เปิดใจ “โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์” โอกาสเป็นศูนย์ ส่งนักแสดงเล่น “เดือนเกี้ยวเดือน 2”
กำลังเป็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์อยู่ในตอนนี้ สำหรับซีรีส์วาย “2Moons The Series (เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์)” ที่เตรียมแคสติ้งนักแสดงใหม่ยกเซ็ต วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสพูดคุยกับผู้จัดฯ และผู้จัดการทีมนักแสดงเดิม อย่าง “โอ๋ ยชญ กรณ์หิรัญ” ไม่พลาดที่จะขอถามถึงเรื่องราวทั้งหมด โดยเขาเผยว่า
สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้น มันเกิดจากการที่ผู้ถือสิทธิ์ลิขสิทธิ์ได้มีการประกาศแคสต์นักแสดงใหม่ยกเซ็ต ด้วยเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งถ้าพูดถึงเด็กๆ จากซีซั่นแรกก็อยากเล่นต่อให้เสร็จสมบูรณ์ แต่เราทราบมาว่าลิขสิทธิ์ที่ทางนั้นถืออยู่ได้ขายสิทธิ์ไปแล้ว อาจจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เราถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ทางเราไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะถือเป็นสิทธิ์ของเขา
ส่วนเด็กๆ ทั้ง 5 คนก็มีคุยบ้างแล้ว ถ้า ณ วันนี้เขาเองไม่ให้เกียรติในการติดต่อมาให้เราเล่นต่อ เราก็ไม่ควรไปเล่น ก็จะโฟกัสทำงานที่มีกันต่อไป เฉพาะงานน้องๆ ตอนนี้ก็เยอะมากๆ ทั้งงานเพลง งานละคร ภาพยนตร์ และพรีเซนเตอร์ใหม่ที่เข้ามาด้วย ก็บอกเด็กๆ ไปแล้วว่าไม่ต้องกังวล ถึงจะไม่ได้เล่น งานเราเองก็มีเยอะอยู่แล้ว คิวตอนนี้ยาวไปถึงต้นปี 2563 แล้ว ตอนนี้เวลาก็ไม่ตรงกัน จะมาเล่นรวมกันก็คงจะยากด้วย
ทางเราเองก็เข้าใจทางฝั่งนั้นว่าในการแคสต์นักแสดงใหม่จะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น และสามารถทำให้ซีซั่น 2 ออนแอร์ได้เร็วขึ้น เราเองเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจตรงที่ว่าทำไมต้องประกาศแจ้งว่าน้องติดสัญญากับบริษัทเดิม ทำให้ไม่สามารถรับเล่นได้ ซึ่งต้องบอกว่าจริงๆ บริษัทเดิมเราเองเคยอยู่มาด้วย เพราะถูกเชิญให้เข้าไปร่วมโปรเจ็คท์บริษัท โดยเขาทราบว่าเราเป็นผู้จัดฯ สายวาย กับละครวัยรุ่น เลยอยากให้เรามาทำ และเราเองเป็นคนเลือกที่จะตามหาวรรณกรรม และเลือก “เดือนเกี้ยวเดือน” และหลังจากเราทำทุกอย่างเรียบร้อย แต่ทางบริษัทเดิมมีปัญหาภายในอย่างที่หลายคนทราบ เราไม่สามารถอยู่ได้เพราะปัญหาภายในที่ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ด้วย และก็ได้ตัดสินใจออกมา
และจัดตั้งบริษัทใหม่ เพราะเห็นว่าบริษัทเดิมไม่ทำตามสัญญาเดิม เราถือว่าเราสร้างใหม่หมด ให้เป็นศิลปิน SBFIVE ก่อนออกมาก็มีถามเด็กๆ แล้วว่าพร้อมที่จะเดินไปกับ “พี่โอ๋” ไหม เด็กๆ ทุกคนพร้อม เรื่องสัญญาของเด็กๆ ที่ทางฝั่งนั้นบอกว่าน้องๆ ยังไม่หมดสัญญาก็ไม่เป็นความจริง ทำให้เราต้องเอาหลักฐานต่างๆ ออกมาเปิดเผย
ตอนนี้ได้คุยกับเด็กๆ พอได้เห็นเจตนารมณ์ของฝั่งนั้น เราคงไม่กล้าให้เด็กๆ ไปเล่นต่อแน่นอน เพราะเราก็เป็นห่วงเด็กของเรา ณ วันนี้คุยแล้วว่าไม่เป็นไร แค่นี้งานเราก็เยอะอยู่แล้ว เจตนาเขาไม่ได้ตั้งใจให้เราไปเล่นตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ควรไปเล่น สำหรับเด็กๆ ควรจะเป็นตำนานตั้งแต่ซีซั่น 1 เด็กทั้ง 5 คนที่เราดูแลก็รู้สึกเสียดาย ความรู้สึกเหมือนน้องอกหัก อารมณ์เดียวกัน ก็ต้องทำใจ เยียวยารักษากันไป และมุ่งมั่นทำงานอื่นๆ ต่อไป เราเองพร้อมที่จะเดินจูงมือน้องไปในทางที่ดีๆ อยู่แล้ว และหวังว่าแฟนๆ คงจะสนับสนุนน้องๆ ต่อไป ตัวเราไม่คิดจะไปแข่งขันกับใครทั้งนั้น เราสอนลูกๆ ตลอดว่า ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร ให้แข่งขันกับตัวเอง และพัฒนาตัวเองเสมอ คุณก็จะอยู่ในวงการนี้ได้นาน