รักลงตัว “แบงค์ แคลช” เปิดใจคบ “โอซา แวง”
ออกมาเปิดใจให้ฟังครั้งแรก สำหรับนักร้องหนุ่ม “แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์” หรือ “แบงค์ แคลช” หลังมีข่าวซุ่มปลูกต้นรักนางแบบลูกครึ่ง “โอซา แวง” โดยล่าสุดหนุ่ม “แบงค์” ก็เปิดใจถึงความรักครั้งนี้ว่า
สำหรับความรักครั้งนี้ก็ตามที่ข่าวออกมา คบกัน เป็นแฟนกัน ประมาณ 2-3 เดือน มีช่วงที่หายไปแล้วก็กลับมาเป็นแฟนกัน เมื่อ 11 ปีก่อนเขาเคยมาเล่นเป็นนางเอกเอ็มวีซีรีส์ 3-4 เรื่อง แต่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนเขาแบบกูมึง แบบเพื่อน เราเคารพเขาในฐานะที่มาช่วยเราทำงาน ก็ให้เกียรติกัน
สาเหตุที่มาเจอกันอีกครั้ง จริงๆ มันไม่ได้มีความตั้งใจอะไรเลย มันเริ่มมาจาก “นานา” เขาก็นัดกินข้าวกัน เขาก็ถามเราโสดมากี่ปีแล้ว ก็บอก 2 ปีครึ่ง เขาก็บอกว่ามีคนนึงโสดเหมือนกัน ลองคุยไหม นานาก็บอกว่าลองคุยดูไม่เสียหาย ไม่เวิร์คก็ไม่ต้องคุยต่อ ก็เลยลองกินข้าวกัน ลองดู เพราะเราก็ค่อนข้างจะปิดเหมือนกัน พอคุยไปคุยมาก็งงเหมือนกัน
ที่ผ่านมาปิดตัวเองตลอดทำไมเปิดใจให้คนนี้ อันนี้ผมว่าชีวิตผมยังไม่พอดีพอที่จะมีใคร ก็เลยรอให้นิ่งก่อน พอเราอยู่คนเดียวได้อย่างดี แล้วค่อยมี ให้เรามีความสุขจริงๆ ก่อนแล้วค่อยเปิด มันคงเป็นเรื่องของเคมีบางอย่างมั้ง เรายังรู้สึกเลยว่ามันง่ายเกินไปหรือเปล่า ทำไมมันไม่มีปัญหาอะไรเลย ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ยอมรับที่ชอบอีกฝ่ายเพราะเขาเหมือนแม่ผม ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่าถ้าจะมีผู้หญิงสักคนหนึ่งนิสัยต้องคล้ายคุณแม่ผม เขามีส่วนนั้น ผมอธิบายเป็นข้อๆ ไม่ถูก เพราะชีวิตเรามีความสุขแล้วเลยให้เขาเข้ามา ยอมรับชีวิตก็ไม่เปลี่ยนนะ เหมือนเดิมหลังอีกฝ่ายเข้ามา เพราะเราโตแล้ว ไม่ใช่เลท 5 นาทีแล้วโทรตาม เป็นเรื่องของคนโตคุยกันมันก็ง่าย
ต้องปรับนิสัยอะไรกันไหม อันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องแก้อะไรเลย แต่ในอนาคตก็อาจจะมีก็ได้นะ ด้านเพื่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลับมาคุยกัน เขาก็เหวอกันหมดว่าคู่นี้มาเจอกันได้ไง ซึ่งเขาก็รู้ว่าเรารู้จักกันมานาน แต่มาเป็นสถานภาพอย่างนี้เป็นไปได้ยังไง ขำๆ บอกภาพหวานที่หลุดออกมาไม่ได้ถ่ายเอง
คาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน ถามวันนี้มันเร็วไปหน่อย แต่ถ้าจะตอบก็จะตอบว่า ไม่มีใครอยากจะคบกันแค่สั้นๆ อายุก็ไม่ใช่ 20 ต้นๆ ถ้ามันดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะยินดีมาก เราจริงจังกับความรักในทุกครั้งเพราะเราไม่อยากให้เขาเสียเวลากับเรา แล้วเราก็ไม่ต้องพยายามที่จะมีใครตลอดเวลา ผมว่าถ้ามันไม่แท้พยายามไปมันก็ไม่แท้ ฉะนั้นอยู่คนเดียวก็ดีกว่าลากใครเข้ามาให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่เหงา ซึ่งอยู่คนเดียว 2 ปีครึ่ง ศึกษาตัวเองอยู่พอสมควรว่ามันก็ไม่เหงา ไม่เห็นจะต้องมีใคร ถ้ามีก็มี
ตอนนี้มีเขาแล้วมันก็เติมในสิ่งที่หายไป แต่ชีวิตผมก็เหมือนเดิม ไปไหนคนเดียว แค่มีเขามาเป็นเพื่อน ย้ำชัดไม่ได้คบใครเล่นๆ ก็จริงจังอะ ไม่กดดัน แต่ก็ตอบลำบาก เพราะตั้งแต่เจอพี่ๆ นักข่าวมาก็มีแฟนแค่คนเดียว
เพื่อนเชียร์ไหมให้แต่ง เอาจริงๆ บางทีเขาก็เชียร์กันเกินไป แฟนคลับก็เชียร์กัน ตอนนี้เราก็แฮปปี้ดี