“เอมมี่-เจมส์” แถลงข่าวเปิดใจหลังคลอด เผยสาเหตุทำไมถึงยังไม่มีใครได้อุ้มลูก
เรียกว่าลุ้นกันอยู่นานสำหรับทายาทของครอบครัว "เอมมี่ มรกต" กับสามี “เจมส์ จิรายุทธ แสงทวีป” ที่ล่าสุดคุณแม่ป้ายเเดงก็ได้คลอดลูกชายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ (11 ธ.ค.) แต่ก็ยังไม่มีใครได้เห็นหน้า ล่าสุดคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงก็ควงกันมาเปิดใจถึงความรู้สึกกับสื่อมวลชนว่า
รู้สึกดีใจและโล่งมาก เพราะตอนนี้เขาก็อยู่ในมือของคุณหมอที่เก่งมีความสามารถ แต่เรื่องของอาการและอื่นๆ อันนี้ต้องให้พี่หนุ่มเป็นคนเล่า
ทาง “ไฮโซเจมส์” เผย เอมมี่เขามีอาการรกเกาะต่ำมาตั้งแต่แรก ดังนั้นเราสองคนจึงต้องเฝ้าระวังกันมาตลอด เนื่องจากน้องต้องคลอดในสัปดาห์ที่ 38 แต่ว่าพอเข้าสู่สัปดาห์ที่ 35 คุณหมอก็เริ่มเตือนแล้วว่าให้เราระวังตัวนะ เพราะน้องสามารถมาในช่วงเวลาไหนก็ได้ ดังนั้นผมกับเอมมี่จึงตัดสินใจว่าจะให้เขาอยู่เฉยๆ ตั้งแต่วันที่ 1-11 เพื่อป้องกันไม่ให้น้องออกมาก่อนที่จะผ่าตลอด และถ้าถามว่าเราตื่นเต้นไหม แน่นอนเราตื่นเต้น เราตื่นเต้นทุกอย่าง เพราะเราไม่รู้เลยว่าลูกออกมาแล้วจะเป็นยังไง และอาการของคุณแม่จะเป็นยังไงบ้าง
เอมมี่ : คือถ้าเขาคลอดออกมาแบบฉุกเฉินตัวเอมมี่จะเสียเลือดเยอะ และถ้าหากเอมมี่เสียเลือดเยอะ มันก็หมายความว่าจะเป็นอันตรายต่อแม่ถึงขั้นตัดมดลูกทิ้งได้เลย ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันไว้ก่อน
ไฮโซเจมส์ : ถามว่าตื่นเต้นไหม จริงๆ ผมตื่นเต้นในมุมที่เป็นห่วงเอมมี่ด้วย เพราะตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าเลือดเขาออกเยอะขนาดไหน และอีกทางหนึ่งก็เป็นห่วงลูกด้วยเหมือนกัน แต่สุดท้ายพอได้ยินเสียงเขาร้องก็รู้สึกแฮปปี้ แสดงว่าน่าจะโอเค ทางเอมมี่ไม่มีโมเมนต์น้ำตาไหลเลย เขาขำ ยิ้มตลอด
เอมมี่ : จริงๆ เอมมี่ก็คิดว่าตัวเองจะร้องไห้อยู่เหมือนกัน แต่วินาทีนั้นหน้าพี่หนุ่มเขาดูตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นมากจนเรากลัวว่าเขาจะงงหรือเปล่า มันก็เลยเป็นเหตุผลให้เอมมี่ต้องคุยกับเขาตลอด คอยถามเขาว่าเห็นลูกหรือยัง จนทำให้เอมมี่ไม่ได้ร้องไห้ เหมือนเราคอยดึงสติเขา แต่พี่หนุ่มก็บอกเห็นน้องตอนที่คุณหมอนำน้องไปที่โต๊ะชั่งน้ำหนัก และคุณหมอก็เข้ามาบอกว่า อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปแรกเหมือนที่คนอื่นเขาถ่ายกันนะ เอมมี่ก็เลยตอบว่า ไม่เป็นไร เอาความปลอดภัยของน้องไว้ก่อน คุณหมอก็เลยเอาไปที่ห้องอภิบาลทารกแรกเกิด หรือบางที่เรียกว่าหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ เราสองคนก็ยังไม่ได้อุ้มน้องเพราะน้องยังอยู่ในตู้อบ ที่ทุกคนถามและสงสัยว่าทำไมไม่มีรูป ทำไมไม่เปิดเผย จริงๆ ไม่ได้อะไรเลยนะ แต่ว่าอย่างตัวเอมมี่เองพอเข้าไปอยู่ใน ICU เขาก็ไม่ให้ถ่ายรูป ไม่ให้เราทำอะไรเลย และก็ยังไม่ได้อุ้มเลย วันๆ ก็ได้แค่ไปเยี่ยมเช้ากับเย็น คือเยี่ยมได้ตลอดแหละ แต่ว่าอยากให้เขาได้พักผ่อน เพราะด้วยความที่เขาเกิดก่อนกำหนด และก็รกเกาะต่ำมาตั้งแต่แรก มันเลยทำให้เขาหายใจได้ไม่คล่องเหมือนเด็กคนอื่นๆ และต้องใช้เครื่องช่วย ส่วนจะต้องอยู่ในตู้อบนานเท่าไหร่ ตอนนี้ต้องดูวันต่อวัน
ไฮโซเจมส์ : จริงๆ ปกติเขาก็จะต้องอยู่ครบ 38 สัปดาห์นั่นแหละ อันนี้เท่าที่คุณหมอเล่านะ คือออกมาเร็วเท่าไหร่ก็จะต้องอยู่ในตู้อบให้ครบ เพราะตู้อบก็เปรียบเสมือนท้องแม่ ซึ่งปกติก็จะอยู่ที่ 38 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่บางคนด้วย คือถ้าเขาโตได้ไว ปรับตัวได้ไว ก็สามารถออกมาได้เร็ว
ด้าน “เอมมี่” ยอมรับยังกังวล คือลุ้นทุกวัน เพราะว่าเห็นตัวเขาแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้อุ้ม
ไฮโซเจมส์ : แต่เขาดีขึ้นทุกวันแล้ว
เอมมี่ : ตอนนี้ก็คือเขาเริ่มต้องการนมแม่แล้ว ดังนั้นเราก็ต้องตั้งใจที่จะปั๊มนมให้เขาให้เพียงพอ
ไฮโซเจมส์ : ส่วนที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับลูกตอนเกิด รูปนั้นไม่ได้อยากถ่ายเลยครับ รูป 3 คนพี่ไม่ได้อยากถ่ายอยู่แล้ว รูปหมวกฟ้าเนี่ย
เอมมี่ : ก็กลัวตลอดเวลาว่าพัฒนาการเขาจะเป็นอย่างไร แต่เอมมี่เชื่อมั่นในทีมคุณหมอที่นี่มากๆ คุณหมอเข้าใจเรา พูดให้เราสบายใจในระดับหนึ่งว่า สมัยนี้สำหรับผู้หญิงที่ทำงานระหว่างท้องก็อาจจะคลอดก่อนกำหนดบ้าง เราก็เลยสบายใจขึ้นนิดหนึ่ง แต่อาการของเด็กแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน เจอหมอทุกครั้งเราก็สบายใจขึ้นทุกครั้ง เพราะเขาพูดให้เราสงบและมีสติมากพอที่จะปั๊มนมให้ลูก เพราะถ้าเครียดจะทำให้น้ำนมไม่มา
เห็นมีตัวย่อ SS คืออะไร
