ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 21 เดือน "เสก โลโซ" ไม่รอลงอาญา คดีขัดขวางตร.จับคดีอาวุธปืน-เสพยา
ศาลจังหวัดมีนบุรี อ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 12 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ "เสก โลโซ" ศิลปินร็อกเกอร์ชื่อดัง อายุ 44 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ฯ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 60 เวลาประมาณ 18.00 น. จำเลยได้มีอาวุธปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนออโตเมติกอีกจำนวน 6 นัด และจำเลยเสพเมทแอมเฟตามีน โดยจำเลยยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ด้วย เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
โดยเมื่อถึงเวลานัด “เสก โลโซ” จำเลย มาศาล พร้อมน้องอีฟ (ภรรยา) และหลบสื่อขึ้นบริเวณด้านหลังศาล ทั้งนี้ ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ขณะที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของอัยการแล้ว มีนายตำรวจเบิกความยืนยันถึงขั้นตอนขอออกหมายค้น และการแสดงหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี กับหมายจับคดีอาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว แต่จำเลยซุกตัวภายในบ้าน พร้อมกับถืออาวุธปืนที่พร้อมยิงตลอดเวลาโดยไม่ยอมออกมาพบนายตำรวจอย่างง่ายดาย และผลการตรวจปัสสาวะยังพบว่า ปัสสาวะของจำเลยมีสารเสพติดด้วย ซึ่งเกิดจากการยำสารเสพติดเข้าไปในตัวของจำเลยด้วยวิธีเสพ ไม่ใช่การใช้ยาทั่วไปที่มีสารเสพติดผสม
จึงพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาฯ จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุกคดีนี้ทั้งสิ้น เป็น 1 ปี 18 เดือน และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้ว แต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีก จึงไม่สมควรให้รอลงอาญา
ขณะที่จำเลยอ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะทำผิดนั้น ศาลเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี ไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้