เปิดมุมมอง “เต ตะวัน” เล่นซีรีส์วาย สบายใจร่วมงาน “นิว ฐิติภูมิ”
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ถูกจับตามองอย่างมากสำหรับ “เต ตะวัน วิหครัตน์” ที่ล่าสุดเพิ่งมีผลงานซีรีส์ “Our Skyy อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น ตอน พีทเก้า” ให้ได้ติดตามกัน วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่ม “เต” ก็ไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องกระแสซีรีส์วายในตอนนี้ โดยเขาเผยว่า
จุดเริ่มต้นเล่นซีรีส์วาย
สำหรับจุดเริ่มต้นมาจากเรื่อง “Kiss me again” ในเรื่องนั้นยังไม่มีบทบาทมาก แต่จะมีบทบาทในภาค 2 จะได้เป็นคู่หลักด้วยในตอนนั้น ก็มีคุยกับ “นิว” เพราะเราเองก็เป็นเพื่อนกัน สนุกดีที่ได้ทำงานกับเพื่อน ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ร่วมงานกันยาวขนาดนี้
ร่วมงานกับ “นิว” เป็นยังไงบ้าง?
ผมรู้สึกสบายใจ เพราะเราเองสนิทกัน ไม่ลำบากใจที่ได้ทำงานร่วมกัน
ในเรื่องการเข้าฉากต้องทำยังไง?
ถ้าฉากทั่วไปมันจะชิวมากๆ เล่นง่าย แต่ถ้าฉากที่ในชีวิตจริงไม่ได้ทำ เช่น ฉากจูบหรือฉากใกล้ๆ ตอนแรกก็มีคิดว่าจะทำยังไง แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันก็สั่งให้เราทำแบบไม่มีเงื่อนไข
ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง?
เราไม่ได้ถาม แต่น่าจะมีผ่านตากันบ้าง เพราะว่าแม่เองก็เล่นอินสตาแกรม แต่เขาก็บอกว่าได้งานมาก็ทำให้เต็มที่ ได้โอกาสมาแล้ว คุณแม่ไม่มีห้ามอะไร แค่อยากให้เล่นให้ดีในทุกๆ บทบาท
กลัวติดภาพหรือเปล่า?
เราไม่กลัว เพราะเราก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ ในชีวิตจริงก็ยังไม่มีแฟน
มองว่ากระแสซีรีส์วายจะไปได้อีกไกลหรือเปล่า?
เรามองว่ามันเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น อาจทำออกมามากขึ้น ทำให้หลายคนบ่นว่ามันเยอะเกินไป แต่อีกมุมก็ทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา เพราะในยุคนี้ก็เปิดมากขึ้น การที่มีแบบนี้มันก็เป็นข้อดีที่ทำให้มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
มุมมองกับเพศที่สาม?
ผมเองรู้สึกว่าทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่ากัน ทำในสิ่งที่ตนเองต้องทำ มันเป็นเพียงแค่รสนิยมที่ไม่สามารถนำมาตัดสินคนได้
เด็กดูแล้วจะทำตาม เรามองว่ายังไง?
ผมไม่คิดว่ามันเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะเป็นความชอบของคน เราเองไม่กังวลว่าแฟนๆ จะเลียนแบบ อยากให้มองที่อย่างอื่นดีกว่า อย่าตัดสินคนจากเรื่องนี้เรื่องเดียว
ถ้าเลือกได้ต่อไปยังคงอยากเล่นแนวนี้อีกหรือเปล่า?
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้นำเรื่องนี้มาเป็นข้อจำกัด ผมเองจะมองที่ว่าบทดีหรือไม่ดี โฟกัสตรงนี้เป็นหลัก เราอยู่ในจุดที่มีงานอะไรมาก็รับ ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ด้วย แต่อยากรับบทที่ท้าทาย บทแปลกๆ ด้วย
ฝากถึงแฟนคลับ
ก็ตั้งใจทำหน้าที่หรือสิ่งที่เราต้องทำก็พอ อย่าเอาสิ่งที่คนอื่นมองเราไม่ดี มากำหนดชีวิตเรา ก็คือตัวเราทำสิ่งที่เราควรทำ ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น