“โอ๊ต” เปิดใจหลังโดนถล่มหมด passion ในตัว “กิ้น” ยันไม่เกี่ยวกับมือที่สาม
โดนกระแสวิพากษ์อย่างหนักสำหรับหนุ่ม “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” หลังอดีตแฟนสาว “กิ้น ชาลิสา” โพสต์ข้อความยาวเหยียดว่า รัก 11 ปีจบลงเพราะฝ่ายชายหมด passion ในตัว ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม “โอ๊ต” เจ้าตัวก็ขอเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่อยากพูดเลย เพราะผมรู้สึกว่าเราเป็นผู้ชาย เราต้องให้เกียรติเขาไม่ว่าผมจะผิดหรือถูก และด้วยบุคลิกของผมจะพูดก็โดนด่า ไม่พูดก็โดนด่า อยู่เฉยๆ ก็โดนด่า คนที่เลิกกันผมก็เสียใจมากพออยู่แล้ว และยังต้องมาโดนคนอื่นด่าอีก ผมรู้สึกว่าเราก็ช้ำใจไปอีก คนเลิกกันมันไม่มีใครดีใจหรอก คบกันมาเป็นสิบปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ เพราะฉะนั้นเวลาเลิกกันผมก็ไม่อยากให้เรื่องที่เราเสียใจอยู่แล้วไปเดือดเนื้อร้อนใจแทนคนอื่นอีกที่มารุมด่าผม
กับ 11 ปีที่ผ่านมาเวลาเราคบกันมันก็มีทั้งดีและไม่ดีอยู่แล้ว ความรักขึ้นๆ ลงๆ ลิ้นกับฟันอยู่ด้วยกัน คุยกัน มีปัญหากัน ทะเลาะกัน เลิกกันบ้าง กลับมาดีกัน ผ่านอะไรมามากมาย ซึ่งผมก็คิดว่า 10-11 ปีที่ผ่านมาผมก็ดูแลเขาได้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลได้แล้วเต็มที่
สาเหตุที่เลิก เขาบอกว่าเราหมด passion แล้ว อันนี้ผมบอกก่อนว่าผมไม่ใช่คนดีนะ แต่ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่ว่าจะเดินไปบอกผู้หญิงคนหนึ่งที่คบกันมา 10-11 ปีว่า เธอ เราหมด passion แล้ว เราเลิกกันเถอะ อันนี้ผมว่ามันใจร้ายเกินไป ผมไม่ได้พูดคำว่าหมด passion ผมคุยกับเขาว่า ก่อนที่เราจะคุยเรื่องแต่งงานกัน เรามาคุยกันก่อนไหมว่า passion ที่ไม่ใช่แค่ผม แต่หมายถึงที่เรามีให้ระหว่างกัน มันเพียงพอไหมที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แต่งงานไม่ใช่การเล่นขายของนะ ในความคิดเห็นของผม คนที่จะแต่งงานกันมันต้องเติมเต็มความรักไปด้วยกันทั้งสองคน ไม่ใช่แต่งงานเพื่อเป็นเครื่องมือให้เราอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็ไม่อยากจะไปว่าเขาไง เพราะเขาก็เป็นคนที่เราดูแลและรักมาตลอด ซึ่งหลังจากที่มีข่าวเราก็ไม่ได้คุยกัน ผมก็โทรไปหาน้องชายเขา แล้วฝากบอกเขาด้วยว่าไม่ได้โกรธเลย และเข้าใจเหตุผลทุกอย่างที่เขาพิมพ์ ต้องขอโทษที่ผ่านมาทำอะไรให้ไม่ดี หรือดูแลเขาได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
เหมือนเขาอยากแต่งงาน แต่ตัวเราเองยังไม่พร้อม อันนี้ผมว่าเรื่องนี้เก็บไว้เป็นเรื่องของคนสองคนดีกว่า มันละเอียดอ่อนมาก คนคบกัน การแต่งงานหรือต้องใช้ชีวิตร่วมกันมันมีดีเทลยิบย่อยมากกว่านั้นมากที่คนอื่นไม่รู้ในสิ่งที่มันเกิดขึ้นต่างๆ ในวันที่มันผ่านมา ผมเลยรู้สึกว่าขอเรื่องนี้ให้มันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ว่าจะมีปัญหาตรงไหน หรือไม่มีปัญหาตรงไหน เชื่อเถอะว่าผมสองคนทำดีที่สุด
