“แจ๊ส-จิ้ม-จอย” เผย “พ่อดม” เป็นห่วง “จุ๋ม” ภรรยา “ป๋าเทพ”
ที่วัดนวลจันทร์ จิ้ม ชวนชื่น, แจ๊ส ชวนชื่น และ จอย ชวนชื่น ลูกสาวได้ให้สัมภาษณ์แก่ “ดาราเดลี่” ภายหลังต้อนรับแขกที่มาร่วมรดน้ำศพ “พ่อดม ชวนชื่น” ที่จากไปในวัย 84 ด้วยโรคมะเร็งตับ
โดย “แจ๊ส” บอกว่าเรื่องป่วยนี้พ่อไม่รู้นะครับ เราไม่ได้บอกอะไรท่าน เรารู้ครับ : ลูกๆ ทุกคนรู้หมดทุกคนครับ แต่ไม่ได้บอกพ่อ คือถ้าบอกพ่อไปเราก็กลัวว่าแกจะทุกข์ อายุแกก็มากแล้ว ด้าน “จอย” เผยว่า มีแต่เราที่ปิดพ่อ ไม่บอกพ่อเท่านั้นเอง
Q: ช่วงตลอดเวลา 5-6 เดือนมานี้ท่านได้สั่งเสียอะไรไหม
“จิ้ม” เผยว่า ไม่มีครับ เพราะพ่อก็ไม่รู้ พ่อเลยสั่งอย่างเดียวว่า อยากจะไปคอนเสิร์ตแจ๊ส อยากจะไปรายการป๋าซ่า จะไปสตาร์ทรถให้ที แบตรถพ่อจะหมด เพราะะพ่อก็ไม่รู้ พ่อจะความหวังของแกอยู่เสมอ
จอย : พ่อก็จะมีความหวังว่าพ่อจะหาย แล้วเดี๋ยวจะได้ไปเล่นคอนเสิร์ตกับแจ๊สอีก จะได้ไปทำงานที่แกชอบ มีความหวังแบบนี้อย่างเดียวเลย
คำถาม : คือลูกๆ รู้แล้วใช่ไหมว่าพ่อป่วย
จอย : รู้หมดทุกคนค่ะ
คำถาม : หลังจากที่คุณพ่อดมเสียชีวิตไป ต้องจัดการหนี้ขั้นตำ่เกี่ยวกับการลิขสิทธิ์เพลง หรือว่าทรัพย์อะไรไหม
จิ้ม : บอกว่าไม่สั่งเสียเลยก็ไม่ได้ เพราะว่าพ่อก็ไม่รู้ อยู่ๆ อาการแกค่อยๆ แผ่วออกไป แต่หลังๆ มานี้น่าจะประคองตัว
จอย : เหมือนมีอยู่ครั้งหนึ่ง แม่รัตน์เคยถามพ่อว่า อยากกลับบ้านไหม แล้วพ่อก็ตอบว่า ไม่กลับหรอก กลับไปก็ตาย พ่อเลยบอกว่า อยู่โรงพยาบาลนี่แหละมันสบายแล้ว มันมีหมออยู่ช่วย เวลาพ่อจะเป็นอะไร เพราะว่าถ้ากลับไปบ้าน พ่ออาจจะไม่เจอหมอ อาจจะไม่รู้ว่าต้องทำยังไง พ่อเลยรู้สึกว่าน่าจะดีกว่าคิดว่าเป็นแบบนั้น
คำถาม : พ่อดมได้พูดถึงอะไรบ้างไหม
แจ๊ส : แกก็ไม่ได้พูดอะไร
จิ้ม : พ่อแกก็แข็งแรงดี ตอนไปตรวจก็แข็งแรงดี แต่พอเราให้พ่อทำคีโมครั้งแรกที่สุ่ม
แจ๊ส : นับถอยหลังไปเรื่อยๆ โรคมะเร็งเขารู้อยู่แล้ว แต่แกก็น่าจะรู้แล้ว เขาไม่ค่อยสบายแล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว
คำถาม : ผลงานของพ่อดมที่เหลืออยู่ ต้องเคลียร์ทั้งหมดไหม
จิ้ม : จังหวะดี
