“ติ่งเกาหลี” ใครว่าไร้สาระ เปิดมุมมองแฟนคลับต่อความชอบใน K-POP
ยุคสมัยนี้หากพูดถึงความเฟื่องฟูของวงการ K-POP ในเมืองไทย นับว่าได้รับความนิยมกันมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว นับตั้งแต่ Super Junior, TVXQ, BIGBANG นอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านไปก็ยังมีวงรุกกี้หน้าใหม่เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ แต่เมื่อพูดถึงการเป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลี ใครๆ ก็เรียกว่า “ติ่งเกาหลี” อาจจะดูไร้สาระและโดนกระแสวิจารณ์มากมาย ทั้งนี้ทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสได้พูดคุยกับแฟนคลับท่านหนึ่งถึงมุมมองการชื่นชอบศิลปินเกาหลีได้เสนอแง่คิดว่า การเป็นแฟนคลับเกาหลีก็ไม่ได้ไร้สาระอย่างที่คิด แต่ควรจะเปิดใจมากกว่า
ตอนนี้เป็นแฟนคลับวง GOT7 ถ้าถามถึงจุดเริ่มต้นคงมาจากการดูซีรีส์เกาหลีที่ไอดอลเล่นเลยได้มาเจอวงที่เราชอบ สาเหตุที่ชอบวงนี้ก็คือ บุคลิกของเขา บางทีถ้าเราไปดูไอดอลวงอื่นส่วนใหญ่ก็จะชอบที่หน้าตา แต่อันนี้คือชอบบุคลิก ความสามารถ ความทะเล้น ส่วนตัวชอบไอดอลที่ร้องเพลงเพราะเลยชอบ Jinyoung เป็นพิเศษ เสียงเขานุ่ม เวลาร้องเพลงสามารถดึงดูดเราได้ เขามีเสน่ห์มากๆ จากเสียงร้องของเขา ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เจอคือรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ เวลาเขาพูดรับรู้ได้ถึงความจริงใจ บวกกับทัศนคติที่ดีของเขา ทำให้เรารู้สึกชอบเขามากขึ้น สำหรับความประทับใจแรกก็คือ บุคลิกเขาดีมาก ดูเป็นคนสุภาพ ทำให้ครั้งแรกที่ได้เห็นคือรู้สึกชอบไปเลย
ยังไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าคอมพลีทที่สุด แต่ถ้าเรื่องที่เราประทับใจอาจจะไม่ใช่ตามที่คอนหรืองาน จะเป็นการตามที่อินชอน อันนี้เจอใกล้มาก แล้วเขาร่าเริงมาก กลัวว่าแบบนั่งเครื่องนานแล้วจะหงุดหงิด พอเจอจริงๆ ก็คอมพลีทที่ว่าด้วยความที่เรามาไกลด้วย แล้วก็ตื่นเช้ามากๆ เพื่อไปรอเขา แต่เขาก็ยิ้มแย้ม อีกอย่างคือ ได้โมเมนต์ในคอนเสิร์ต เหมือนเขาเห็นเราแล้วก็เซอร์วิสมากๆ คือเขาจะเป็นคนที่ถ้าเห็นแฟนคนไหนถือป้ายหรือพัดที่มีชื่อของเขา เวลาที่เขาเห็นก็จะเซอร์วิสตลอด ล่าสุดคือที่สนามบินถือพัดชื่อจินยองแล้วเขาก็โบกมือให้ ทำเหมือนเขาจะไม่เห็นแต่จริงๆ เขาก็สังเกตหมด ชอบที่ใส่ใจแฟนๆ แบบนี้ ก็รู้สึกคอมพลีทนิดนึง