ไฮโซเจมส์ : จริงๆ S ตัวแรกเราอยากให้เป็นนามสกุลแสงทวีป ดังนั้นชื่อก็น่าจะเป็น ส.เสือ นำหน้า คือตั้งไว้แล้ว แต่ตอนนี้ขอเห็นหน้าลูกก่อนว่าเขาเหมาะกับชื่อนี้หรือเปล่า ชื่อมันตั้งยากนะ แต่เรามีชื่อให้เขาตั้ง แต่รู้ว่าท้องแล้ว ผมดูง่ายๆ คือ เปิดอินเตอร์เน็ตดูว่าอักษรตัวไหนกาลกิณีก็ไม่ใช้เท่านั้นเอง ถามว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปไหม หลังมีลูกคือตอนนี้ผมยังไม่ได้เลี้ยงเลยยังไม่รู้สึกว่าเป็นยังไง แต่ยอมรับว่าเราห่วง ก็น่ารักดี อยากเห็นหน้าชัดๆ ตอนนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย
เอมมี่ : เมื่อวานเขาบอกคิดถึงลูก ไปหาลูกกันเถอะ เอมมี่ก็ตกใจในตัวเขาเหมือนกันนะ ที่เขาก็ดูตื่นเต้น ส่วนเรื่องพากลับบ้านยังไม่แน่ใจ แต่คุณหมอบอกว่าอีก 2 วันน่าจะได้อุ้ม
ระหว่างนี้ได้มีการฝึกเตรียมตัวเลี้ยงน้อง การอุ้มน้องไหม
เอมมี่ : เอมมี่เพิ่งจะเริ่มคล่องเรื่องการปั๊มนมเอง แต่เรื่องเลี้ยงน้องยังไม่เคยได้เลี้ยงเลย เพราะคุณหมอต้องรอให้น้องพร้อมกว่านี้ก่อน คือเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ภาพเลี้ยงลูกก็คิดว่าทำได้นะ เราเป็นคนค่อนข้างสู้ระดับหนึ่ง แต่จากเดิมที่บอกว่าจะไม่มีพี่เลี้ยง ตอนนี้ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะถอนคำพูดตัวเองหรือเปล่า เพราะไม่แน่ใจ แต่ก็จะพยายามทำเบื้องต้นไว้ก่อน เท่าที่ตัวเองทำได้
ส่วนเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ไม่กลัว เพราะต้องทนๆ เอา แต่เอมมี่คิดว่าตั้งแต่ตัวเองตั้งครรภ์มาก็ไม่ได้อารมณ์แปรปรวนมากนะ
ไฮโซเจมส์ : ผมว่าเขากลับดีขึ้นด้วยนะ เราไม่เจออารมณ์คนท้องวูบวาบเลย ไม่ค่อยมี ผิดกับตอนสาวๆ วูบวาบกว่าตอนท้องอีก ส่วนคนที่สองตอนนี้คิดว่าพอแล้ว
เอมมี่ : จากประสบการณ์ 3-4 วันที่ปั๊มนมมา ไหนจะมดลูก แผล พอแล้ว พอแล้วจริงๆ มันทรมาน ตอนนี้คือเรารักแม่มาก มนุษย์แม่เป็นอะไรที่สุดแล้ว ก็คงปิดอู่แล้ว เพราะกว่าจะได้คนนี้มาก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปี
ไฮโซเจมส์ : ก็เลี้ยงคนเดียวให้ดีๆ แบบไม่สปอยล์ เราคุยกันแล้ว เลี้ยงให้ติดดิน
เอมมี่ : เราก็มีคุยกันไว้ว่าเราจะคอยเตือนๆ กัน ถ้าทำอะไรที่มากเกินไป หรือที่จะทำให้เขาเสียคนได้ เราก็ต้องคอยเตือน
น้าๆ ป้าๆ มีสปอยล์หรือยัง มีซื้ออะไรให้หลานบ้าง
เอมมี่ : ทุกคนเลย ตอนนี้รู้สึกว่าเขาเสียคนตั้งแต่งานเลี้ยงต้อนรับครั้งก่อนแล้ว พี่ป้าน้าอาทุกคนดูจะสปอยล์มาก ดูพร้อมอุ้มชู