ส่วนข่าวที่บอกว่าพอจบคอนเสิร์ตแล้วเราจะขอเขาแต่งงาน เรื่องนี้คือเราคุยกันมาหลายปีแล้ว จริงๆ เรื่องแต่งงานเราคุยกันมา 5-6 ปีแล้ว ยอมรับว่า 5 ปีที่แล้วผมอยากแต่งงาน ผมก็บอกเขา ซึ่งมันก็มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้มันไม่พร้อม เหมือนกันพอมาในวันนี้มันก็มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ไม่พร้อม รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่มันส่วนตัวมากๆ บวกกับพูดไม่ได้ เรื่องที่จะไม่ขอผมพูดจริงๆ แต่อย่าลืมว่าในระยะที่กว่าจะไปถึงวันนั้น มันก็ผ่านเหตุการณ์อะไรอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องมานั่งทบทวนและคุยกันว่า จะใช่ตอนนี้จริงๆ เหรอ ย้ำชัดไม่มีตัวแปรเลย มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่คุยกัน คนอื่นที่ไม่ใช่ผมสองคนไม่มีทางรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่จะให้ผมมานั่งอธิบายทั้งหมดมันทำไม่ได้
สำหรับคนที่มองว่าความเจ้าชู้ของเราที่ยังไม่หยุด อันนี้ผมเลิกกับเขา ไม่ใช่เพราะเรื่องคนอื่นเลย อย่าไปเอามือที่สามมาเกี่ยว ผมดูข่าวแล้วเห็นว่าเขียนโดยไปลากคนที่ไม่รู้เรื่องมาเกี่ยวด้วย อย่างน้อยนึกถึงเรื่องเวรกรรมบ้าง ถ้าวันหนึ่งเรามีลูกแล้วคนไปด่าลูกว่าเป็นเมียน้อยเขาเหรอ ไปแย่งมาเหรอ ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขา อย่าไปเอาบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องเลย
กับ "น้องชยา" ที่เป็นข่าว เรารู้จักกันมาหลายปีมาก และสนิทกันมาก แต่กลายเป็นว่าทุกวันนี้ต้องขาดการติดต่อไปเลย เจอกันไม่ได้อีกเลย พอผมโทรไปขอโทษน้องที่น้องไม่รู้เรื่องเลย พ่อแม่เขาก็โกรธมาก เพราะอยู่ดีๆ ก็มีคนมาด่าลูกสาวเขา กลายเป็นว่าผมต้องเสียมิตรภาพไปอีกคน ทั้งๆ ที่เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้
แต่ที่เขาเขียนเหมือนว่าเราแอบไปมีคนอื่น เรื่องที่ผมทะเลาะกับเขาหรือเจ้าชู้ มันผ่านมาหลายปีแล้ว ซึ่งผมก็ยอมรับและบอกมาโดยตลอดว่าผมไม่ใช่คนดี เวลาไปออกรายการผมก็เคยพูดว่าผมเคยทำตัวเละเทะ เจ้าชู้ก็เคย ผมเป็นผู้ชาย ผมเจ้าชู้ผมก็ยอมรับ อีกอย่างถ้าจะมาถามหาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบจากผม ผมไม่มีให้ เพราะผมเป็นแค่คนที่ตลก กะล่อน แต่ที่สิ่งที่ผมเลิกกับเขา คือผมไม่ได้มีคนอื่น และอย่าไปเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง มันเป็นเรื่องของคนสองคน ผมก็ไม่คิดว่าคนเลิกกันสองคนมันจะเดือดร้อนทั้งประเทศ ติดแฮชแท็กด่าผมกันแบบสนุกปากเลย
ตอนนี้เรายังรักเขาอยู่ และเป็นห่วงเขาเสมอ ผมเสียใจมากที่คนมาคอมเมนต์ด่าผมว่า ดัง มีเงิน และก็ทิ้งเขา ผมจะบอกอะไรให้นะ 11 ปีที่ผ่านมาผมดูแลเขาอย่างดีที่สุด ชีวิตผมไม่ได้ลำบากเลย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าผมทำหน้าที่ผมได้ดี
