า

       สำหรับงานแต่งยังไม่ได้ฤกษ์ที่แน่นอน ตอนนี้ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ส่วนเดือนที่แล้วมีการจัดงานแต่งไหม จริงๆ เรียกว่าเป็นปาร์ตี้แล้วกัน ปาร์ตี้รวมเพื่อนสนิท ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลอง ที่โพสต์ไปถือเป็นการโปรโมทเพลง ส่วนแววแต่งจริงปีนี้เราก็อายุเยอะแล้ว มีความรักครั้งหนึ่งก็อยากทำให้มันดีขึ้นกว่าทุกๆ ครั้ง แพลนแต่งก็ต้องคิดกันอีกที เราคบกันมาสักระยะแล้ว ตอนนี้ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นสหายเลย ทำเพ้นติ้งด้วยกัน ทำเพลงด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน อยู่ด้วยกันเลยในฐานะแฟน ขอโทษที่ไม่อยากพูดอะไรเยอะ เพราะหลังจากที่ให้สัมภาษณ์อะไรหลายๆ อย่างรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องเราคนเดียว มันกลายเป็นเรื่องพ่อแม่เขาด้วยอะไรด้วย เลยอยากข้ามเรื่องนี้ไป มันเป็นเรื่องของความเคารพกันด้วย เรารักเขาก็จะพยายามทำรักครั้งนี้ให้มันดีขึ้น ทั้งงานเพลงงานดนตรีก็ตั้งใจทำ สร้างเนื้อสร้างตัว เขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากจะเริ่มทำอะไรเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่น

         ทำไมถึงถูกใจคนนี้ อันนี้ก็เหมือนเพลงเวลาเราเขียน เราเขียนได้ทุกวัน เราจะรู้ว่าวันไหนที่เนื้อเพลงมันใช่หรือไม่ใช่ ในชีวิตเราเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เจอกับความไม่ใช่ คิดว่าเราต้องรีบคว้าโอกาส คว้าความรู้สึกนั้นไว้ หลายคนมองว่าคบกันในเวลาไม่นาน ไม่ซีเรียสเรื่องเวลา จังหวะที่จะเจอคนที่ใช่มันเป็นเรื่องยาก ที่วางแพลนไว้เรื่องข่าวดีคงจะเร็วที่สุด ถามว่าทำไมต้องด่วนขนาดนั้น มันหลายอย่าง ทั้งเรื่องผู้ใหญ่เข้ามาด้วย เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย ส่วนตัวไม่ได้ดูฤกษ์อะไร พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่พิสูจน์ตัวเองพิสูจน์ความสัมพันธ์กันไปก่อนว่าจะอยู่กันรอดไหม

          ส่วนข่าวที่ออกมาว่าแต่งไปตอนสิงหาคมคือยังไม่ได้แต่ง แต่งงานคืออะไร คือต้องมีบาทหลวง ต้องมีประธาน มันยังไม่ได้เรียกแบบนั้น แต่งานแต่งจะเกิดขึ้นอีกทีใช่ไหม ไม่ได้มีแพลน แต่อย่างที่บอก มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ของเขาเอง ความสัมพันธ์ของเขา ทางฝั่งเราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ในเรื่องแต่งให้เร็วที่สุดตอนแรกเป็นแบบนั้น แต่พอมาคิดกันก็ขยับไปก่อน ลองใช้ชีวิตกันดูก่อนว่าจะไปกันรอดไหม

         ความรักครั้งก่อนเรารักษาไม่ได้ เราก็เอาจุดที่เราบกพร่องทั้งหมดเอากลับมาแก้ มีการคุยกันแบบผู้ใหญ่มากขึ้นว่าควรจะอยู่กันยังไง ปรับปรุงกันตรงไหน ที่แน่ๆ ก็เรื่องลูก ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยติดใจในเรื่องที่เรามีลูกมาก่อน เขาบอกว่าไปดูหมอที่ไหนมาก็บอกว่าจะได้พ่อหม้าย จากความรักครั้งก่อนทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไปแค่ไหน ความรักครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากที่สุด แต่เราก็ตั้งใจเต็มที่ เราเอามาแก้อยู่แล้ว ปีนี้จะ 30 แล้ว เราผ่านช่วงขึ้นลงมาเยอะแล้ว ต้องมีประสบการณ์แล้ว