“โทนี่” รับเสียใจ “หลิน” ให้สัมภาษณ์ปมเลิก ย้ำชัดสถานะ “แก้ว” ไม่มีทางพัฒนา
ออกมาเคลียร์กันชัดๆ สำหรับหนุ่ม “โทนี่ รากแก่น” ถึงประเด็นดราม่าเลิกอดีตแฟนสาว “หลิน มชณต สุวรรณมาศ” เพราะมือที่สาม งานนี้หวยก็ไปตกที่สาว “แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล” ที่มีชื่อเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ว่าเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากัน ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม “โทนี่” เลยไม่พลาดที่จะถามสักหน่อย
สำหรับ “แก้ว” ก็ไม่รู้เป็นไงนะครับ ก็ไม่รู้ว่ามาได้ไงกับข่าวนี้ คือเรารู้จักกันอยู่แล้วในสถานะเพื่อนแล้วก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่รู้น้องซีเรียสไหม เพราะเราก็ไม่ได้ตามข่าว ความสัมพันธ์ก็เป็นแก๊งไปเที่ยวด้วยกันได้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติ
กับโอกาสพัฒนาไม่มีแน่นอน ก็มีความเป็นเพื่อนสูง ยอมรับมีคนโยงเยอะ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั้งปกติ เอาจริงๆ นะผมก็มีความชอบความเป็นเขาเราไม่เคยมองกันในเชิงนั้นไม่มีครับ หลังจากนี้ก็เหมือนเดิมไปไหนก็ไปได้ไปกันปกติ สถานะตอนนี้ก็โสดไม่มีคุยกับใคร บอกเหมือนอยากเรียนรู้ความรู้สึกโสด ก่อนหน้านี้เราค่อนข้างปล่อยให้ตัวเองมีแฟนตลอด ตอนนี้อยากแข็งแรงด้วยตัวเองก่อน ไม่ต้องเอาความรู้สึกตรงนี้ไปขวางไว้กับใคร ยอมรับแรกๆ ก็แตกต่างอยู่แล้วมีแฟนกับโสดเมื่อก่อนพึ่งพาคนอื่นเดี๋ยวนี้ก็ต้องทำเอง
ด้าน “หลิน” เองเราก็ไม่ได้มีคุยกันเลย ที่เขามีข่าวกับ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” เราก็เห็นแวบๆ ต่างคนหากมีความสุขมีชีวิตดีขึ้นก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีของทุกฝ่าย ผมมองว่าทุกคนมีประสบการณ์คล้ายๆ แบบนี้แหละ ว่าเราอยู่กับคนๆ หนึ่งเริ่มศึกษาแล้วแล้วมองว่าความถูกต้องในตอนนั้นคือต้องดูแลรับผิดชอบกัน พอเราอยู่ตรงนั้นมาปีหนึ่งด้วยความรู้สึกว่ามันคือความถูกต้องก็ต้องดูแลกันต่อไป แต่มาคิดดูความถูกต้องมันต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองหรือเปล่า ซึ่งวันนั้นที่เราคุยกันมันก็เป็นเรื่องของเราสองคน เราก็แปลกใจพอมาวันนี้ทำไมมันถึงมีเรื่องมือที่สาม
ยืนยันสาเหตุที่จบเป็นเพราะความรู้สึกไม่ใช่มือที่สาม ที่เราฟังสัมภาษณ์เขาล่าสุดเราก็รู้สึกเสียใจนิดหนึ่งที่มีคำพูดเหมือนเราไม่ได้คุยกันเหรอ ทั้งที่เราก็คุยกัน วันนั้นเขาก็เข้าใจกันดีเรื่องมันเกิดมาปีกว่าแล้วเขารู้ดีว่ามันคืออะไร เราก็อยู่ด้วยความเข้าใจอีกแบบหนึ่ง แต่ ณ วันหนึ่งเขาอาจจะงงอย่างที่เขาว่าจริงๆ ถ้าเรามองว่าเราซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกเราจะกล้าพูด ความเข้าใจมันคนละแบบอยู่ที่กล้าจะเดินออกมาหรือเปล่า เราแค่พูดก่อน ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมีดราม่าอะไรเลย ต่างคนต่างเข้าใจในสิ่งนี้เราคุยกันตรงๆ มาตลอด