จอย : จังหวะดีมากนะ ตั้งแต่พ่อเริ่มป่วยก็เริ่มบอกว่า พ่อไม่ต้องรับงาน พี่จิ้มก็จะคอยสั่งว่าต้องไม่ต้องทำแล้วนะ จะให้พ่อรักษาตัวอย่างเดียว พ่อก็เลยสบายๆ ไม่มีอะไรติดค้างกับใครแล้ว
คำถาม : กับหลานๆ นี่เขาเป็นยังไงดูแลเป็นพิเศษไหม
จิ้ม : โดยรวม รักโดยรวมอยู่แล้ว
แจ๊ส : ก็จะไม่เจาะจงใคร
จอย : แต่พ่อแกจะไม่ลำเอียงเนอะ พ่อแกรักลูกเท่ากัน
จิ้ม : หนักๆ เลยก็ไปช่วยพี่จุ๋มขายขนมเปี๊ยะ ที่เขาเป็นห่วงมาก
จอย : น่าจะห่วงก็น่าจะห่วง คนนี้นี่แหละ คนนี้น่าห่วงที่สุด เพราะพ่อจะรักผู้หญิง เขาเป็นห่วง
จิ้ม : เพราะทำมาหากินอะไร พ่อก็จะช่วยขายเสื้อ พ่อก็อยากไปช่วยพี่จุ๋มขายขนมเปี๊ยะ ไปเล่นคอนเสิร์ต แล้วก็ไปขายเสื้อผ้า
คำถาม : หลังจากนี้ไปไม่มีพ่อแล้ว จะทำยังไงต่อไป
แจ๊ส: ก็ทุกอย่างมันเตรียมใจไว้หมดแล้ว ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป
จอย : พี่น้องก็คือยังเกาะกลุ่มกันอยู่ ก็คุยกัน ประสานงานกันไป
คำถาม : พิธีการนี้เป็นยังไง เตรียมงานยังไงบ้าง
จิ้ม : พิธีการก็คือ การแสดงสิ่งที่พ่อเป็น พ่อเป็นลิเกก็ลิเกคืนหนึ่ง นักดนตรีลูกทุ่งก็คืนหนึ่ง พ่อเป็นตลกก็เป็นตลกคืนหนึ่ง พ่อชอบเป่าแซก ก็จะเป็นคืนหนึ่งที่จะเป็นนักเป่าแซกทั้งหมด ที่พี่ๆเพื่อนตอบรับมาแล้ว พี่ต๋อง J ONE แล้วก็พี่โชคและอีกหลายท่านที่พ่อสนิท สุดท้ายก็คือคอนเสิร์ตของแจ๊ส
คำถาม : ส่วนใหญ่แล้วคนควรจดจำอะไรพ่อบ้าง ในวงการบันเทิง
แจ๊ส : ผมเห็นวันนี้คนรักแกเยอะมากๆ แกเป็นคนง่ายๆ
จอย : พ่อเป็นคนมีความสุข พ่อสร้างแต่รอยยิ้มให้กับทุกคนไม่เคยทำให้ใครต้องทุกข์ใจ อึดอัดใจ มีความสุขเฮฮาในรูปแบบของพ่อ
จิ้ม : สิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้ก็คือ คนแก่หลายคนที่ทำตัวห่อเหี่ยว อยากให้มองพ่อเป็นตัวอย่าง พ่อเขาเหี่ยวแต่พ่อไม่เฉา เหมือนต้นไม้ที่กิ่งก้านไป เหี่ยวก็คือเหี่ยวแต่อย่าเฉา พ่อก็จะคิดว่าพ่อทำตัวให้มีคุณค่าตลอด พ่อเรียนรู้กับโรคปัจจุบัน พ่อเลี้ยงเราให้เป็นเหมือนเพื่อน ให้ปรึกษาได้ พ่อเลี้ยงลูกไม่ตี ไม่ด่าลูก เขาสามารถดูแลประคับประคองได้ทุกคน คนไหนอยากเรียนก็ให้เรียน คนไหนอยากขายของก็ซื้อวัตถุดิบให้ ก็อยากให้พ่อแม่ของแต่ละคนให้เป็นแบบพ่อ ผมว่าเด็กแต่ละคนก็จะมีความสุข คือสำหรับงานศพ พ่อบอกไม่ให้เศร้า เราก็เลยจัดมหรสพมาทุกคืน แล้วก็ให้แต่งชุดสีชมพู