ส่วนจะมีโอกาสกลับไปคุยกัน หรือกลับไปจูนกันใหม่ไหม ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่ผมแล้ว ปัญหาคือเรื่องที่บ้านแล้ว แม่ผมอายุ 70 ไม่เล่นโซเชียลเลย แต่มีคนเอาข่าวไปให้แม่ผมอ่าน เอาคอมเมนต์ไปให้แม่ผมอ่าน เขาต้องมาอ่านคอมเมนต์ที่คนมารุมด่าลูกชาย ทั้งๆ ที่แค่เลิกกับแฟน ถ้าเป็นแม่คุณจะเสียใจไหม ผมเลยงงว่าผมไปทำอะไรให้คนเดือดร้อนขนาดนั้นเหรอ ผมไปขับรถชนคนเหรอ ผมแค่เลิกกับแฟน และเลิกก็ด้วยเหตุผลส่วนตัวของคนสองคน ถ้าอยากให้กำลังใจไปให้กำลังใจผู้หญิง แต่ถ้าอยากด่ามาด่าผม แต่อย่าด่าถึงพ่อถึงแม่ผม อย่าด่าถึงครอบครัวผม บางคนเอาครอบครัวผมมาด่า บางคนด่าเรื่องรูปร่างหน้าตาผมว่า ไอ้อ้วน อัปลักษณ์ หน้าตาเหมือนหมีควาย แล้วยังมั่นใจในตัวเอง คนอย่างผมโดนด่ามาทั้งชีวิตอยู่แล้ว อะไรก็ได้มาด่าผมแต่อย่าไปทำร้ายคนที่ผมรัก อย่าไปด่าแม่ผม อย่าไปด่าเขา อย่าไปด่าคนที่สาม อยากด่าให้มาด่าผม
ตอนนี้คงจะต้องห่างกันไปก่อน ซึ่งจริงๆ แล้วตอนเลิกกันมันก็ไม่ได้ตัดขาดนะ ผมก็ยังคุยกับบ้านเขา ผมกับน้องชายเขาก็ยังต้องทำธุรกิจร่วมกัน ทำร้านอาหารด้วยกัน แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำด้วยกันต้องชะงักทั้งหมด เพราะพอมีข่าวขึ้นมาก็ทำให้กระทบกระทั่ง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของครอบครัวเรา ผมโดนด่ามาทั้งชีวิตรับสิ่งแบบนี้ได้ แต่ที่ผมห่วงคือผมห่วงเขา และยังเป็นห่วงเขาตลอด อะไรที่ผมทำได้หรือรับผิดชอบได้ก็ให้บอก เพราะเขาก็คืออีกพาร์ทหนึ่งในชีวิตของเราที่ผ่านมา
กับกระแสที่บอกว่าเราดังและมีเงินเลยทิ้งเขา จริงๆ ผมทำงานทุกวันนี้ ผมไม่ได้แคร์เรื่องตัวเงินเลยนะ ผมเลิกทำงานไป ธุรกิจที่บ้านของครอบครัวผมก็มี ผมก็ไม่อดตายอยู่แล้ว ผมทำทุกวันนี้เพราะผมอยากให้ทุกคนมีความสุข ผมเอาความสุขเป็นที่ตั้ง เรื่องตัวเงินเป็นเรื่องรองเลย เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้จะสามารถคัดกรองได้ว่า คนที่ยังติดตามผลงานผมอยู่คือคนที่รักในผลงานผมจริงๆ ไม่ได้รักผมแค่ฉาบฉวยหรือแค่รอเพื่อวันหนึ่งจะด่าผม
ยอมรับทุกวันนี้บอกน้องๆ ว่าอย่ามาใกล้พี่มาก กฐินพี่เยอะมากตอนนี้ กลายเป็นผมที่ต้องระวังตัวมากขึ้นในการที่เข้าไปหา คุย หรือทำงานกับคนอื่น ผมทำงานผมให้เกียรติทุกคนนะ แต่มันกลายเป็นว่าผมต้องระมัดระวังตัวขึ้นไปอีก ให้เกียรติมากไปอีก ต่อจากนี้ผมคงไปกินข้าวกับใครสองคนไม่ได้แล้ว เพราะผมกลัวคนนั้นจะโดนด่า
ต่อจากนี้จะวางแผนเรื่องความรักไว้ว่าอยากทำงานก่อน ขอโฟกัสที่งาน อยากทำให้ทุกอย่างมันเต็มที่ ตอนนี้ขอเวลาให้กับตัวเองหน่อย ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับมาหลายวันแล้วนะ คนที่เลิกกับแฟนช้ำอยู่แล้ว แล้วต้องมาโดนด่าอีก ทั้งๆ ที่คนที่ด่าเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในชีวิตผมเลย ผมก็เสียใจครับ แต่เอาเถอะผมเกิดมาเพื่อโดนด่า
พร้อมฝากบอกอะไรกับคนที่เข้าใจในตัวเราผิด ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันมีเหตุผลเสมอครับ บนโลกนี้ทุกอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่อยู่ๆ ผมอยากเลิก มันผ่านการกลั่นกรองแล้วว่าต่อไปจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นนก็อยากให้แยกตรงนี้ให้ออกว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน หน้าที่ของผมคือเป็นกรรมกรสร้างความสุขให้ทุกคน ผมก็ทำต่อไปให้ทุกคนได้ดูงานที่ผมทำ ฉะนั้นก็ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ย้ำชัดสถานะตอนนี้โสด