เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ชิม่อน วชิรวิชญ์” จากนักกีฬาสู่พระเอกขวัญใจสาวๆ
แจ้งเกิดเป็นดาวเด่นประดับวงการ มีผลงานผ่านหน้าจอมาแล้วมากมาย สำหรับนักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง “ชิม่อน วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์” ล่าสุดกับผลงานซีรีส์สุดฟิน “Our Skyy อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น” กับการสานต่อความคิดถึงในโปรเจ็คท์สุดพิเศษ วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” จะพาไปเปิดประวัติและย้อนเส้นทางในวงการบันเทิงของหนุ่ม “ชิม่อน” กัน
ชีวิตในเด็กจะเป็นเด็กห้าวๆ ไม่ใช่เด็กเรียนเลย เพราะว่าเราเป็นเด็กกิจกรรมเล่นฟุตบอล จะเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมมากกว่าเรียน และเราก็จะมีเพื่อนๆ หลายแก๊งมาก ทั้งแก๊งเล่นฟุตบอล เล่นเกม และก็แก๊งเพื่อนในห้องเรียน ถ้าวีรกรรมในวัยสมัยนั้นก็จะปีนรั้วออกไปเล่นเกม แล้วก็จะมีเตะฟุตบอลอัดกระจกแตก ก็จะเป็นวีรกรรมของเด็กๆ ทั่วไปในสมัยก่อน ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงคุณครูก็เลยไม่กล้าตี จะมีก็แค่หักคะแนนมากกว่า อย่างมาสาย ขาดเรียนบ่อย ใส่กางเกง แต่งตัวผิดระเบียบ
ความฝันในวัยเด็กอยากจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ และก็เคยเกือบจะติดแล้วด้วย แต่มันก็มีอุบัติเหตุขาพลิก เราใส่เฝือกนานมาก เล่นฟุตบอลต่อไม่ได้เลย ก็เลยเลิกเล่นฟุตบอลไปเลย แล้วมาเดินเส้นทางสายวงการบันเทิงแทน
เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงเริ่มต้นจาก “พี่โก้ นิรุณ” พี่เขาดึงเราเข้ามาในวงการบันเทิง ให้เราเข้ามาเล่นพวกโฆษณา มิวสิควิดีโอ แล้วก็ภาพยนตร์ของพี่เขาที่เขาสร้างเอง ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเราเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งครั้งแรกที่พี่เขาชวนเข้าวงการบันเทิงก็ตัดสินใจเข้าเลย แต่ด้วยจริงๆ แล้วเรามีน้าที่รู้จักกับพี่โก้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว น้าก็เลยบอกว่าฝากไปด้วยก็แล้วกัน เราก็ลองมาแบบไม่คิดเลย เราก็อยากลองดู เห็นหลายคนอยู่ในทีวีแล้วดูดีเราก็อยากลองดูบ้าง การเป็นตัวของตัวเองมันดูดีที่สุดแล้วไม่ต้องปรับตัวเยอะ แต่ครั้งแรกที่ได้แสดงรู้สึกตื่นเต้นมาก เหมือนเราไม่เคยทำ พอมาลองทำก็รู้สึกกดดันและเกร็งไปทั้งตัวเลย (ยิ้ม) เราก็คิดอยู่ตลอดว่าจะทำได้ไหม หรือเราจะไม่เอางานทางนี้แล้ว ร้องไห้เลย คิดว่ารู้สึกทำไมยากจัง แต่ก็ลองทำมาเรื่อยๆ จนได้มาอยู่ GMM TV แล้วก็มาแสดงเต็มตัวแบบจริงๆ เลยคือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มันเป็นความฝันของเด็กชายคนหนึ่งที่ตื่นเต้นเป็นธรรมดา
ส่วนตัวคือไม่คิดเลยว่าจะมายืน ณ จุดๆ นี้ได้ด้วยซ้ำไป เราเริ่มจากการเป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งที่บ้านไม่ได้มีฐานะอะไรเลย คือเราเป็นเด็กข้างถนนเลย แต่อยู่ดีๆ ก็ก้าวมาอยู่จุดนี้ก็รู้สึกดีใจ สิ่งที่ทำให้อยู่ ณ จุดนี้ก็คือแรงเชียร์จากแฟนคลับด้วยส่วนหนึ่ง มีแน่เลย มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะแฟนคลับด้วยครับ และก็อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยที่ช่วยสนับสนุนเราในทุกๆ เรื่อง ก็ภูมิใจ วิธีรับมือกับข่าวของตัวเองคือ ถ้าข่าวนั้นเป็นความจริงก็ต้องยอมรับความจริงก่อน แต่ถ้าไม่ใช่ความจริงก็อยากให้เอาความเป็นจริงเป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วตัวเราก็รู้ดีที่สุด
สุดท้ายขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามผลงานของม่อนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว จนมาถึงตอนนี้ก็อยากให้ติดตามกันเรื่อยๆ สัญญาว่าจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นไปอีก จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน สามารถติดตามได้ที่ IG @chimomnac ครับ
