"ท็อป" ลั่นสังคมจะอยู่ได้ต้องแบ่งปัน
“ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ” เผย มาวันนี้ ถือว่าพระองค์ท่านเสด็จจากไปแล้วสองปี เราอยากโฟกัสเรื่องคนรุ่นใหม่นะ เพราะคนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยได้ทราบเรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ 9 เด็กๆ ก็ไม่ค่อยได้ซึมซับคำสอนหรือพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 คืออยากบอกว่ารุ่นพี่นี้เราซึมซับคำสอนของพระองค์ท่านมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระราชกรณียกิจ เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าท่านทรงงานหนักขนาดไหน พี่ว่าเราต้องสื่อสารกันนะ รุ่นเรานี่แหละต้องลงไปสอนเด็กๆ ให้เขาได้ทราบและเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคำสอน พระราชดำรัสต่างๆ ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เด็กรุ่นใหม่ต้องรู้ว่าบ้านเมืองที่เจริญมาจนทุกวันนี้ หลายจุดก็มาจากสิ่งที่พระองค์ได้สร้างไว้ คนรุ่นเราต้องทำให้เห็น เราเห็นพระราชกรณียกิจมากมาย ท่านทรงงานด้วยพระองค์เอง
เรื่องที่ท็อปซาบซึ้งที่อยากเล่าสืบไปก็คือ เราเคยถวายเงินให้พระองค์ท่านทุกเดือนก่อนท่านสวรรคต จนได้รับหนังสือตอบกลับมา เป็นหนังสือของสำนักพระราชวัง ระบุว่า ในหลวง ร.9 ทรงขอบใจ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่ท็อป เสียชีวิตหมด แล้วหยวนแนะนำว่าให้ถวายเงินพระองค์ท่านทุกเดือน ก็ทำหนังสือไปในวัง เรารู้ว่าเงินถ้าอยู่กับเราไม่เกิดประโยชน์หรอก แต่ถ้าอยู่กับพระองค์ท่านก็จะได้ใช้ประโยชน์แก่ประเทศได้มาก เราก็เลยทำ ไม่ได้คาดหวัง มีหนังสือทรงขอบใจมาให้ทุกเดือน ท็อปจะเก็บไว้อย่างดีในตู้เซฟ เราทำแค่นี้เพื่อสื่อสารแก่ท่าน ครอบครัวเราทำได้ปีกว่าท่านก็สวรรคต
สำหรับเรื่องที่อยากเล่าคือ ท็อปได้ไปเฝ้าพระเมรุมาศในหลวง ร.9 ในพระราชพิธี ที่ท้องสนามหลวง ท็อปจำได้ว่าในวันที่เราน้อมส่งพระองค์ท่าน เราไปจองที่ก่อน ไปนอนจองริมถนน 1 วัน อีกคืนก็เจอฝน พอได้สติกเกอร์ก็นอนรอตรงริมถนนนั่นแหละ นอนริมถนนสองคืน ทุกคนไปกันมากมายเพราะมีหัวใจเดียวกัน คนไทยรักพระองค์มาก และเราได้เห็นความสามัคคีในวันนั้น เราได้รับน้ำอาหารจากรัชกาลที่ 10 จำได้ว่า พระราชพิธีส่งเสด็จทุกอย่างดำเนินไป ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนเหนื่อยมาก ร้อนมาก เราไปนอนกลางดินโดนแดดแต่ไม่มีใครย้าย ทุกคนจัดคิวห้องน้ำ ล้างห้องน้ำ ตอบแทนพระองค์ท่าน เล็กๆ น้อยๆ
คำสอนพระองค์ท่าน คือพระราชดำรัสด้านการทำงานเพื่อการกุศล ท็อปจำไม่เคยลืม พระองค์มีพระราชดำรัสว่า สังคมเลว ถ้าคนดีท้อถอย เราต้องสร้างพลังของคนดี และต้องแบ่งปันกัน คนได้รับมีความสุข คนให้ก็มีความสุข