เปิดใจแม่หนิง เลี้ยงณิรินอย่างไรให้เป็นสตาร์
เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นสำหรับ "ณิริน" ลูกสาวของ "หนิง ปณิตา" และ "พ่อจิน" โดดเด่นจากละคร "ระบำมาร" ของแม่ที่เป็นผู้จัดเอง กระทั่งมีชื่อชิง สีสันแห่งปี จากเวทีดาราเดลี่อวอร์ด ไม่พอยังประสบความสำเร็จจากบทบาทพิธีกรในรายการ "ลิตเติ้ล ณิริน" ทางยูทูบแชนแนล เอาเป็นว่าเป็นดารา พิธีกรเด็กที่มีแฟนๆ ติดตามมากคนหนึง "ดาราเดลี่" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "หนิง ปณิตา" ถึงความสำเร็จของ "ณิริน" และการดูแลเลี้ยงลูก ตลอดจนอนาคตในวงการของณิริน
หนิงจัดสรรเวลาทำงานของณิรินกับเรื่องเรียนอย่างไร
ตนไม่เอาเปรียบเวลาเรียนลูกเลยโอเคแม้ คิว 70 เปอร์เซนของเขาเป็นเรื่องงานพิธีกร แต่น้องไม่ได้เลิกเรียนแล้ววิ่งไปทำงาน หนิงถามว่าณิรินพร้อมไหม เหนื่อยไหม อยากทำไหม คืออยู่ที่น้องอยากจะทำ หนิงไม่ใช่คนแบบที่มีงานอะไรก็ให้ลูกทำ คือเรามองว่าอันนี้เป็นสิ่งที่เขาอยากทำหรือเปล่า ถ้าเขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำก็โอเค สำคัญสุดคือเราไม่ได้บังคับ
จากความสำเร็จของณิรินในช่วงนี้ มองพัฒนาการน้องต่อไปอย่างไร
เรื่องพัฒนาน้อง จริงๆ ไม่เคยพัฒนาอะไรเขาคือ อะไรก็ได้ ที่ทำมีความสุข ชอบอะไร ก็สนับสนุน วันนี้เราว่าเขาเจอแล้ว ด้วยวัย อาจจะไม่ได้เต็มที่ อย่างงานพิธีกร คุยกันไปซีซันๆไป จบไปเป็นงานๆไป
จริงๆ ไม่ได้คิดว่าอยากให้ทำให้ดีมากแค่ไหน จะทำอะไรต่อ ไม่กดดันลูก แต่สิ่งที่พี่จะสอนคือเวลาทำงานเขาก็มีมุมเล่น งอแง มากเหมือนกัน เวลาทำงานกับแขกรับเชิญเขาก็คือเด็ก หนิงจะเน้นสอนเขาว่า ณิรินลูกอยากทำเองด้วยใช่ไหม ต้องรับผิดชอบ เหมือนตอนเล่นละคร พี่ไม่ได้อยากให้เขาเล่น น้องขอเล่นเอง พี่โน่ก็โอเค เสร็จงานก็ต้องถาม อยากทำอีกไหม เขาบอกอยาก
ทีหนิงว่า งานก็ให้เสร็จเป็น อีพีไป คือณิรินอาจจะพักพิธีกรไปก่อนหรือ
งานพิธีกรทุกคนอยากให้ทำงานยาวๆ 10 ep พอ แต่คนกำลังติดเลย คือหนึ่งเราไม่จำเป็นต้องไปผลักดันเขาขนาดนั้นแต่ในวัยเขา เป็นวัยที่ 5-6 ขวบเขาต้องมีความเป็นเด็กให้มาก ผ่อนให้เขามีตัวตนบ้าง พี่ไม่มายด์ว่าลูกต้องทำงานบันเทิง ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ณิรินก็เข้าใจ สมมุตหยุด คนลืมจะไม่มีโอกาสอีก อันนั้นคือโอกาสของเขา ถ้าเขาจะได้เป็น
กับงานละครจะสนับสนุนณิรินต่อไปอย่างไร
กับละครนี้ 100 เปอร์เซ็นต์นะ แต่หนิงรอให้เขาโต จะสนับสนุนให้ จริงๆ หนิงเห็นณิรินทำงานในกองละครสงสารลูกมาก แม้จะมีคนชอบ เหมือนมีคนชม แต่ก็ทำให้เราเลี้ยงลูกยากขึ้น โซเชียล คนรู้จักเขามากขึ้น เราสอนให้เขาไนซ์กับคน ใส่ใจมากขึ้น คือกิริยามารยาท ต้องสอน ทุกวันนี้เขาก็แยกไม่ออก
เป็นห่วงเรื่องเด็กโตเกินวัยไหม
กลัวเรื่องโตเกินวัยหรือเปล่า คือหนิง จะบอกว่า เป็นอะไรที่โดนถามตั้งแต่แรกแล้ว หนิงกังวลเหมือนกัน เด็กที่มีความสามารถ ถ้าเขามีกิริยาที่สุภาพ รู้จักแบ่งปัน คิดว่าไม่มีใครว่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครว่า แต่เขาก็จะหลุดบ้าง กับคนเยอะๆก็มีหลุด แต่หนิงก็ไม่ว่าเขา ไม่ตำหนิเขาต่อหน้าคน ก็สอนว่าอันนี้ไม่เหมาะ เขาถามผิดก็เดินมาถาม เดียวจะอบรมไรไหมคะ เราก็จะบอกนี่คิอสิ่งที่แม่สอน เขาบอกบางทีก็ลืมตัวคะ