เปิดใจ "บูม” หลังตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงิน ลวงเหยื่อสูญกว่า 797 ล้านบาท
หลังจากเป็นข่าวใหญ่ เมื่อกองปราบ รวบตัวนักแสดงหน้าตี๋อย่าง "บูม จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต" กลางห้างดัง หลังตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงิน ลวงเหยื่อสูญกว่า 797 ล้านบาท ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม "บูม" เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย รวมไปถึงสภาพจิตใจด้วย
สำหรับสภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว จากตอนแรกที่ไม่ค่อยโอเค แต่เราโชคดีด้วยแหละ เหมือนตอนที่เราเจอเรื่องก็มีคนที่อยู่ใกล้ๆ คอยเป็นกำลังใจให้ คือเราไม่ได้อยู่คนเดียวเลยอะ ก็มีทั้งพี่ทีมงาน พี่ในกอง ที่คอยช่วยเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา ยอมรับตอนเกิดเหตุรู้สึกช็อกมากเอาจริงๆ เราก็ไม่ได้คาดคิดเลย เพราะไม่รู้เรื่องเลยสักนิด คือตอนโดนก็ยังงงอยู่และถามตัวเองตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา และพยายามติดต่อคนในบ้านแต่ติดต่อไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง จนมีพี่ทีมงานมาช่วยเข้ามาปลอบ
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรารู้สึกยังไงบ้างที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ จริงๆ ไม่มีใครที่เขาอยากจะมีคดีหรอก ซึ่งตัวเราเองก็ไม่คาดคิดด้วยเหมือนกันเพราะเราเองก็ไม่รู้ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง มันเป็นประสบการณ์มากกว่ามองในแง่ดีนะว่าอย่างน้อยๆ เราก็ยังรู้ว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง และก็ตอนเราไม่ดี ใครเขาช่วย คอยให้กำลังใจเรา เราโดนกระแสหนักมาก ซึ่งตัวเราก็เสียใจ เราไม่รู้ว่าเราจะพูดอะไร เพราะเราไม่รู้เรื่อง จริงๆ เราก็ใช้ชีวิตปกตินะแต่ก็มีคนที่เหมือนจะจำเราได้ เขาพูดมาประมาณว่าไปขอถ่ายรูปเขาสิ เหมือนพูดจาไม่ค่อยดี คือเราไม่ได้คาดคิดไง เราแค่รู้สึกว่าทำไม แต่ก็ช่างมัน เพราะเรารู้ตัวอยู่ว่าเราทำอะไร เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนแบบไหน เราห้ามเขาไม่ได้ แต่เราห้ามตัวเองได้ ยอมรับเคยร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเครียด ส่วนตอนนี้ก็ไม่ได้เครียดอะไรแล้ว แต่เรากลับรู้สึกดีในตอนที่เราเฟล มีคนอยู่ข้างเราคอยให้กำลังใจ ช่วยดึงเราขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนะ
ด้านแฟนๆ ก็ยังซัพพอร์ต ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วงและคอยเป็นกำลังใจให้ และมีบางส่วนที่มาต่อว่า ก็เหมือนเหรียญมีสองด้าน มันก็ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันมากขึ้น กันพี่ๆ เราปรึกษาเขามากขึ้นเพราะเราใหม่เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนตัวก็อยากให้มองว่าเหรียญมีสองด้านเรื่องตอนนี้ก็ยังไม่ถึงไหนเลย แต่คนก็ตัดสินไปแล้ว เราก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ทนายติดตามอยู่ก็ไปที่ศาลก็กำลังดูอยู่ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง เชื่อข่าวมีผลกระทบต่องานบันเทิง แต่ก็ทำในสิ่งที่ทำได้ ตอนนี้ก็บอกตัวเองว่าเราทำดีที่สุดนะ แต่สุดท้ายคนอื่นเป็นคนตัดสิน