“รอง เค้ามูลคดี” เล่า น้ำตาไหลออกมาเองหลังทราบ “เปี๊ยก พิศาล” เสียชีวิต
อีกหนึ่งคนบันเทิงที่ได้เดินทางมาร่วมงานรดน้ำศพ ผู้กำกับชื่อดังอย่าง “เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี” สำหรับ “รอง เค้ามูลคดี” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงความสูญเสียครั้งนี้ว่า
เพิ่งเจอกันวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเป็นการเจอที่แปลกมาก ทุกครั้งที่เจอกันแล้วแยกกันกลับก็จะยกมือ พูดว่า แล้วเจอกันเว้ยเพื่อนรัก ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พอเราประกาศเสร็จแล้วลงมา เค้าก็บอกว่า เห้ย เดี๋ยว เราก็ถามว่า ทำไม เค้าก็เดินมาว่า ให้กูกอดที และเค้าก็พูดว่า กูรักมึงนะเพื่อนรัก เราก็นึกในใจว่า ไอ้เปี๊ยกมันเปลี่ยนไปว่ะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร
จนกระทั่งเมื่อเช้า “หมู สมภพ” โทรไปบอกว่า คุณพิศาล เสียชีวิตแล้ว น้ำตามันไหลออกมาเลย คือต้องบอกว่า พ่อรองกับคุณเปี๊ยก รักกันมาก เรียนหนังสือมาห้องเดียวกัน คบกันมาตั้งแต่อายุ 14-15 อยู่วงการเดียวกันด้วย เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น คุณพิศาลจะเชียร์ให้เราได้เกือบทุกเรื่อง
แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยมีการบอกว่ารักกัน กอดกัน ?
“ไม่เคยมี ชีวิตก็แค่กูรักมึงเท่านั้น แต่คราวนี้มันพิเศษ เดินเข้ามากอดและบอกกูรักมึงเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่ว่า เอ็งเปลี่ยนไปนะ”
สำหรับสุขภาพของเขาก็หาหมอประจำนะ แต่เราก็ไม่ได้ถามอะไร เราก็ไม่รู้เขาเป็นอะไร แต่วันนั้นอยู่ๆ เขาก็นั่งหลับ และบ่นปวดหลัง เราก็นึกว่าอายุเยอะแล้วมันเป็นเอง เขาไม่มีวี่แววอะไรเลย แค่ทักเขาว่า อ้วนมากไปแล้วนะ ระวังนิดนึง เขาแข็งแรงกว่าพวกเราอีก เขาออกกำลัง ไปฟิตเนส
“เราไม่ใช่ใจหายหรอก แต่มันบอกไม่ถูก มีเพื่อนหลายคนที่เสียชีวิต เราฟังเราก็ตกใจ แต่เมื่อเช้าพอเขาบอกว่า คุณพิศาลเสียแล้ว น้ำตามันไหลออกมาเอง คือความรักความผูกพันมันมีกันมาก
สำหรับตอนทำงานอาเปี๊ยก เป็นคนอุปนิสัยใจคอเป็นคนจริงใจนะ ถ้าเพื่อนคนไหนถูกรังแก พิศาลจะเป็นคนออกหน้าเสมอ ไปแก้ปัญหาให้เพื่อน จนกระทั่งโต มีงานมีการทำ เป็นผู้กำกับ ผู้จัดละคร เพื่อนคนไหนเดือดร้อน เขาช่วยได้ก็จะช่วย
สิ่งที่ อาเปี๊ยก ทำในแวดวงบันเทิง สร้างคุณประโยชน์อะไรไว้บ้าง
“ที่จริง เปี๊ยก เนี่ยเป็นอาจารย์โดยที่ไม่ได้คิดว่าเป็นอาจารย์นะ ลูกศิษย์เค้าเยอะมาก เค้าสอนคนเค้าตั้งใจสอน และคิดว่าจะทำได้ดั่งที่เค้าสอน บางคนแสดงไม่ดีเลย แต่ไม่ทันไรเด็กคนนั้นก็เก่ง ก็พยายามอดทน สอนแบบมีทั้งตบจูบ ลูบหัวสารพัด เพื่อจะให้เด็กคนนั้นเก่ง เด็กคนนั้นก็ทำตามนะ”
คิดว่าวงการบันเทิงสูญเสียคนเก่งๆ สูญเสียอย่างมหันต์เลย จริงๆ แล้วห่วงว่า เปี๊ยกเนี่ย เป็นระดับอาจารย์ ความสามารถของเปี๊ยกเนี่ย มากกว่าผมด้วยนะ เขามีเวลาที่จะอบรมสั่งสอนคน มีเวลาให้ความรู้คนในวงการให้อีกเยอะ เสียดาย
ใจเราคิดว่าคิดว่า อาเปี๊ยก ไปเร็วไหม ไม่ใช่เร็วไปหรอก กระทันหันเลย