น้ำตาคลอ “แม่นก-น้องบูม” เปิดใจ หลัง “ชูษี” โพสต์เดือดตัดขาดพ่อลูก

น้ำตาคลอ “แม่นก-น้องบูม” เปิดใจ หลัง “ชูษี” โพสต์เดือดตัดขาดพ่อลูก

0

น้ำตาคลอ “แม่นก-น้องบูม” เปิดใจ หลัง “ชูษี” โพสต์เดือดตัดขาดพ่อลูก

               หลังจากเป็นเรื่องราวโด่งดังบนโบกโซเชียล หลังจากที่ “ชูษี เชิญยิ้ม” ออกมาโพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศตัดขาดกับลูกสาวแท้ๆ “น้องบูม ชญาภา” ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากความไม่เข้าใจกันในครอบครัว ล่าสุดหัวอกของคนเป็นแม่ อย่าง “นก วนิดา” ควง “น้องบูม” ออกมาเปิดใจครั้งแรก ที่สตูดิโอ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยเจ้าตัวได้พูดถึงความรู้สึกทั้งหมดว่า

ชูษี นก บูม ดราม่า ครอบครัว ตัดขาด พ่อลูก

               กับ “น้องปอ” แฟนใหม่ของพี่ชูษีไม่ได้มีปัญหาอะไร แถม “น้องปอ” ยังบอกอีกว่าให้เอา “พี่นก” กับ “น้องบูม” มาร่วมงาน แต่มาช่วงหลังรู้สึกว่า “น้องปอ” จริงๆ ก็ไม่ได้เรียกว่าหึง เพียงแต่เขาไม่พอใจ รู้สึกว่าเราไม่ให้เกียรติเขา แต่ปัญหานี้เคลียร์แล้วจบกันไปแล้ว

               ส่วนตัว “น้องบูม” เล่าว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องราวทุกคนคงจะเห็นว่าหนูไม่ได้มีการตอบโต้หน้าเฟซแต่อย่างใด เพราะหนูมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว เราสามารถที่จะเคลียร์กันได้ อาจจะรอระยะเวลาให้ทุกอย่างเบาลงก่อน หนูจะเข้าไปขอโทษคุณพ่อ แต่ ณ วันนี้ประเด็นเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากหนู และอยู่บนที่ของสื่อ แล้วหนูก็คงต้องออกมาพูด ต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากความผิดของหนู ที่หนูมีความรักและเคารพต่อบุพการีของหนู พ่อแม่ตายาย ถ้าหากมีใครมาล่วงล้ำก้ำเกินคนในครอบครัวเราก็อยากออกมาปกป้อง ซึ่งคนที่มาล่วงเกินแม่และยายของหนูเป็นภรรยาใหม่ของพ่อ แต่ถึงยังไงหนูก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้พ่อถูกใจหรือตัดขาดกับหนู ถ้าหนูทำอะไรให้กระทบจิตใจพ่อ หนูต้องกราบขอโทษด้วย

ชูษี นก บูม ดราม่า ครอบครัว ตัดขาด พ่อลูก

               ประเด็นที่ “น้องบูม” ไปเห็นข้อความแชทไลน์คือยังไง จริงๆ ที่หนูแคปรูปภาพแชทไลน์แฟนใหม่พ่อ หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะแบล็กเมล์ให้พ่อกับเขาแตกขาดกัน แต่หนูแคปเอาไว้เพื่อที่จะมาบอกแม่ มาถามแม่ว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ชอบเราขนาดนั้นเลยเหรอ เราก็ควรอยู่ส่วนของเราไหม ต่างคนต่างอยู่จะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน

               ส่วนเรื่องที่คุณพ่อบอกว่าหนูมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาเป็นปีแล้ว โดยคุณแม่ “นก วนิดา” โต้กลับว่า พี่ว่าไม่มีนะ เพราะว่าถ้าจะก้าวร้าวจริงๆ คนอื่นๆ ที่น้องร่วมงานด้วยก็ต้องพูดกันแล้ว ก็อาจจะมีพูดบ้าง แต่อาจจะเป็นพฤติกรรมที่น้องบูมคุยกับเพื่อน ก่อนหน้านี้มันมีอยู่ก็อาจจะเป็นการคุยกับเพื่อน แต่ถ้ากับผู้ใหญ่หรือคนในครอบครัวพี่ว่าไม่มี เพราะถ้ามีก็คงจะมีออกมาให้เห็นแล้ว

ชูษี นก บูม ดราม่า ครอบครัว ตัดขาด พ่อลูก

               โดย “น้องบูม” กล่าวว่า อาจจะเป็นโพสต์ที่หนูโพสต์ตัดพ้อบนเฟซ ว่าตอนที่หนูไปเห็นแชทไลน์ ภรรยาใหม่ของพ่อหนูก็อาจจะมีเสียใจแล้วโพสต์ลงเฟซ แต่ไม่ได้เจตนาหรือกล่าวถึงใครในคำพูดที่หยาบคาย ซึ่งอันนี้หนูก็ยอมรับว่าหนูเสียมารยาทพี่เข้าไปดูของพี่ปอ แต่ก็อย่างที่กล่าวไป หนูไม่ได้มีเจตนาให้ใครทะเลาะกัน แต่หนูแค่เสียใจและเอามาพูดกับแม่เพียงคนเดียว หนูก็ไม่ขอโต้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น ความผิดทั้งหมดหนูขอรับผิดเพียงคนเดียว