ปกติพร้อมซัพพอร์ตทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มเพลง หรือเมมเบอร์คนไหนไปเล่นซีรีส์หรือร้องเพลงประกอบก็ซัพพอร์ตทุกคนอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ซัพพอร์ตจริงๆ ก็คงจะเป็นอัลบั้ม ไม่อยากให้คนไปเลือกฟังเพลงอย่างผิดกฎหมาย เพลงนึงมันราคาไม่กี่บาท ก็ควรจะสนับสนุนพวกเขา บางคนคิดว่าไม่เป็นไรหรอก เรื่องเล็กน้อย แต่เชื่อว่าคนที่เป็นศิลปินทุกวงเขาก็จะต้องอยากให้ทุกคนยอมรับในผลงานของตัวเองกันทั้งนั้น นี่แหละจึงเป็นสิ่งที่สนับสนุนเขาที่สุด
พูดถึงคำว่า “ติ่งเกาหลี” ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้มุมมองการเป็นแฟนคลับของคนไทยเป็นยังไง รู้สึกมันไม่เท่าเทียมตรงที่ว่า อย่างแฟนคลับต่างชาติ ญี่ปุ่น ฝรั่ง จีน รวมไปถึงศิลปินไทย ก็เรียกว่าแฟนคลับ แต่พอเป็นเกาหลีปุ๊บเรียกว่าติ่งทันที แบบประมาณว่าติ่งเกาหลีเหรอ ส่วนตัวเองได้ยินคนพูดมาเยอะเหมือนกันทั้งคนใกล้ตัวและไกลตัว ก็เหมือนจะแอบเหยียดนิดๆ พอพูดว่าเป็นติ่งเราก็รู้สึกว่าทำไมถึงไม่เรียกว่าแฟนคลับเหมือนคนอื่นเขา ทั้งๆ ที่การซัพพอร์ตและติดตามศิลปินก็ทำเหมือนเขาทุกอย่าง ไม่สร้างความเสียหายอะไร ก็จริงอยู่ที่ว่าบางคนสมัยนี้ด้วยความที่แฟนคลับก็มีจำนวนที่เยอะขึ้น ทำให้ไปสร้างความเสียหาย ก่อความรำคาญ แล้วก็จะมองว่าติ่งเกาหลีจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จริงๆ ไม่อยากให้มองว่าเป็นแบบนั้น อยากให้เปิดใจกันนิดนึง ไม่อยากให้เรียกว่าเป็นติ่ง ก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่ถ้าถูกเรียกแบบนั้น เพราะทุกครั้งที่ถูกเรียกว่าติ่งเกาหลีมักจะตามมาด้วยคำสบประมาท คำเหยียดต่อด้วยตลอด ก็อยากให้สังคมไทยเปิดใจกันสักที
ตัวเองยังไม่เคยเจอกับตัว แต่เคยเห็นในโลกออนไลน์และได้ลองตามอ่านดู ก็ถ้าเป็นเราเองก็รู้สึกเหมือนเขาที่คนอื่นชอบมองว่ามันไร้สาระ ทำไปแล้วได้อะไร การที่คนเราชอบอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วเอาสิ่งๆ นั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดันให้เราไปข้างหน้า แต่เขากลับมองว่าศิลปินเป็นเรื่องไร้สาระ ในทางกลับกัน บางคนชอบบอล ชอบเล่นกีฬา มันก็เป็นความชอบส่วนบุคคลของเขา อันนี้มันก็เป็นความชอบส่วนบุคคลของเราเหมือนกัน เราไม่ได้รู้สึกว่ามันไร้สาระ เหมือนได้ทำอะไรที่เราชอบ และนำสิ่งนั้นมาผลักดันตัวเราให้ดีขึ้นด้วยความพอดี ไม่ได้เกินตัว พอเราชอบอะไรที่มันดีกับตัวเราก็จะได้สิ่งๆ นั้นมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไป
สิ่งที่คิดว่าได้จากการเป็นแฟนคลับเกาหลีก็คือ ได้กำลังใจ บางคนอาจจะมองว่ามันไร้สาระ เกินจริงไปหรือเปล่า สำหรับตัวเราแล้วมันคือเรื่องจริง เวลาที่เราเหนื่อยๆ ทำงาน เรียนหนัก พอได้เห็นหน้าเขาหรือผลงานของเขาก็รู้สึกว่าดีแล้ว เคยได้ยิน “ดนตรีบำบัด” ไหม แค่ฟังเพลงมันก็ช่วยฮีลลิ่งให้เรารู้สึกดีได้มากขึ้น ก็เหมือนกัน ได้ฟังเพลงของศิลปินที่ชอบ ได้เห็นหน้าเขาก็ถือว่าเป็นการรีแลกซ์ คลายเครียดได้อย่างหนึ่ง ใครไม่เชื่อลองทำดู
อีกอย่างคือ ภาษา ด้วยความที่เราไม่ได้ตามศิลปินไทย บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ตามศิลปินไทยล่ะ เจอก็ง่าย สื่อสารกันรู้เรื่องกว่า แต่ส่วนตัว รู้สึกว่าระยะทางหรือเวลาที่เจอกันยากมันก็เป็นผลดีกับเราเหมือนกัน ไม่ได้กังวลว่าจะต้องเจอเขา แต่ก็นานๆ มาหาที หรืออาจจะมาบ่อย ซึ่งก็ไม่ได้ไปตามทุกที่เสมอไป กลายเป็นว่าช่วยให้เราได้ภาษาเพิ่มขึ้นมา ก็คือเกาหลี บอกเลยว่าถ้าได้ภาษาที่สามมาคือมันก็ง่ายกับอะไรหลายอย่าง บางคนอาจจะบอกว่าเรียนไปแล้วได้อะไรอะ จะมีประโยชน์จริงๆ เหรอ ทั้งนี้ทั้งนั้นคนเรียนภาษาก็ต้องเปิดใจยอมรับ ไม่ว่าภาษาอะไรมันก็ดีต่อตัวเราเองทั้งนั้น
ถ้าหากวันหนึ่งศิลปินที่ชอบเกิดทำผิดพลาดหรือมีข่าวเสียหาย ถามว่าจะยังติดตามอยู่ไหม ก็ขึ้นอยู่เรื่องที่เกิดขึ้น บางคนมีระดับการยอมรับที่ต่างกัน อย่างเรารู้จักเพื่อนที่ตามศิลปินที่มีข่าวเสียหาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังสนับสนุนอยู่ เลยถามไปว่าทำไมถึงยังอยู่ตรงนี้ เขาบอกว่ารู้สึกว่ากลับตัวกลับใจได้ เราก็คิดเหมือนกันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งมันต้องเกิดขึ้น แล้วคนที่ชอบรู้สึกผิดกับมันจริงๆ พร้อมกับออกมายอมรับด้วย ก็ยังโอเคที่ยอมรับว่าเขาทำผิด และจะแก้ไขในอนาคต เราก็พร้อมจะซัพพอร์ตเขาต่อเหมือนกัน แต่ถ้าบางเรื่องที่ร้ายแรงจริงๆ แล้วเขาก็ไม่สำนึก ก็คงต้องพิจารณาดูอีกรอบ คำว่าไอดอลก็คือต้นแบบของประชาชน ซึ่งทำแบบนี้มันผิดอาจจะไม่ตามต่อเหมือนกัน
สำหรับการตามศิลปินเกาหลีถามว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน คงตอบไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็ต้องมีจุดสิ้นสุดของมันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของเราเองหรือตัวศิลปิน สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดตามเขาเหมือนเดิมแต่ก็ยังคงฟังผลงานเพลงของเขา หรือดูผลงานของเขาได้ ต่อให้เราไม่ได้ซัพพอร์ตเหมือนก่อนแล้วก็ตาม ก็เลยคิดว่าตอนนี้เรารักเขามากก็ควรจะสนับสนุนเขาให้ได้มากที่สุดตอนที่เรายังอยู่ดีกว่า ต่อไปอาจจะไม่ได้มากแบบตอนนี้ ถามว่ายังฟังเพลงไหม ยังติดตามไหม ถ้ามีผ่านหูผ่านตาก็ยังคงรับฟังอยู่เหมือนเดิม