“ฟิล์ม” เคลียร์ไม่ใช่ซุป’ตาร์เรื่องเยอะ กฎเพียบ
เป็นอีกหนึ่งดาราที่ถูกโยงว่าเป็น “ซุป'ตาร์ที่เพิ่งจะดัง แต่เรื่องเยอะ ออกกฎเหล็กที่ทุกคนต้องทำตาม” สำหรับหนุ่ม “ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” ล่าสุดมีโอกาสเจอเจ้าตัวก็เปิดใจถึงดราม่าครั้งนี้ว่า
ไม่ใช่ผมครับ ไม่มีเลยๆ เห็นข่าวแล้วก็ตลกดีเราไม่ได้เป็นแบบนั้นผมเลยไม่ได้ซีเรียส ใครจะคิดว่าเป็นเราก็ช่างเขา แต่ว่าเรารู้ตัวเองว่าเราเป็นยังไงก็พอแล้ว
ตัวเรามีกฎเวลาทำงานไหม เวลาไปทำงานจริงๆ ไม่มีเลย เราเป็นคนง่ายๆ กินอะไรก็ได้ เป็นคนง่ายๆ มีความสุขกว่า การ์ดก็มีอยู่คนเดียว คือผู้จัดการ ไปไหนก็ไปกันสองคน ผมไม่มีกฎอะไรเลย ผมกังวลแทนแฟนคลับมากกว่าเวลาเขาเข้ามาเยอะตามงาน กลัวเขาจะโดนเหยียบ หรือ บาดเจ็บมากกว่า เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีเหมือนเขาอยู่หน้าเวทีแล้วเราจะเข้าไปเล่นกับเขา ทางด้านหลังจะดันเข้ามา ผมก็กลัวว่าคนด้านหน้าจะโดนล้มทับ เพราะเคยมีแล้ว ผมเลยเป็นห่วงมากกว่า ไม่ซีเรียสกับข่าว ไม่ว่าใครจะว่ายังไง เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ผมแคร์คนที่เขาแคร์เรามากกว่า มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะคนสนใจเรามากกว่าเขาเลยคิดว่าเป็นเรา แต่สุดท้ายเรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไงทำอะไรอยู่แค่นั้นพอ ไม่ซีเรียสกับข่าวที่ออกมา ยอมรับกังวลกับแฟนคลับเข้ามามากกว่ากลัวเขาเหยียบกัน กลัวเขาจะโดนล้มทับแบบนี้มากกว่า ดังขึ้นก็ไม่ได้ต้องป้องกันมากขึ้น ส่วนการ์ดส่วนมากก็เป็นของงานมากกว่า เราไม่ได้มีข้อจำกัดสักข้อ ไปไหนมาไหนก็ไปกับผู้จัดการสองคน เราไม่ได้เพิ่มอะไร
เข้าใจชีวิตคนดังหรือยังเพราะจะมีดราม่าเข้ามาตลอด จริงๆ เราอยู่วงการมาสักพักได้เห็นรุ่นพี่หรือใครหลายๆ คนที่เขาดัง ก็ทำให้เราเข้าใจโลกปัจจุบันว่ามันเป็นยังไงผมก็เลยไม่ซีเรียสกับข่าวพวกนี้ แรกๆ มีปรึกษาคนอื่นๆ เหมือนกัน แต่พอเรารู้ว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกมาเราก็ไม่เห็นต้องซีเรียส ข่าวผ่านๆ มาก็ไม่ได้มีผลกับผมเพราะเราไม่ได้เป็นแบบนั้นเราก็ไม่ต้องไปซีเรียส
ยอมรับมีคนเข้ามาถามเพื่อนพี่ชาย เพื่อนแม่ หรือใครต่างๆ ที่เห็นข่าวเขาก็ฝากมาถาม แต่เราไม่ได้เป็นเราเลยไม่ซีเรียส อยากให้ลองมาเจอกันสิจะได้รู้ว่าเป็นยังไง แต่เราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แต่ถ้าอยากรู้ว่าผมเป็นยังไงมาเจอกันดีกว่า
เพื่อนหรือคนรู้จักสมัยก่อนเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราเปลี่ยนไป ก็ไม่ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นคนยังไง คุณพ่อคุณแม่ถามว่าห่วงไหม ก็มีบ้าง พ่อแม่ยังไงก็ห่วงลูก ก็บอกว่าแม่ไม่ต้องเครียด ผมโอเค รู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไง เราวัดกันที่ผลงานดีกว่า เพราะมันวัดได้หลายอย่างมากกว่า ย้ำชัดไม่ได้มีผลลบอยากให้โฟกัสเรื่องงานดีกว่า ตอนนี้งานก็เข้ามาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องของละครมากกว่า ตอนนี้ก็จะเน้นงานละครงานอีเว้นท์ก็จะรับน้อยลงแล้ว บอกขอทำงานละครให้ดีเพราะส่วนตัวชอบการแสดง