เสียงสั่น “ยิปซี” พูดแล้วประเด็นเลิก “ฌอห์ณ” รับมีบุคคลที่สามเกี่ยวข้อง
หลังจากที่มีข่าวลือออกมาอย่างมากมายถึง ประเด็นความรักของสาว “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” และ หนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ไม่คงสถานะคนรู้ใจ โดยมีกระแสว่าความรักของทั้งคู่ไปไม่รอดนั้นเกิดจากความสนิทสนมที่เพิ่มมากขึ้นของพระเอกหนุ่ม “ฌอห์ณ” และนางเอกสาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” จากงานละคร “ลูกไม้ลายสนธยา” จนฝ่ายชายได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และทางด้านสาว “พิม” เองบริสุทธิ์ใจให้สถานะเป็นเพียงพี่น้อง แต่หลังจากนั้นก็มีโมเมนต์น่ารักของ “ฌอห์ณ-พิม” ทั้งการอวยพรวันเกิดที่ดูผิดสังเกตทำให้เกิดความน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น จนวันนี้เองสาว “ยิปซี” ก็ได้ออกมาเผยถึงสถานะความสัมพันธ์ที่แท้จริงให้ได้ฟังบ้างว่า
สถานะหัวใจตอนนี้ก็โสดค่ะ หลายคนเป็นห่วงเรื่องความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายว่าห่างกันหรือเลิกกันอะไรแบบนี้ เรื่องนี้ก็สักพักแล้ว ไดยินมาว่าเราเป็นคนบอกเลิก จริงๆ เราไม่ได้เป็นคนบอกเลิก เราแค่ห่างๆ กันไปประมาณ 2 เดือน จุดสุดท้ายที่ทำให้รู้สึกต้องห่างกันไปมันเกิดจากอยู่ดีก็เกิดมีการต้องมาคุยกันแล้วก็แยกกันไปเลย แต่ขอไม่ลงรายละเอียดดีกว่า
มีคนบอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนมาขอห่างจากเรา ก็เป็นการคุยกันของทั้งสองคนมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้ถ้าพูดฝ่ายเดียวมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว มันต้องเป็นการตกลงกันของทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คบกันหรือห่างกันก็ตาม มันมีปัจจัยหลายเรื่องก็มีเรื่องที่เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว เลยไม่ได้ตกใจอะไรมาก
เรื่องมือที่สาม กับ “พิม พิมประภา” ก็อย่างที่บอกสาเหตุที่ทำให้ห่างกันหรือเลิกกันมันมีมากกว่าเรื่องเดียว แต่ว่าก็มีเรื่องของบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวด้วย ก่อนหน้านี้ในเรื่องความสนิทสนมของทั้งคู่เราไม่เคยถาม เพราะว่าตั้งแต่ตอนที่เริ่มทำงานกับน้องเขาก็เหมือนให้ความเชื่อใจเต็มที่ว่าจะไม่มีอะไรแน่นอน ให้เราสบายใจได้
พอได้ห่างกันจริงๆ ถามว่าได้รู้เหตุผลของเขาหรือเปล่า คือเหตุผลทางด้านคำพูดเราว่าดูที่การกระทำดีกว่า ว่าหลายอย่างมันค่อนข้างที่จะชัดเจนในการแสดงออก ไม่ใช่แค่เราที่เห็นว่ามันเป็นยังไง หลังจากที่ลดสถานะลงก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลยมีโอกาสน้อยมาก
ถามว่ากลับมาคงสถานะเพื่อนเหมือนเดิมได้ไหม ตอนนี้คงยังไม่ได้ เป็นเพราะเรื่องมือที่สามหรือเปล่าเราอาจจะไม่ได้รู้แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าเราดูที่การกระทำหลายๆ อย่าง ทั้งตอนที่ยังไม่ได้เลิกและตอนที่เลิกแล้ว โสดแล้ว มันก็เหมือนจะไม่ค่อยให้เกียรติเราหรือถนอมความรู้สึกเราสักเท่าไหร่ เรารู้สึกแบบนั้น
ถ้าตอบตามความรู้สึกมนุษย์มันก็รู้สึกแย่ คงไม่มีใครอยากเห็นคนที่เรารักไปดูสนิทมากๆ กับอีกคนนึง ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้พูดเรื่องนี้กันเลย พอเขาเคยพูดกับเราเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ตอนยังไม่ได้ร่วมงานกับน้องว่าสบายใจได้เลย เราก็เลยสบายใจและไม่เคยคิดอะไรเรื่องนี้เลย เราเชื่อใจเขามาก
อีกฝ่ายบอกที่เลิกกันเพราะเข้าไม่ถึงเราในจุดหนึ่ง คือมันไม่ใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ก็โฟกัสอยู่ที่ปัจจุบัน ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็คือฟื้นฟูตัวเองเพื่อที่จะให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป กำลังใจสำคัญของเราคือโอเคมากๆ เลย ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่เกิดขึ้น เพราะเหมือนเราก็ได้รับความรัก กำลังใจจากครอบครัวจากเพื่อน จากหลายๆ คนที่เราไม่คาดคิด มันก็เป็นเรื่องที่ดี
ความรักครั้งนี้ถือว่าเฮิร์ตมาเลยหรือเปล่า ก็ค่อนข้างหนักเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แบบจะทำให้เรากลัวการเชื่อใจใครหรือเปล่า ส่วนตัวคิดว่ามันไม่แฟร์ถ้าเกิดว่าเอาประสบการณ์จากคนคนหนึ่งมาวัดคนในอนาคตเพราะว่ามันก็คนละคนกัน
เห็นมีข่าวพาดพิงถึง “เจษ” ด้วย จริงๆ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย สงสารเขามากที่ยังต้องมาพัวพันกับเรื่องนี้ เพราะว่าเลิกกันไปประมาณสองปีได้แล้ว แล้วเขาก็มีคนของเขาชัดเจน ไม่มีทางเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน เพราะมีคนไปถามเขาเรื่องนี้ เขาเลยมาถามเราว่าเป็นยังไง จากที่ไม่เคยติดต่อกันมาเลยก็ได้มีติดต่อกันมาว่าโดนสัมภาษณ์แล้วก็เป็นไงบ้าง
ถามว่าเข็ดกับเรื่องความรักหรือเปล่า จริงๆ แล้วก็ยังไม่เข็ด ยังเชื่อว่าเราก็อาจจะมีโอกาสได้เจออะไรดีๆ อยู่ ถ้าในอนาคตมีคนเข้ามาจะเปิดใจไหม ตอนนี้ก็เปิดอยู่ เพราะปิดมานานมากแล้ว