               คิดยังไงที่พ่อออกมาไลฟ์สดลงเฟซ และคิดว่าหนูจะสู้กับพ่อ คำพูดเหล่านั้นมันมีจริง แต่หนูไม่ได้มีเจตนาที่จะทะเลาะกับพ่อ แต่หนูออกมาชี้แจงมากกว่า เพราะตั้งใจจะโทรไปเคลียร์กับพ่อแล้ว แต่พ่อไม่รับสาย หนูเลยชี้แจงออกไปว่าตัวหนูเป็นยังไงพ่อก็น่าจะรู้ดี นั่นหนูมีเจตนาที่จะหมายถึงว่าเรารู้สึกยังไงมากกว่า เพราะตลอดระยะเวลา 27 ปีที่เกิดมาเป็นลูกพ่อชูษีและแม่วนิดา หนูไม่เคยทำตัวเสื่อมเสียหรือทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังเลย หนูถูกอบรมจากตายายให้มีความรักในความเท่าเทียมระหว่างพ่อกับแม่ทั้งสองให้เท่ากันถึงหนูจะอยู่ฝ่ายครอบครัวของแม่มากกว่าก็ตาม

ชูศรี บูม ลูก ดราม่า ครอบครัว

               เหตุผลที่เราบล็อกเฟซพ่อเพราะอะไร 1. คือพ่อไม่ฟังหนูเลย 2. พ่อบอกว่าต่อไปนี้ต่างคนต่างอยู่ ในความรู้สึกของหนูหนูคิดว่าหนูเป็นตัวปัญหาหรือเปล่าที่ไปทำให้ครอบครัวของพ่อต้องหนักใจ แต่จริงๆ แล้วหนูไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย บางทีการโพสต์เฟซของหนูหนูคิดว่ามันเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

               “นก วนิดา” อยากฝากถึง “พี่ชูษี” การที่เรา 3 คนออกมาพูดต่อหน้าสื่อแบบนี้หนูไม่ได้มีเจตนาที่จะมาสู้หรืออะไรกับพี่เลย เพราะถ้าหนูคิดจะเอาชนะพี่หนูแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว หนูแค่อยากทัก อยากให้หน้าที่ของคนเป็นแม่ปกป้องลูก บูมเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมดีมาตลอด ไม่เคยก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่ที่เขาทำเพราะเขาสงสารเรามากกว่า

ชูศรี บูม ลูก ดราม่า ครอบครัว

               ด้าน “น้องบูม” กล่าวว่า ตัวหนูพร้อมที่จะออกไปขอโทษกับพ่อ แต่หนูขอเวลาก่อนเพราะว่าตอนนี้ต่างคนต่างใจร้อนและมีอารมณ์ต่อกัน หนูคิดว่ามันจะแรงขึ้นมากกว่าเดิม แต่ว่าพ่อไลฟ์ก่อนมันเลยเกิดประเด็นทางโซเชียลขึ้น จนตอนนี้สังคมมองว่าเราเป็นเด็กที่ก้าวร้าวไปแล้ว เพราะทุกวันนี้มันมีแต่เจ็บกับเจ็บ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่มาพูดว่าแม่ของเราก็ไม่สามารถมีใครที่จะรับได้ ก็ต้องออกมาปกป้องเหมือนหนู

               คิดเห็นยังไงกับพฤติกรรมทางด้านโซเชียลของตัวเอง มองว่ามันเป็นการระบายความรู้สึก แต่อาจจะขาดการยั้งคิด ซึ่งการระบายผ่านโซเชียลทุกคนก็ทำกันอยู่แล้ว แต่หนูอาจจะคิดสั้นหรือคิดน้อยเกินไป ทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกไม่ดี เป็นเด็กที่ไม่น่ารัก หนูก็ต้องกราบขอโทษด้วย

               ในส่วนของ “แม่นก” อยากให้เรื่องราวนี้จบลงยังไง มันกลายเป็นการพาดพิงถึงบุคคลที่ 2 3 4 ไปแล้วตอนนี้ มันอาจจะจบลงได้ง่ายอยู่แล้ว เพราะพี่เชื่อว่าพ่อกับลูกมันตัดกันไม่ขาด แต่ความเป็นผัวเมียของพี่มันอาจจะขัดกันไปแล้ว แต่ความเป็นลูกพี่เชื่อว่ามันไม่ขาดแน่นอน ซึ่งมองหน้ากันติดอยู่แล้วเพราะพี่ไม่ได้คิดอะไรแล้ว

ชูศรี บูม ลูก ดราม่า ครอบครัว

               ด้าน “น้องบูม” มองว่าประเด็นทั้งหมด เรื่องราวทั้งหมด ความผิดทั้งหมด เกิดกับตัวเราเอง ขอรับผิดเพียงคนเดียว และออกมาขอโทษพ่อ และตัวเองก็จะระมัดระวังในการใช้โซเชียลให้มากขึ้นกว่าเดิม และตั้งใจอยากจะบอกว่าจริงๆ เรื่องในบ้านก็ตามแต่ จะคุยแค่คนในครอบครัวกันอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตบนโลกโซเชียล ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ที่พ่อมองว่าหนูผิดหรือไม่ดี หรือคิดว่าหนูเป็นลูกอกตัญญูใดๆ ก็แล้วแต่ หนูไม่โกรธเพราะว่าเราไม่มีการนั่งคุยกัน พูดคุยกัน และหลังจากนี้ถ้าเราหันหน้าคุยกันมันก็อาจจะดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นหนูก็กราบขอโทษไม่ว่าจะเป็นกาย วาจา ใจ ที่หนูกระทำ แล้วทำให้พ่อคิดว่าหนูล่วงล้ำเกินพ่อ หนูก็ต้องกราบขอโทษไว้ ณ ตรงนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments